กองถ่ายหนังแขกขอโทษโชว์เซ็กส์ทอย ถ.ข้าวสาร รัฐฉะบทตามหาคู่ ถ่ายจริงโชว์ตุ๊กตายาง (คลิป)

19 ม.ค. 61
จากกรณีปรากฎคลิป กองถ่ายภาพยนตร์จากประเทศอินเดีย ให้นักแสดงหญิงสวมชุดว่ายน้ำ มีฉากร้านค้าแผงลอยขายชุดว่ายน้ำ อุปกรณ์เซ็กส์ทอย ตั้งอยู่บนถนนข้าวสาร พร้อมข้อความโฆษณาชวนเชื่อ “ADULT TOY” ส่อไปในทางเสื่อมเสีย โดยมีชายเสื้อขาวเข้าไปโวยวายต่อว่ากองถ่ายทำดังกล่าว ทำให้ถนนข้าวสารเสียหาย เมืองไทยพังพินาศ จนเกิดกระแสดราม่าถกเถียงกันว่า เป็นการหารายได้เข้าประเทศ หรือทำลายประเทศไทย
ภาพเหตุการณ์ขณะที่ นายปิยะบุตร จิวระโมไนย์กุล นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
วันนี้ (18 ม.ค.61) “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. ได้เชิญ นายปิยะบุตร  จิวระโมไนย์กุล นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร , นายสิทธิชัย ผลหิตตานนท์ ประธานประชาคมฟื้นฟูวัฒนธรรม ย่านบางลำพู และ นายบัณฑิต ทองดี นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย มาพูดคุยในรายการ ภายใต้หัวข้อ “ค่ายหนังใช้เซ็กส์ทอยเข้าฉาก ทำลายถนนข้าวสาร”
นายปิยะบุตร จิวระโมไนย์กุล นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร
นายปิยะบุตร คนในคลิปที่ห้ามไม่ให้มีการถ่ายทำ เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบเลยว่า จะมีกองถ่ายภาพยนต์เข้ามาถ่ายทำในลักษณะนี้ รู้ว่ามีการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยใช้อุปกรณ์เซ็กทอยส์ประกอบฉาก และมีผู้หญิงแต่งตัวเป็นตุ๊กตายาง นุ่งน้อยห่มน้อย บนถนนข้าวสาร จึงรีบเข้าไปขอให้ยุติการถ่ายทำ เพราะถนนข้าวสาร อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านบอกตนว่า กองถ่ายทำมีการเซ็ตฉากตั้งแต่ตี 4 ส่วนตัวเมื่อรู้เช่นนี้ รู้สึกโมโหมาก ซ้ำยังถูกกองถ่ายห้ามไม่ให้เข้าไป ตนจึงเดินไปขวางกล้อง แม้เจ้าหน้าที่กองถ่ายบอกว่า จะมีการตัดต่อออก แต่ตนมองว่าเป็นการแก้ตัว แค่ฝรั่งถ่ายวิดีโอแชร์ไปว่าอยู่บน ถ.ข้าวสาร ก็เสียหายแล้ว ถึงจะบอกว่า มีการขออนุญาตถูกต้องกับตำรวจก็ตาม ตนมองว่า ทำไมไม่ไปถ่ายที่อื่น หรือไปถ่ายที่ประเทศอินเดีย การที่คนมองว่า เป็นการนำเงินรายได้เข้าประเทศ นายปิยะบุตร กล่าวว่า นำมาให้กี่บาท เป็นเศษเงิน ประเทศไทยสร้างสมวัฒนธรรมสิ่งดีงามมานาน มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และสิ่งก่อสร้างที่สวยงามทั้งวัดวาอาราม และพระราชวัง กรณีนี้แค่มาถ่ายเสร็จก็กลับไป เอาเซ็กส์ทอยเข้ามาทำให้ต่างชาติมองไทย เป็นถนนเซ็กส์ แล้วมาแก้ที่ปลายเหตุ ควรระงับที่ต้นเหตุก่อนจะเกิดเรื่องไม่ดีไม่งาม หากตอนนั้นตนรู้ว่า มีป้ายภาษาจีนที่กองถ่ายเซ็ตไว้ เขียนข้อความสื่อไปในทางเชิญชวนให้เข้ามาเที่ยวซ่อง จะเอาเรื่องให้หนักกว่านี้
นายสิทธิชัย ผลหิตตานนท์ ประธานประชาคมฟื้นฟูวัฒนธรรม ย่านบางลำพู
ด้าน นายสิทธิชัย ผลหิตตานนท์ ประธานประชาคมฟื้นฟูวัฒนธรรม ย่านบางลำพู กล่าวว่า ถนนข้าวสารมีประวัติยาวนานจนกลายเป็นถนนวัฒนธรรม ถนนบันเทิง เป็นการสร้างวัฒนธรรมอันดีงาม ทำให้ชาวต่างชาติให้ความนิยมชมชอบ แต่กรณีดังกล่าว จะทำให้กลายเป็นถนนโลกีย์ ไม่สามารถแก้ไขได้
นายบัณฑิต ทองดี นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย
ขณะที่ นายบัณฑิต ทองดี นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย กล่าวว่า การเข้ามาถ่ายทำต้องขออนุญาตจาก กองกิจการภาพยนตร์ ต้องบอกถึงเหตุผล ทางสมาคมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่มาคอยดูแล โดยกรณีนี้ อาจทำให้คนทั่วโลกเข้าใจผิด แม้จะบอกว่าเป็นประเทศจีนก็ตาม ในแง่ภาพยนตร์แล้วไม่เสียหายกับเมืองไทย แต่อีกมุมคือ เกิดความวุ่นวาย เมื่อแชร์แล้วคนอาจเข้าใจผิด ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของถนนข้าวสาร ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นใน จะมีความสูญเสียที่ไม่คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เข้ามาในประเทศ
