ปกครองแม่สายบุกจับแรงงานชาวเมียนมา 9 คน ลักลอบเข้าเมือง เสี่ยงพ่วงโควิด-19
สถานการณ์ชายแดนด้านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่หน่วยงานมั่งคงยังคงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 อย่างต่อเนื่องและเข้มงวด โดยเฉพาะการลาดตระเวณและตั้งจุดสกัดบุคคลหรือกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่ยังคงมีความพยายามลักลอบข้ามลำน้ำจากประเทศเมียนมาอย่างไม่ขาดสาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่านเชียงรายเข้ม! หวั่นต่างด้าวพ่วงโควิด-19 ลักลอบเข้าเมือง
-เมียนมาทุบสถิติโควิด! ป่วยใหม่พุ่ง 191 ราย เสียชีวิตอีก 2 ราย
- คุมเข้มโควิด! ทหารสกัดจับ 6 แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ทะลักชายแดนแม่สาย
- เชียงใหม่อยู่ไม่นิ่ง! จ่อตั้งโต๊ะแถลงกรณีต่างด้าวลอบเข้าเมือง-พบผู้สัมผัสผู้ป่วยโควิด-19
- มุกดาหารสั่งปิดเมือง-สุรินทร์ห้ามขนต่างด้าวเข้าหวั่นโควิด
โดยล่าสุดทางนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย มอบหมายให้นายราเมศวร์ นันทะเขต ปลัดป้องกัน อ.แม่สาย นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ไปทำการซุ่มตรจบริเวรใกล้บ้านเลขที่ 208 บ้านหนองอ้อ หมู่ 2 ต.โป่งผา อ.แม่สาย หลังจากสืบทราบว่ามีการลักลอบนำชาวต่างด้าวในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไปแอบซุกซ่อนเอาไว้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน ผผ 3789 เชียงใหม่ ขับไปตามถนนพหลโยธินสายแม่สาย-เชียงราย และเข้าไปจอดภายในบ้านหลังดังกล่าวตรงกับที่ได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมรถเอาไว้
จากการตรวจพบมีคนขับชื่อว่านายวรวุฒิ แต้มเก่ง ชาว ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และภายในรถพบชาวสัญชาติเมียนมาโดยสารมาด้วยจำนวน 9 คน โดยเป็นชายจำนวน 7 คนและหญิงจำนวน 2 คน จึงได้จับกุมตัวทั้งหมดเอาไว้
ทั้งนี้การจับกุมมีขึ้นภายหลังเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าว่าจะมีการลักลอบขนชาวเมียนมาดังกล่าวซึ่งมาขายแรงงานไปพักคอยกลุ่มคนรับที่บ้านหลังนี้จึงได้นำกำลังไปดักซุ่มจนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการขนชาวต่างด้าวดังกล่าว
ขณะที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหาร มว.ม.2 ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง จับกุมตัวนาย สายอุ่นแก้ว อายุ 20 ปี และนายสายลู่ อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมาบริเวณท่าข้ามผักกาด หมู่ 6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ขณะพยายามเดินข้ามลำน้ำสายมาโดยจากการสอบปากคำระบุว่าได้เสียค่าใช้จ่ายในการข้ามลำน้ำจำนวน 4,000 บาท และเสียค่าใช้จ่ายตลอดรายทางจำนวน 17,400 บาทด้วย.
