หนุ่มหนีตาย! หอพักทรุดตัว ถีบประตูช่วยเพื่อนรอด ผงะส้วมแตกขี้กระจาย เจ้าของลั่นเยียวยา (คลิป)

เมื่อวันที่ 20 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ อาคารหอพัก 3 ชั้น หอพักไม่มีชื่อ ในพื้นที่หมู่ 2 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร ที่ทรุดตัวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีการกั้นเชือกไว้ ไม่ให้คนนอกเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุ เนื่องจากหวั่นเกิดอาคารทรุดลงอีกครั้ง

จากการตรวจสอบหอพักที่เกิดเหตุ ก่อสร้างเป็นอาคารปูน 3 ชั้นสีชมพู มีห้องพักชั้นละ 10 ห้อง รวมทั้งหมด 30 ห้องมีผู้เช่าเข้าพักอาศัย 29 ห้อง รวมจำนวนกว่า 60 คน ขณะเดียวกันผู้เช่าอาศัยจำนวนกว่า 60 คน นั่งรวมตัวกันอยู่ที่ศาลาริมน้ำและร้านค้าที่อยู่ใกล้เคียงกับหอพักที่เกิดเหตุ

เนื่องจากจากอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย อบต.พันท้ายนรสิงห์ นำเข้าที่เกิดเหตุเพื่อขนย้ายห้องพักออกมา ซึ่งเจ้าหน้าที่จาก อบต.พันท้ายนรสิงห์ให้ผู้เช่าอาศัยทั้งหมดลงทะเบียนรายชื่อ เพื่อทราบจำนวนผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบ ก่อนดำเนินการหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางเยี่ยม คำหลิม อายุ 68 ปี เจ้าของหอพัก เปิดเผยว่า หอพักดังกล่าวนี้ ถูกสร้างมานานกว่า 5 ปีแล้ว โดยสร้างไว้ให้ลูกสาวคนสุดท้อง ส่วนหอพักที่อยู่ติดกันนั้น สร้างไว้ให้สำหรับลูกสาวคนกลาง และมีอีกหอพักในซอยเดียวกัน สร้างไว้ให้ลูกสาวคนโต สำหรับสาเหตุที่ตึกถล่มนั้น ตนมองว่าเกิดจากเสาเข็มของอาคารหอพัก เนื่องจากเสาเข็มสั้น ตลอดจนโครงสร้างที่มีการหล่อเสาเข็ม ซึ่งเมื่อตึกถล่มลงมานั้นจึงคาดว่าเกิดจากเสาเข็ม อาจจะตอกลงไปไม่ลึกพอ

สำหรับพื้นที่ในการก่อสร้างหอพักประมาณ 290 ตารางวา เดิมทีบริเวณที่สร้างหอเป็นวังน้ำ ที่ใช้เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปู จากนั้นจึงซื้อที่ดังกล่าวจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อมาปลูกอาคารหอพักขึ้น เพื่อหารายได้เพิ่มเติม ทั้งนี้ก่อนการสร้างหอพัก ตนมีการถมที่ดินไว้อย่างแน่นหนากว่า 3 ปี จึงเริ่มสร้างหอพักขึ้น และออกแบบให้ยกใต้ถุงสูงขึ้น 120 ซม. เพื่อให้มีพื้นที่ว่างใต้ถุน และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเมื่อตึกถล่ม เสาใต้ถุนจะหักลงทั้งหมด

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ตนพร้อมที่จะรับผิดชอบช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนแก่ทุกคน โดยเตรียมมองเงินจำนวน 400 บาทให้แก่ทุกคนที่เช่าอาศัย และเลี้ยงอาหารเป็นเมนู กระเพราหมูสับให้รับประทานตลอดทั้งวัน และพร้อมคืนเงินประกันให้ทุกห้องจำนวนห้องละ 2,000 บาท (ค่าเช่าห้องพักเดือนละ 1,700 บาท) นอกจากนี้ยังเตรียมเงินกว่า 100,000 บาทมาเพื่อรออำนวยความสะดวกหากมีเหตุฉุกเฉินด้วย

สำหรับความเสียหายครั้งนี้ ประเมินอยู่ที่ 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินค่าใช้จ่ายในการสร้างหอพัก ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ไม่รู้สึกเครียดหรือกังวลอะไร เพราะผู้เช่าทุกรายปลอดภัย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนเรื่องค่าเสียหายกว่า 5 ล้านบาทนั้น ตนไม่กังวลใจ เนื่องจากเป็นเงินเก็บส่วนตัว ไม่ใช่เงินที่มาจากการกู้ธนาคารแต่อย่างใด

นางเยี่ยม เจ้าของหอพัก เผยอีกว่า หลังจากผู้เช่าทุกรายมีการขนย้ายของออกทั้งหมดแล้ว ตนเตรียมจะรื้อถอนอาคารทั้งหมด และเคลียร์พื้นที่ เตรียมดิน เตรียมออกแบบการก่อสร้างอาคารหอพัก และยืนยันว่าจะดำเนินการสร้างหอพักใหม่อีกครั้งให้มั่นคงและปลอดภัยมากกว่าเดิม

