กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก “เจ๊ม้อย” โพสต์ภาพเด็กลักษณะเหมือนถูกทำร้าย และลงเรื่องราวเล่าว่า "#อ้างตัวเองหัวหน้าจู่โจม แล้วทำกับเด็ก ม.1 ขนาดนี้ บอกจะเอาปืนมาขู่เด็ก สมควรหรือกับเด็กแค่ ม.1 #เจ้าของร้านออกมาชี้แจงด้วยค่ะ #ฝากหน่วยงานตามเรื่องนี้ด้วย #FBI #อ้างตัว ร้านขายของชำติดแอร์หน้าวัดมักกะสัน"
ล่าสุดวันที่ 3 ก.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปที่ชุมชนแห่งหนึ่งย่านมักกะสัน ซึ่งเป็นบ้านของเด็กที่อ้างว่าถูกชาย อายุ 46 ปี เจ้าของร้านชำ ลากไปทำร้ายในห้องมืดหลังร้าน โดยพบว่ามีเด็ก 2 คนได้รับบาดเจ็บ คือ เด็กชายต่อ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ถูกชกเข้าที่เบ้าตาซ้ายจนปูดปวม ตาปิด และยังมีรอยช้ำที่โหนกแก้มซ้าย ส่วนเด็กชายปอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ถูกบีบคอกระชาก ลาก ถู บังคับให้เข้าไปห้องดำหลังร้าน จนทำให้คอมีแผลเป็นรอย
เด็กชายต่อ และเด็กชายปอ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนแค่ทำน้ำหกในร้าน และได้กล่าวขอโทษเจ้าของร้านไปแล้ว ทำไมถึงโดนสั่งสอนด้วยความรุนแรง ตนก็ยังไม่เข้าใจ อีกทั้งยังถูกข่มขู่ห้ามไปบอกใคร เพราะเจ้าของร้านรู้จักคนในวงการทหาร ตำรวจ
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับน.ส.นก (นามสมมติ) แม่น้องต่อ เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานลูกกลับจากโรงเรียน ตนสังเกตที่ใบหน้าของลูกมีเลือดไหลบริเวณโพรงจมูก และตาซ้ายคล้ายถูกชก จึงได้สอบถามลูก ซึ่งทราบว่ามีการซ้อมฟุตบอลแล้วได้รับบาดเจ็บ แต่ด้วยลักษณะแผลตนไม่ปักใจเชื่อ จึงเค้นสอบและถามเพื่อนที่ไปเรียนด้วยกัน จนกระทั่งทราบความจริงว่า ลูกชายถูกเจ้าของร้านวัย 46 ปี คือ นายอ้น (นามสมมติ) ชกทำร้ายร่างกาย แล้วยังลากเหล็กยาวหวังจะมาทำร้ายร่างกาย จากนั้นได้ข่มขู่ว่า รู้จักคนในเครื่องแบบ และทำหน้าที่หน่วยราชการพิเศษ พร้อมกับเปิดภาพในมือถือ ซึ่งเป็นภาพที่นายอ้นถ่ายคู่กับบุคคลที่สวมชุดทหาร ตำรวจ มีการถือปืน และขู่เด็ก ๆ ว่า “ถ้าเอาไปบอกใคร จะยิง” ส่วนตัวทราบเรื่อง จึงได้รีบไปที่ร้านชำเพื่อถามข้อเท็จจริง ก่อนจะแจ้งความในเวลาต่อมา
