แม่ "หม่อง" เมินลูกชายฉุดสาว ชี้เหยื่อไม่ใช่ญาติ-เมียสาปส่งติดคุกไม่เยี่ยม (คลิป)

จากกรณี นางสาวศิริธาดา ชาติยานนท์ หรือ "แนน" พนักงานร้านสะดวกซื้อ สาขาเอราวัณ จ.ลพบุรี ถูกนายหม่อง บุกล็อกตัวขณะทำงาน แล้วพาขึ้นรถไปอย่างอุกอาจ โดย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาแถลงข่าวว่า ทั้งคู่กำลังคบหาดูใจกัน แต่ฝ่ายหญิงขอเลิกลา จึงก่อเหตุลักพาตัวไปคืนดี โดยมุ่งหน้าไปทาง จ.เพชรบูรณ์

ล่าสุด นางนิตยา ศรีสางค์ แม่ของแนน ยังยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องที่ นายหม่อง คบหากับลูกสาว ส่วนช่วงหลังที่ตนไปรับลูกสาวกลับมานอนที่บ้าน เพราะลูกลาออกจากการเป็นอาสาสมัครตำรวจ ตนเห็นว่าลูกสาวมีเวลาว่าง จึงไปรับมานอนบ้านตามปกติ จนมาถึงวันนี้ยังไม่มีเบาะแสเรื่องลูกสาวแต่อย่างใด ตนรู้สึกแย่มาก เพราะเป็นห่วงลูก ขณะเดียวกันนางนิตยา ได้ยกมือไหว้ และกล่าววิงวอนขอให้นายหม่อง พาลูกสาวกลับมาคืน ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปยังพื้นที่ ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี ไปยังบ้านหลังที่ นายหม่อง กับแนน ซื้อเอาไว้ด้วยกัน เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น หน้าบ้านมีรถจักรยานจอดอยู่ 1 คัน โดยประตูบ้านถูกปิดล็อกเอาไว้

จากการสอบถาม นายสมชาย จันทร์สิงห์ เพื่อนบ้าน เล่าว่า นายหม่องกับน้องแนน อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้มานานกว่า 1 ปีแล้ว โดย แนน เคยบอกตนว่า เป็นคนซื้อบ้านหลังนี้ ซึ่งนายหม่อง มักจะมาหาช่วงกลางดึกหลังเลิกงาน และออกจากบ้านอีกทีช่วงสายของวันรุ่งขึ้น ระยะหลังเห็นว่า ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อย ก่อนเกิดเหตุนายหม่อง เคยให้ตนออกตามหาแนน ตามสถานบันเทิงช่วงกลางคืน เพราะมีปากเสียงกันจนฝ่ายหญิงหนีออกจากบ้านไป และตัวนายหม่อง ดูเครียด ตนจึงพยายามปลอบใจ นอกจากนี้ ยังเห็นแม่ของฝ่ายหญิงมารับตัวกลับไปนอนที่บ้านย่าน ต.เขาพระงาม บ่อยครั้ง นายหม่อง ก็ได้แต่ขับรถวนมาดูที่หน้าบ้านหลังนี้ สอดคล้องกับเพื่อนบ้านอีกราย ที่ให้ข้อมูลว่า แนน ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ 1 ปีกว่าแล้ว โดยวันแรกที่ขนของเข้ามา นายหม่อง ใช้รถเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจมาส่ง หลังจากนั้นได้แวะเวียนมาหาช่วงเลิกงานกลางดึก ก่อนออกจากบ้านช่วงเที่ยงๆ แต่ระยะหลังก่อนเกิดเหตุ นายหม่อง มักจะขับรถมาจอดหน้าปากซอย ก่อนวิ่งมาที่หน้าบ้านเพื่อดูว่า ฝ่ายหญิงอยู่บ้านหรือไม่ แล้ววิ่งกลับขับรถออกไป จึงคาดว่าทั้งคู่น่าจะมีปัญหากัน

ด้าน นางทองใบ อ้นเพ็ง แม่ของนายหม่อง กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องที่ลูกชายไปคบกับแนน และไม่ทราบว่าลูกชายไปอยู่ที่ไหน ตนทราบเรื่องตอนที่ลูกชายตกเป็นข่าว แต่ไม่ได้รู้สึกตกใจ เพราะคิดว่าลูกชายโตแล้ว และเลือกทางเดินด้วยตนเอง ปกตินายหม่อง เป็นคนใจร้อนชอบอวดเก่ง บางครั้งชอบพูดเสียงดังใส่ ตนจึงไม่อยากคุยด้วย ส่วนที่มีข่าวว่า นายหม่องหลบหนีไปทาง จ.เพชรบูรณ์ เรื่องนี้ตนไม่ทราบ และไม่ได้มีญาติอยู่จังหวัดดังกล่าว ส่วนตัวไม่อยากฝากบอกอะไรกับ นายหม่อง ทั้งสิ้น เพราะไม่สนใจแล้ว หากถูกดำเนินคดีก็เป็นเรื่องของนายหม่อง เพราะตัวเองควรจะรู้ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรทำ ส่วนฝ่ายหญิงที่โดนอุ้มไป ตนก็ไม่ได้รู้สึกเป็นห่วง เพราะไม่ใช่ลูกของตัวเอง และทั้งคู่แอบคบกันหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบเรื่อง

ขณะที่ นางสมใจ แป้นโพธิ์ ภรรยานายหม่อง กล่าวว่า นายหม่อง ยังไม่ติดต่อกลับมา ส่วนที่มีข่าวว่าหลบไปทาง จ.เพชรบูรณ์ ก็ทราบตามข่าวเท่านั้น แต่พยายามถามลูกสาวว่า พ่อติดต่อกลับมาบ้างหรือไม่ เพราะตามปกติ นายหม่อง มักจะโทรหาลูก ส่วนตัวอยากให้สามีติดต่อมา เพื่อจะได้บอกให้เข้ามามอบตัว เพื่อไม่ให้เรื่องบานปลาย และรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้เป็นห่วงนายหม่อง ไม่ได้กังวลใจ ถึงแม้ว่านายหม่อง หากกลับมาแล้วต้องรับโทษหนัก จนติดคุกตนก็ไม่ไปเยี่ยม เพราะนายหม่อง ทำตัวเอง

ขณะเดียวกันทางด้าน นายอาร์ม เพื่อนของหม่อง เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุได้ขับรถไปกับนายหม่อง เพื่อที่จะพาไปง้อน้องแนน หลังจากน้องแนนขึ้นรถ ตนได้ปล่อยให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน และขอลงจากรถแถวนิคมอุตสาหกรรม โดยให้สองคนไปด้วยกััน ทั้งนี้ ยอมรับว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ 2-3 ครั้งแล้ว คาดว่า นายหม่องกับน้องแนน คงตกลงกันไม่ได้ และยืนยันว่าไม่ได้ร่วมมือกับ นายหม่อง โดยอยากให้แม่ของแนน ออกมาพูดความจริงกับสังคมว่า เกิดอะไรขึ้น เพราะตอนนี้สังคมมองว่า หม่องไปอุ้มแนน ด้านความคืบหน้าคดี พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้เบาะแสของนายหม่อง เรียบร้อยแล้ว และได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ในหลายจุดที่คาดว่านายหม่อง จะพาผู้เสียหายหลบหนีไป