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสันติ พรมมี อายุ 35 ปี พนักงานโรงงานของเล่นเด็ก เปิดเผยเหตุการณ์ว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 19.00 น. ตนและแฟนเพิ่งกลับจากที่ทำงาน กำลังนั่งพักและจะเตรียมอาหารเย็นอยู่ภายในห้องนอน นั่งพักไม่ถึง 10 นาทีได้ยินเสียงลั่นคล้ายกับไม้คานหักดัง “ปั๊บ ปั๊บ” จำนวน 2 ครั้ง ก่อนอาคารหอพักจะถล่มลงมาเสียงดังตู้มอย่างดัง

ในจังหวะที่อาคารถล่มนั้น ตนเปิดประตูห้องพักทิ้งเอาไว้ มีชิ้นส่วนของรั้วหอพักลอยปลิวเข้ามาในห้อง แล้วชิ้นส่วนประตูห้องครึ่งล่าง ลอยปลิวตามเข้ามาตกบนเตียงนอน เกือบถูกศรีษะ เนื่องจากขณะนั้นตนนั่งพักอยู่ข้างเตียงนอน อีกทั้งบริเวณอาคารหอพักมีกลุ่มฝุ่นลอยปลิวเข้ามาในห้องพักและบริเวณภายนอกอาคาร แฟนสาวของตนจึงตะโกนเรียกออกมาจากห้องพัก เพื่อวิ่งหนีออกมาอยู่นอกอาคารหอพักได้อย่างปลอดภัย

โดยหลังจากนั้น นายสันติก็พยายามเข้าไปช่วยถีบประตูห้องพักหลายห้องที่ชั้น 1 ของอาคารหอพัก เนื่องจากประตูห้องพักบางห้องเกิดล็อกแน่น ไม่สามารถเปิดประตูได้ ผู้อาศัยที่ติดอยู่ในห้องพักตะโกนว่า “ช่วยด้วย ๆ” หลังจากการช่วยเหลือผู้อาศัยในตกแล้ว ตนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาและแขน เนื่องจากถูกเศษปูนบาดและมีอาการปวดที่ข้อเท้า เพราะออกแรงถีบประตูหลายบาน

นายสันติ ยอมรับ รู้สึกช็อกและตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คาดคิดว่าหอพักที่อาศัยจะถล่มลงมา โดยที่ผ่านมาเคยมีสัญญาณเตือนอยู่บ้าง เช่น ทุกครั้งเมื่อมีรถบรรทุกขับผ่าน อาคารหอพักจะสั่นและโยกแรง แต่ไม่เอะใจและไม่คิดว่าอาคารจะถล่มลงมา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ห้องพักตนมีของเสียหายเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่า รู้สึกกังวลเรื่องหาที่พักใหม่กะทันหัน เบื้องต้นตนจะไปอาศัยเช่าอาคารหอพักที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นที่พักในการดูแลคนเดียวกันของหอพักที่ตนอาศัยอยู่

ส่วนเรื่องการชดเชยเบื้องต้น ที่เจ้าของหอพักจะมอบเงินจำนวน 400 บาท มาบรรเทาความเดือดร้อนในวันนี้ ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากให้มีการช่วยเหลือชดเชยค่าเสียหายในส่วนของ รถจักรยานยนต์ที่ยางแตก ล้อแม็กแตก เนื่องจากปูนตกกระแทกทับล้อรถ ซึ่งจอดอยู่ด้านหน้าห้องพักขณะที่เกิดเหตุ ทำให้ไม่มียานพาหนะเดินทางไปทำงาน ขณะเดียวกันวันนี้ตนต้องหยุดงานเพื่อเตรียมขนของมีค่าออกจากห้องพัก ทำให้เสียเวลาในการทำงาน อีกทั้งส่งผลให้รายได้ลดน้อยลงอีกด้วย

นายวิทยา ศรีย่าง อายุ 32 ปี ผู้เช่าหอพัก อาชีพพนักงานโรงงานอะไหล่รถยนต์ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ว่า ในห้องพักมีคนพักอาศัยอยู่ทั้งหมด 4 คน คือ คน ภรรยา และลูกสาว 2 คน โดยเมื่อวานนี้ขณะที่เกิดเหตุ ภรรยาออกไปทำงาน ส่วนตนกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ร้านค้าหน้าหอพัก ส่วนในห้องพักซึ่งอยู่ชั้นล่างสุด มีลูกสาว 2 คนอยู่ภายในห้อง คนหนึ่งกำลังนอนเล่น ส่วนอีกคนกำลังจะอาบน้ำสระผม ตนได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดตู้มอย่างแรง