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากจะฝากให้เป็นอุทาหรณ์ และฝากให้มีหน่วยงานเข้ามาดูแลจัดการ ซึ่งดูจากพฤติกรรมของเจ้าของร้านแล้ว ทำไม่เหมาะสม เป็นภัยต่อสังคม ยิ่งทำงานในหน่วยงานราชการเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จึงต้องการอยากจะให้มีใครเข้ามาช่วยดูแล และในส่วนของคดีความ แม้ว่าฝ่ายของร้านชำจะส่งตำรวจเข้ามาเป็นตัวแทนในการไกล่เกลี่ย ให้มีการยอมความพร้อมกับรับเงินก้อนหนึ่ง ตนก็จะไม่รับ ต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ทีมข่าวได้พบกับ นายอ้น (นามสมมติ) อายุ 46 ปี เจ้าของร้านชำดังกล่าว พาทีมข่าวไปดูจุดที่น้องต่อ และน้องปอ มานั่งเล่นที่ร้าน ซึ่งมีการแบ่งปันน้ำอัดลมแล้วหกลงพื้น จุดดังกล่าวเป็นที่นั่งแถวยาวทำด้วยไม้ อยู่ตรงกล้างร้าน และนายอ้น ยังเปิดห้องเก็บของประตูสีดำ ซึ่งเป็นประตูออกหลังร้านใช้เก็บของ เด็กเรียกกันว่า “ห้องดำ” เพราะมีประตูสีดำ ไม่ได้เปิดไฟ นายอ้นบอกว่า เด็ก ๆ ไปตั้งชื่อเองว่า ห้องดำ ทั้งที่ตนไม่เคยพูด หรือขู่ว่ามีห้องดำ
นายอ้น ชี้แจงว่า วันเกิดเหตุ ตนเห็นน้องต่อ และน้องปอ เข้ามาที่ร้าน แล้วตรงเข้าไปหาเด็กเล็ก 2 คน เข้าไปเหมือนแย้งขนม แต่แย้งไม่สำเร็จ จึงได้ควักเงิน 10 บาท ชื้อน้ำอัดลม 1 ขวดมาแบ่งกันกิน 2 คน จนจังหวะหนึ่งได้ยินคลายเสียงเด็กทะเลาะกัน ตนจึงเดินไปดูเห็นว่าน้ำอัดลมหก จึงถามว่า "เอาไงต่อ ใครจะทำความสะอาด" ซึ่งตอนนั้นเด็กตอบว่า “เรื่องของลุง” ทำให้ตนโกรธจึงได้เข้าไปทำร้ายเด็ก มีการฉุดกระชากลากถู แล้วบอกให้เด็กเข้าไปที่ห้องเก็บของหลังร้าน เพื่อให้ไปหยิบไม่ถูกพื้น แล้งจังหวะนั้นยอมรับว่า ด้วยความโมโห จึงเผลอทำร้ายเด็ก
ภายหลังพาเข้าไปห้องหลังร้าน ตนได้ให้เด็กนั่งลงกับพื้น แต่ไม่ได้ทำร้ายอะไรอีก เพียงแค่สั่งสอนและบอกให้คิดว่า ถ้าเป็นพื้นบ้านตัวเอง ของ ๆ ที่ตัวเองรัก มีใครมาทำแบบนี้จะโกรธหรือไม่ ตนเดินไปหยิบไม่ถูพื้นด้ามยาวมายืนคุยเพื่อให้เด็กนำไปเช็ด แต่กลับถูกมองว่าจะเอามาทุบตี จึงยืนยันว่าไม่ได้เอามาทุบตีเด็ก ๆ ส่วนเรื่องภาพของหน่วยงานลับของราชการที่อ้างว่าตนคือหัวหน้าหน่วยราชการลับ มีลูกน้องเป็นตำรวจ ทหารนั้น ตนไม่ได้เปิดให้ดู ไม่มีการพูดถึง และไม่มีนำปืนมาขู่เด็กตามที่อ้าง
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนพร้อมรับผิด และฝากขอโทษไปยังผู้ปกครองของเด็ก “ผมขอโทษพ่อแม่ ผมพร้อมรับผิดชอบ มันเกิดจากบันดาลโทสะ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากต้องการให้ชดใช้ หรือเยียวยาอะไรให้ติดต่อกลับมาได้” ส่วนตัวยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้น อาจเรียกว่าทำเกินกว่าเหตุจริง เพราะมีการทำร้ายเด็ก ฉะนั้นตอนนี้พร้อมที่จะรับผิด และชดใช้ตามกระบวนการ
