เปิดใจ ผู้ใหญ่ฮีโร่ ใช้วิชา 10 ปีก่อน ช่วยหนูน้อย 1 ขวบรอดจมน้ำ แม่ขอบคุณได้ชีวิตลูกคืน (คลิป)

จากกรณี เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา นายสมภพ ชิวปรีชา ผู้ใหญ่บ้าน ต.โคกเจดีย์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้ปั๊มหัวใจช่วยชีวิตเด็กชาย วัย 1 ขวบ 5 เดือน หลังจากจมน้ำ บริเวณร่องสวนหลังบ้าน โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก่อนจะนำเด็กพาดบ่า และนำส่งโรงพยาบาลไร่ขิง

วันนี้ (27ก.พ.) ผู้ใหญ่สมภพ เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ว่า ก่อนหน้านี้ ตนมาช่วยงานบวชที่บ้านของพี่สาว ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้มีการนัดรวมตัวกับญาติ และเพื่อนบ้านอีกครั้ง ในวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งมีผู้ใหญ่ประมาณ 8 คน และเด็กประมาณ 4 คน ระหว่างนั้น น้องสาวตะโกนมาจากหลังบ้านว่า "มีเด็กจมน้ำ" ตอนแรกตนคิดว่า เด็กอาจจะล้ม และตกลงไปในร่องน้ำ เพราะทางตรงร่องน้ำค่อนข้างชัน และห่างจากตัวบ้านเพียง 1 เมตร 30 เซนติเมตร เท่านั้น

เมื่อตนวิ่งมาหลังบ้าน ก็พบเด็กที่จมน้ำ หน้าซีด และร่างกายแน่นิ่ง ไม่ไหวติง คล้ายคนเสียชีวิตแล้ว ขณะนั้นมีคนนำตัวเด็กพาดบ่า เพื่อไล่น้ำออกจากปอด แต่เด็กก็ยังคงนิ่งอยู่ ตนจึงคว้าตัวเด็กมานอนราบบนพื้น ก่อนจะปั๊มหัวใจ ประมาณ 3-5 นาที เด็กก็มีสีหน้าดีขึ้น เริ่มขยับร่างกายได้ และพยายามร้องออกมา แต่เสียงอยู่ในลำคอ ตนจึงผายปอด และปั๊มหัวใจไปเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้เด็กมีสติมากยิ่งขึ้น ก่อนจะนำเด็กพาดบ่า เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปในร่างกาย ซึ่งในขณะที่ตนปั๊มหัวใจนั้น เด็กเริ่มมีอาการตอบสนอง ด้วยการขยับ และพยายามที่จะร้องออกมา ตนรู้สึกดีใจมาก ไม่คิดว่าจะช่วยเด็กได้ ตนคิดเพียงว่า ต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ และดีที่สุดก่อน เป็นครั้งแรกที่ตนได้ใช้ความรู้ ตอนไปอบรมเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ที่ค่ายลูกเสือแห่งหนึ่ง ที่ จ.นครปฐม ในเรื่องการปฐมพยาบาล ช่วยคนจมน้ำ ด้าน น.ส.วิไลพร ไชยรินทร อายุ 29 ปี มารดาของน้องภัทร เด็กที่จมน้ำ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ในวันนั้น ตนเอง สามี และน้องภัทร ไปเก็บผลไม้ที่บ้านดังกล่าว เพื่อเอาไปทำบุญ ในระหว่างนั้น ก็ได้กินมะม่วงน้ำปลาหวานกัน แต่น้องภัทร และเพื่อนบอกว่าเผ็ด จึงวิ่งไปดื่มน้ำบริเวณหลังบ้าน ผ่านไปสักพัก เพื่อนของน้องภัทร ตะโกนว่า "มีเด็กจมน้ำ" ตอนนั้นตนคิดว่า ต้องเป็นน้องภัทรแน่ เพราะเพื่อนของน้องภัทรวิ่งกลับมาเพียงคนเดียวเท่านั้น

เมื่อวิ่งออกไปดู ก็พบร่างของลูกชายนอนแน่นิ่ง ไม่ไหวติง ตอนนั้น เหมือนตนสติหลุดไปแล้ว ทำอะไรไม่ถูก จึงอุ้มลูกชายมาพาดบ่า ก่อนที่ผู้ใหญ่สมภพ จะวางตัวน้องให้นอนราบบนพื้น เพื่อปั๊มหัวใจ และผายปอด แต่น้องก็ยังไม่ฟื้น กระทั่ง น้องเริ่มมีอาการกระตุกเล็กน้อย ซึ่งตนพยายามเรียกน้องตลอดเวลา และบอกว่าอย่าไปจากแม่ จนน้องเริ่มหายใจเองได้ ผู้ใหญ่สมภพจึงอุ้มน้องพาดบ่า และรีบนำไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนอยากขอบคุณผู้ใหญ่สมภพ ที่ช่วยชีวิตน้องไว้ ถ้าวันนั้นไม่มีผู้ใหญ่สมภพ ก็คงไม่มีน้องในวันนี้ และอยากจะฝากถึงพ่อแม่ที่มีลูกเล็กว่า เด็กในวัยนี้กำลังซน ก็ขอให้ดูแลดีๆ