“ศรีวราห์” ปฏิเสธไม่น้อยใจ โซเชียลติดแฮชแท็กไม่เอาตน ยืนยันทำตามกฎหมาย มั่นใจหลักฐานเอาผิด “เจ้าสัว” ได้

จากกรณี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย และพวกรวม 4 คน ร่วมกันลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ของกลางที่พบในที่เกิดเหตุ

วันนี้ (6 มี.ค.61) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอ จากของกลางอาวุธปืน อุปกรณ์ครัว และอื่นๆ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า มีดีเอ็นเอของเสือดำซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองปะปนอยู่ โดยพยานหลักฐานทั้งหมดมีความแน่นหนาพอที่จะดำเนินคดี นายเปรมชัยและพวกได้ ส่วน งาช้าง ที่พนักงานสอบสวนพบในบ้านของ นายเปรมชัย นั้น เบื้องต้น กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ นางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยาของนายเปรมชัย เรียบร้อยแล้ว ในข้อหาครอบครองซากสัตว์สงวน ความผิดตามมาตรา 19 การครอบครองสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน และ ซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบลักษณะการจัดตั้งวางงาช้าง ในบ้านของ นายเปรมชัย ว่าวางไว้ในตำแหน่งไหน เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องเก็บของ หากพบว่าเป็นการตั้งโชว์ อาจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อ นายเปรมชัย ในข้อหาร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่า ส่วนเรื่องการจดแจ้งครอบครองที่มีเจ้าหน้าที่เป็นผู้รับจดแจ้งนั้น จะต้องตรวจสอบว่า เข้าข่ายร่วมกันจดแจ้งด้วยหรือไม่ ซี่งหลังจากนี้เวลา 15.00 น. ตนจะเดินทางไป กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) เพื่อของดูคำให้การของบุคคลที่พนักงานสอบสวนเรียกมาสอบปากคำ

สำหรับโลกโซเชี่ยลที่มีแฮทแท็ก ไม่เอา "ศรีวราห์" นั้น รองผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ตนทำงานตามคำสั่ง โซเชียลจะว่ายังไงก็เป็นสิทธิ ซึ่งเป็นเรื่องนอกกฎหมาย ในการบังคับให้ใครคิดยังไง และโซเชียลไม่มีในกฎหมาย ไม่ได้รู้สึกน้อยใจ ท้อใจในการทำงาน เพราะตนเองทำงานตามกระบวนการ แต่หากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำเคลื่อนไหวที่เป็นกระบวนการ ตนก็จะดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน เบื้องต้น ขณะนี้พบมีหลายบุคคลเข้าข่ายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ระบุว่า ส่วนกรณีผลการตรวจพิสูจน์ ทั้งมีดและอาวุธปืน พบ ดีเอ็นเอ เชื่อมโยงกับผู้ต้องหามากกว่า 3 คน แต่ยังระบุไม่ได้ว่า เป็นดีเอ็นเอของบุคคลไหนบ้าง เนื่องจาก บนของกลางมีดีเอ็นเอปรากฏอยู่มาก รวมถึงดีเอ็นเอของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมด้วย ส่วนกรณีที่ กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่งแนววิถีกระสุนปืนให้พนักงานสอบสวนนั้น ไม่สามารถนำมาประกอบสำนวนคดีได้ เนื่องจากการกำหนดแนวกระสุนปืนไม่เป็นไปตามหลักการ เช่น เห็นร่องรอย รูกระสุน คราบตะกั่ว ทองแดง จึงไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้ และไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อสำนวน