จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ "beefish FunnyFunny" ได้โพสต์ข้อความว่า "เตือนภัยนะครับ มีรถฮอนด้าแจ๊ส ขับเบียดรถพ่อผม แล้วบอกว่าพ่อผมเบียดรถเขา พร้อมเรียกเงิน 10,000 บาท โดยไม่ยอมเรียกประกัน เมื่อคุณพ่อถามว่า จะทำสีให้ ทางผู้เสียหายก็บอกรีบจะเอาแต่เงิน คุณพ่อก็เลยถ่ายมาได้แค่นี้ เนื่องจากผู้เสียหายไม่ยอมให้ถ่ายทะเบียนรถ"
ทีมข่าวไปสอบถามไปยัง
นายพัน (นามสมมติ) ผู้ประสบเหตุ เล่าว่า ขณะขับรถอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ผ่านเส้นทาง ไทรน้อย-แจ้งวัฒนะ ช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. มีรถวิ่งไม่มากนักเพราะเป็นช่วงค่ำ แต่ตามเส้นทางยังพอมีแสงไฟส่องส่องสว่างเป็นระยะ
ช่วงที่เกิดเหตุตนกำลังขับรถมุ่งหน้าไปทาง ถนนแจ้งวัฒนะ ขณะนั้นได้ใช้ช่องทางขวาสุด และกำลังจะเปลี่ยนไปวิ่งเลนกลาง แต่ขณะกำลังเปลี่ยนช่องจราจรนั้น ได้มีรถเก๋งอีกคันขับเบียดขึ้นมา ชนกันที่บริเวณกลางสะพาน ตนจึงตัดสินใจขับลงจากสะพานไปจอดรอคู่กรณี
จากนั้นตนได้ลงจากรถไปถามคู่กรณีว่า เป็นอย่างไรบ้าง แต่คนขับยังไม่ลงจากรถ บอกว่า ขอทำใจก่อนซึ่งตนได้มองเข้าไปภายในรถของคู่กรณีที่ติดฟิล์มมืด จึงมองไม่เห็นว่าในรถมีใครบ้าง ก่อนที่คู่กรณีจะลงจากรถ พร้อมกับถามตนว่า “เป็นอย่างไรบ้าง มองไม่เห็นกระจกหรือไง” พร้อมแจงรายละเอียดความเสียหายว่า มีกระจกหัก รอยสีถลอก 3 แห่ง
นายพัน ยอมรับว่า รถตนเองไม่มีประกันภัยรถยนต์ แต่ได้บอกให้คู่กรณีเรียกประกันมาเจรจาค่าเสียหาย แต่กลับได้รับคำตอบว่า “รีบไปธุระ ไม่ต้อง” ก่อนตีราคาค่ากระจกหัก 2,500 บาท รอยถลอย 3 จุดๆ ละ 2,500 บาท รวมค่าเสียหาย 10,000 บาท ตอนนั้นยอมรับว่า ตนเองมีเงินติดตัวไม่พอ จึงขอให้ผู้เสียหายลดราคาให้ เพราะไม่รู้ว่าใครถูกหรือใครผิด ทางผู้เสียหายจึงลดราคาให้เหลือ 3,000 บาท ตนเองบอกคู่กรณีว่า มีเงินติดตัวเพียง 2,500 บาท ผู้เสียหายจึงยอมลดราคาให้ และรับเงินไปเพียงแค่นั้น
นอกจากนี้ นายพัน ยังพาไปดูรถของตัวเองที่ขับในคืนนั้น เป็นรถมิตซูบิชิ รุ่น L200 สีเขียว พบว่า มีรอยที่เกิดจากการเบียด 3 แห่ง รอยแรก เป็นรอยบุบที่เกิดจากล้อรถอีกคัน ตรงบริเวณประตูฝั่งคนนั่งหน้าด้านซ้าย, รอยที่สองคือ ขอบตัวถังล้อหลังด้านซ้าย และอีกรอยอยู่ริมกระจกด้านซ้าย เป็นรอยถลอกของสีเพียงเล็กน้อย
ส่วนรอยที่คาดว่า จะทำให้รถคู่กรณีเสียหาย ทีมข่าวพยายามสังเกตดูด้วยสายตา แต่ไม่พบรอยแต่อย่างใด
คุณพัน ได้ตั้งข้อสังเกตในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการเคาะพ่นสีรถด้วยว่า หากรถของตนได้รับความเสียหายเพียงแค่นี้ แต่ทำไมสีรถฝั่งคู่กรณี ถึงเป็นรอย 3 จุด และเป็นรอยบุบเข้าไป ส่วนรอยที่จะทำให้รถคู่กรณีกระจกหักก็ไม่มี เนื่องจากมองว่า หากเปรียบเทียบความเสียหายของรถทั้งสองคันแล้ว กระจกรถของนายพัน ยังเป็นปกติ ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ แต่กระจกรถคู่กรณีหัก
ถ้าหากเรื่องนี้ ไม่ใช่เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ทำเป็นประจำ แต่เกิดจากความเร่งรีบจริง ถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ไป แต่หากคู่กรณีเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ ตนก็อยากจะเตือนให้สังคมรับรู้ และให้ระวังตัวกันไว้ หากเจอเหตุการณ์เดียวกับตน