จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อ ขยี้ข่าว-ทัวร์ลง ได้โพสต์คลิปวีดีโอกล้องวงจรปิด โดยข้อความว่า "เจ้าของร้านชานมย่านมีนบุรี ส่งคลิปเตือนภัยบุคคลเสื้อเหลืองมาให้ พฤติกรรมของอีป้าคนนี้มีหลายร้านโดนไปกันเพียบ ถ้าลูก-หลานเห็นคลิปนี้ ไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ไหน คงอายแทบแทรกแผ่นดินหนี..."
โดยคุณป้ามีพฤติกรรม เข้าไปซื้อชานมไข่มุกร้านแห่งหนึ่งย่านตลาดมีนบุรี ได้ซื้อชานมไข่มุก จำนวน 2 แก้ว จากนั้นได้ยื่นเงินแบงก์พันให้แก่พนักงานในร้าน ซึ่งน้องพนักงานได้ทอนเงินให้ 952 บาท คุณป้าอ้างว่าไม่ได้รับเงินทอนครบตามจำนวน ขาดแบงก์ 500 บาท ซึ่งได้เอาเงินไปซุกใต้วงแขน ก่อนเงินจะหล่นลงพื้น
เมื่อน้องพนักงานนับเงินที่เหลือก็พบว่าขาดจริง 500 บาท จึงได้ชะโงกไปดู พบว่าเงินทอนหล่นลงที่พื้น หลังจากนั้นคุณป้ายังอ้างเช่นเดิมว่า ไม่ได้รับเงินทอนครบ ซึ่งขาด 100 บาท น้องพนักงานมั่นใจว่าตนไม่ได้เก็บเงิน 100 บาทไป
แต่คุณป้าบอกไม่เอาน้ำชาไข่มุกแล้ว แล้วขอให้นำเงินแบงก์พันที่จ่ายไปคืน น้องพนักงานไม่ยอม จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรศัพท์หาเจ้าของร้าน เพื่อขอดูคลิปกล้องวงจรปิดในร้าน จนคุณป้าบอกว่า ไม่เป็นอะไร และได้เดินออกจากร้านไป
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้พูดคุยกับน้องเชอรี่ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี พนักงานในร้านชานมไข่มุก เล่าว่า คุณป้าได้เดินเข้ามาในร้านแล้วสั่งน้ำชานมไข่มุก จำนวน 2 แก้ว แก้วละ 24 บาท ยื่นเงินแบงก์พันมาให้ ตนได้ทอนเงินจำนวนเงิน 952 บาท ให้แบงก์ 500 ไป 1 ใบแบงก์ 100 บาท จำนวน 4 ใบ และเงินอีก 52 บาท
ขณะนั้นตนได้นับอย่างละเอียดแล้ว เมื่อคุณป้าได้รับเงินไป อ้างว่าขาดเหลืออีก จำนวน 500 บาท พร้อมกับยื่นเงินมา ตนนับดูอีกครั้งพบว่าไม่มีเงินแบงก์ 500 บาทจริง ยอมรับว่าเอะใจได้เปิดลิ้นชักเงิน เพราะก่อนหน้านี้ตนได้นับเงินเรียบร้อยหมดแล้ว เพราะร้านใกล้จะปิด และยังจำได้ว่าเงินแบงก์ 500 บาท เหลือเพียงใบเดียว ตนจึงมั่นใจว่าไม่ได้ทอนเงินผิด ก่อนทอนเงินทุกครั้ง ต้องนับแล้ว นับอีก เงินจะขาดหายเงินขาดไม่ได้
ตนได้สอบถามว่าเงินอยู่ที่มือหรือไม่ ทางคุณป้ารีบแบมือ แต่เงินหลุดลงมาตกที่พื้น ตนจึงชะโงกลงไปที่พื้น แล้วชี้ว่าให้ดูว่าเงินตกอยู่ที่พื้น หลังได้รับแบงก์ 500 ไปเรียบร้อย คุณป้าได้นับเงินอีกครั้ง และกลับมาบอกว่าขาดอีก 100 บาท ซึ่งตนได้นับมาก่อนหน้านี้แล้วว่าเงินครบหมดแล้ว และมีแบงก์ 100 บาท จำนวน 4 ใบ ตนมั่นใจว่าไม่ได้เก็บเอาไว้ ทำให้ตนเริ่มไม่ไว้วางใจ จึงได้ออกจากแคชเชียร์ไปคุยกับคุณป้า และโทรศัพท์ไปหาเจ้าของร้าน เนื่องจากจะดูกล้องวงจรปิด คุณป้ารีบปล่อยแบงก์ออกมาจากมือ ทำหล่นบนพื้น และรีบออกจากร้านไป
อย่างไรก็ตาม คุณป้าคนดังกล่าว ตนไม่เคยเห็นมาใช้บริการที่ร้านชานมไข่มุก ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ตนไม่สามารถจำรูปร่างลักษณะของคุณป้าได้ เนื่องจากคุณป้าปิดหน้ากากอนามัย สวมหมวก ขณะที่เข้ามานั้นพูดจาดี เหมือนลูกค้าทั่วไป หลังจากเกิดเรื่องตนได้ไปพูดคุยกับพนักงานร้านสะดวกซื้อละแวกใกล้เคียง ก็เคยถูกคุณป้ารายนี้กระทำเช่นกัน ซึ่งอ้างว่าไม่ได้รับแบงก์ 500 บาท
หลังจากเกิดเรื่อง เจ้าของร้านก็ได้มีวิธีการป้องกัน โดยการซื้อถาดรับเงินมาให้เวลาที่ทอนเงินลูกค้า โดยจะต้องทอนเงินใส่ถาดและคลี่แบงก์ออกให้เห็นจำนวนเงินชัดเจน ทั้งนี้ตนก็ไม่อยากให้คุณป้ารายดังกล่าวไปกระทำแบบนี้กับใครอีก เพราะเนื่องจากเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ไม่ควรคดโกงใคร
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 5 ม.ค.63 ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ลักษณะคล้าย ๆ กันเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เกิดขึ้นที่บริษัททัวร์ และเคาน์เตอร์ เซอร์วิส จ.นนทบุรี และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่มีหญิงคนหนึ่งรับเงินทอน แล้วหมุนตัวยัดเงินใส่กระเป๋ากางเกง จากนั้นอ้างว่า ได้รับเงินทอนไม่ครบ จึงมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า อาจจะเป็นหญิงสาวคนเดียวกันหรือไม่
