จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "โซเชียล hunter.reborn" เผยแพร่เรื่องราวและภาพวงจรปิด ชายหญิง 6 คน เข้ามาเจรจาถึงเรื่องครอบครัวของผู้เสียหาย แต่การเจรจาไม่สำเร็จ หลังจากนั้นเกิดการรุมทำร้ายกัน จนกระทั่งทำให้ภรรยาผู้เสียหายแท้งลูก เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 17 ต.ค. 63 เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา
วันที่ 22 ต.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุร้านซ่อมรถขนาด 3 คูหา หมู่ 6 ถนนสายเศรษฐกิจ ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี
นางสาวสุนีย์ บรรดาศักดิ์ อายุ 39 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการรักษาตัว จากการถูกกลุ่มเพื่อนของสามีรุมทำร้ายร่างกายจนทำให้แท้งบุตร เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนได้มีการนัดให้ทางด้านของนายเป้า เข้ามาเจรจรากัน แต่พอลงรถมาฝ่ายภรรยาของนายเป้ามีการตะโกนด่ามาแต่ไกลว่า "มึงด่าผัวกูหน้า ห. หรอ?" ซึ่งตนก็ยอมรับว่าด่าจริง เพราะนายเป้าเข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น
จากภาพวงจรปิด จะเห็นได้ว่าตนเป็นฝ่ายเดินออกไปด้านนอกก่อน เพราะเนื่องจากตรงบริเวณนั้นค่อนข้างเสียงดัง เนื่องจากมีพนักงานกำลังทำงานอยู่ ต่อมาตนก็ถามกลับไปว่า "แล้วมึงมาด่าโคตรแม่กูทำไม" หลังจากนั้น ก็มีการประชิดตัว และเริ่มมีการทะเลาะวิวาทกัน
ส่วนตัวคาใจในเรื่องของ GPS ว่าทำไมนายเป้าถึงเอามาติดที่รถของตน นายเป้าเป็นคนพูดกับตนเองว่าเป็นคนเอามาติด ซึ่งตนก็ใช้ชีวิตตามปกติ เลิกงานแล้วก็กลับบ้านมาพักผ่อนเพราะตัวเองกำลังป่วยเครียด นอนไม่หลับ ก้อนที่สามีของตนสารภาพภายว่าเป็นคนให้นายเป้าหา GPS มาติด
หลังจากเกิดการทะเลาะวิวาท ตนได้รับความเสียหายทางร่างกาย อาการช้ำเขียวบริเวณซี่โครง เข่า แขน และเจ็บปวดบริเวณท้องน้อยอย่างมาก มีผลชันสูตรจากตำรวจว่ามีการได้รับบาดเจ็บ แพทย์ระบุว่ามีอายุครรภ์ประมาณสัปดาห์กว่า ๆ ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจ เพราะตั้งใจวางแผนจะมีลูกอีกคนอยู่แล้ว
นายอำพร ยาตรา อายุ 38 ปี สามีผู้เสียหาย เล่าว่า สาเหตุเกิดจากตนเคยทะเลาะกับนางสาวสุนีย์ แล้วขอให้นาย เพื่อนสนิท ช่วยหา GPS ไปติดรถของนางสาวสุนีย์เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยเลิกกันแล้วน้ำมีผู้ชายคนอื่น มีภาพหลุดออกมาว่าน้ำไปเที่ยวตามสถานบันเทิง เลยไม่ค่อยเชื่อใจ จนมาทราบในภายหลังว่าตนเข้าใจผิด เนื่องจากเป็นภาพเก่าตอนที่เลิกกันเมื่อต้นปี 2562
วันเกิดเหตุนายเป้ากับภรรยาตนมีปัญหาเคืองใจกัน ทำให้ภรรยาตนรู้สึกโกรธนัดให้มาเคลียร์กันที่ร้าน ตนนั่งสังเกตการณ์จากการยืนเจรจา แต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้นจึงเริ่มมีการลงไม้ลงมือกันเกิดขึ้น ตนก็เข้าไปจับแยกในภายหลัง เพราะเห็นว่าภรรยาไม่สามารถสู้กับอีก 2 คนได้ ส่วนตัวรู้สึกเสียใจและลำบากใจ เพราะเป้าก็คือเพื่อน คนเจ็บคือภรรยา ตนสูญเสียลูกไปหลังจากโดนบุกทำร้ายร่างกาย ตนก็เป็นคนกลาง อยากให้จบเรื่องนี้ด้วยดี แต่ภรรยาจะไม่ยอมความ และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้านายเป้า เปิดใจว่า เรื่องราวทั้งหมดอาจจะไม่ได้เป็นไปตามกระแสข่าวทั้งหมด จากการที่นางสาวสุนีย์เอาภาพกล้องวงจรปิดไปเผยแพร่ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตนเกิดความเสียหาย ตนจึงของความเป็นธรรม เพราะอีกฝ่ายโทรมาปั่นป่วนตนหลายสาย ด้วยถ้อยคำที่หาเรื่องและหยาบคาย ตนถูกด่าทอ แล้วภรรยาได้ยินจึงรู้สึกโกรธ ออกไปเจรจากับคนเจ็บด้วยตัวเอง คลิปที่ถูกแชร์ถูดตัดต่อบางช่วงออก คือช่วงแรกที่ตนไปถึงหน้าร้าน คนเจ็บเดินออกมาด่าและยั่วโมโหตนก่อน ยืนยันว่าตนตั้งใจจะไปเจรจาอย่างสันติ ไม่ได้ตั้งใจบุกไปทำร้ายร่างกาย
ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์ของคนเจ็บ ตนก็ไม่ทราบว่ามีการตั้งครรภ์จริงหรือไม่ เพราะจากพฤติการแล้วเขาเป็นผู้ท้าทายให้ตนไปหาเอง ส่วนตัวได้มีการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่แล้วเช่นกัน หลังจากนี้ขอเวลาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันก่อน