โดยในตอนแรกเข้าใจว่าเกิดเหตุรถชนกัน แต่มองเห็นคนทยอยวิ่งออกมาจากหอพัก ตนนึกขึ้นได้ว่าลูกสาว 2 คนอยู่ภายในห้องพัก วินาทีนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปดู กระทั่งพบว่าลูกสาวออกมาอยู่หน้าห้องพักแล้ว ในขณะเดียวกันชักโครกที่อยู่ภายในห้องน้ำของตน เกิดระเบิดอย่างแรง เศษฝาชักโครกแตกเสียหาย ขณะเดียวกันมีเศษอุจจาระเกลื่อนเต็มพื้นห้องน้ำและผนังห้องน้ำจำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็น ตนเห็นแล้วรู้สึกอึ้งและตกใจมาก ก่อนวิ่งออกมาส่งลูกสาวทั้ง 2 คนออกไปอยู่นอกบริเวณนอกพื้นที่หอพัก เพื่อความปลอดภัย

จากนั้นตนจึงวิ่งกลับเข้าไปในห้องพักเป็นรอบที่สอง เพื่อเอาของมีค่า กระเป๋าเงินและโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งนำแฮมสเตอร์ที่ลูกสาวเลี้ยงไว้จำนวน 10 ตัวในกะละมังออกมาด้วยทั้งหมด ภายหลังจากเกิดเหตุ ครอบครัวของตนไม่มีมีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ตัวลูกสาวทั้งสองคนเองก็รู้สึกตกใจ อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาตนไปขออาศัยที่บ้านเพื่อนชั่วคราว ก่อนย้ายเข้าไปพักที่ห้องพักชั่วคราวของโรงงานที่ตนทำงานอยู่

โดยตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำโดย ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ อาคารหอพัก 3 ชั้นที่เกิดเหตุ โดยมีการนำเครื่องมือที่มีความละเอียดสูงเข้ามาวัดการเคลื่อนที่ ลักษณะการทรุดตัว อัตราการเคลื่อนตัวหรือการขยับของอาคารหอพักดังกล่าว ตลอดจนการหาสาเหตุที่ทำให้อาคารหอพักทรุดตัว และดูปัจจัยที่ทำให้อาคารหอพักดังกล่าวเกิดการทรุดตัว ซึ่งในระหว่างการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่นำเชือกกั้นบริเวณพื้นที่หอพักไว้ ไม่ให้ประชาชน และสื่อมวลชนเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย

โดยภายหลังจาก วศท. มีการตรวจสอบอาคารแล้วเสร็จ ดร.ธเนศ กล่าวว่า เบื้องต้นมีการตรวจสอบหาตำแหน่งรอยร้าวของตึก เนื่องจากโครงสร้างยังแข็งแรง แต่ผนังตึกมีรอยแตกร้าวเป็นแนวยาว ซึ่งรอยแตกร้าวดังกล่าวจะบ่งชี้ได้ว่า จุดไหนของอาคารมีการทรุดตัวบ้าง ซึ่งลักษณะของอาคารมีการขยับเคลื่อนตัว ทรุดตัวในแนวดิ่ง ขณะเกิดเหตุมีการทรุดตัวลงประมาณ 50 ซม.

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการทรุดตัว เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุข้อเท็จจริงที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่จากการตรวจสอบ ประเมินแล้วคาดว่า สาเหตุเกิดจาก 1. พื้นดินทรุดตัว อ่อนตัว ทำให้ยุบตัวลง 2.ปริมาณน้ำขึ้น - น้ำลด ที่อยู่ด้านหลังอาคาร มีผลทำให้กัดเซาะและทำให้ดินยุบตัวลงได้ และ 3.การตอกเสาตอม่อ ที่เป็นโครงสร้างสำคัญ ว่ามีการตอดเสาตอม่ออย่างไร หรือออกแบบการลงตำแหน่งเสาตอม่อว่า สามารถรับน้ำหนักได้มากน้อยเพียงใด

นอกจากนี้ ดร.ธเนศ ระบุว่า ขณะนี้การตรวจสอบอาคาร พบว่ามีอัตราการการยุบตัว อยู่ที่ 0.01 มิลิเมตรต่อชั่วโมง ส่วนองศาที่มีการเอียง ทาง วศท. ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่เผยว่าตามหลักการทางฟิสิกส์ จุดศูนย์ถ่วงน้ำหนักอาคารอยู่กลางอาคาร ยังไม่หลุดจุดศูนย์กลาง ซึ่งยืนยันว่าอาคารหอพักไม่พลิกคว่ำอย่างแน่นอน แต่อาจจะเอียงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ดร.ธเนศ แนะนำข้อสังเกตอาคาร ที่เป็นสัญญาณเตือนว่าอาจจะเกิดทรุดตัวลงได้ สังเกตได้จาก มีรอยแตกร้าวแนวนอนเป็นแนวยาว บนผนังหรือต้นเสา ของอาคาร อย่าชะล่าใจควรมีการบันทึกภาพไปปรึกษาวิศวกร หรือมีการเชิญวิศวกรที่เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ

โดยหลังจากนี้ จะมีการดำเนินการเจาะสำรวจดิน และตรวจสอบปัจจัยอื่น ๆ มาเสริมประกอบด้วยเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนกรณีที่เจ้าของหอพัก จะมีการรื้อถอนนั้นสามารถดำเนินการได้ และแนะนำว่าหากต้องการสร้างหอพักในพื้นที่ดังกล่าวอีก จะต้องเตรียมดินและวางแผนโครงสร้างอย่างละเอียดรอบคอบก่อน