น.ส.วรธีรา สุวรรณศร ผอ.กองกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว
จากกรณีดังกล่าว น.ส.วรธีรา สุวรรณศร ผอ.กองกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า ขั้นตอนการขออนุญาตเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ต้องเข้ามาแสดงบทต่อคณะกรรมการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ เพื่ออ่านบท ยื่นตารางการถ่าย และเมื่อได้ใบอนุญาตถ่ายทำ จะมีเจ้าหน้าที่ลงไปกำกับ ตามบทที่ยื่นต่อคณะกรรมการฯ จะมีฉากนักธุรกิจอินเดียทะเลาะกับแฟน ตามง้องอนกัน นางเอกหนีผู้ร้าย เดินเข้ามาที่ ถ.ข้าวสาร ก่อนกลับประเทศอินเดีย ซึ่งในบทเป็นเมืองไทยทั้งหมด 100% ไม่มีบทเป็นเมืองจีนเลย กองถ่ายทำภาพยนต์จากประเทศอินเดีย มีการขออนุญาตว่าจะถ่ายทำกันใน วันที่ 18 ทำให้ วันที่ 17 ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลตอนเซ็ตฉาก แต่ตอนที่เป็นข่าวมีการเริ่มถ่ายทำไปแล้ว ตามที่มีคลิป โดยมี นายปิยะบุตร เข้าไปโต้เถียงกับทีมงาน แต่ทีมงานอ้างว่า กำลังถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ ให้ออกจากพื้นที่ น.ส.วรธีรา มองว่า อาจเป็นการปกปิดข้อมูล แต่เมื่อทราบเรื่องได้พักใบอนุญาตผู้ประสานงานกองถ่าย และยกเลิกการถ่ายทำภาพยนตร์ดังกล่าวแล้ว
ตำรวจ สน.ชนะสงคราม สั่งยุติการถ่ายทำภาพยนตร์
หลังเกิดเหตุทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้สั่งยุติการถ่ายทำภาพยนตร์บริเวณถนนข้าวสาร โดยแจ้งว่า บริษัท INDO BANGKOK FILM CO., LTD. ได้ขออนุญาตขอใช้สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์จากประเทศอินเดีย เรื่อง Happy Bhang Jayegi Return (2018) ระหว่างวันที่ 17-18 ม.ค.61 ในเวลา 07.00-20.00 น. โดยบริษัทดังกล่าว รับรองว่า จะปฎิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด จะถ่ายทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และประชาสัมพันธ์ประเทศไทย โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อศิลปวัฒนธรรม และภาพลักษณ์ของประเทศไทยอย่างเด็ดขาด และได้ผ่านมติการพิจารณาของ คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ตามหนังสือกรมการท่องเที่ยว ทาง สน.ชนะสงคราม จึงได้พิจารณาอนุญาตให้มีการถ่ายทำตามคำร้อง
บริเวณถนนข้าวสาร
อย่างไรก็ตามทาง สน.ชนะสงคราม ได้สั่งให้หยุดการถ่ายทำในทันที พร้อมติดต่อทีมงาน รวมถึงเรียก บริษัทผู้อำนวยการสร้างในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี มาแจ้งข้อกล่าวหาในความผิด ไม่ปฎิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน และกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล จากการสอบปากคำนักแสดงที่ร่วมฉากถ่ายทำภาพยนตร์ ให้การว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ตัวละครทั้งหมด มีเนื้อหาการดำรงชีวิตอยู่ในประเทศจีน โดยมิได้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับถนนข้าวสารแต่อย่างใด ล่าสุด น.ส.เบญจมาศ ศรีสังข์ และ นายดิลเบียร์ ซิงห์ ซานีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโด แบงคอก ฟิล์ม จำกัด พร้อมทนายความ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ชนะสงคราม
นายสวัสดิ์ เพ็งพานิช ทนายความบริษัท อินโด แบงคอก ฟิล์ม จำกัด
นายสวัสดิ์ เพ็งพานิช ทนายความ ของนายดิลเบียร์ กรรมการบริษัท เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุมีภาพไม่เหมาะสม จึงรีบสั่งให้ยกเลิกการถ่ายทำ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่สังคม สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความผิดพลาด วันนี้จึงเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ต้องขอโทษสังคม และประเทศไทยด้วย ขณะที่ พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมแห่งหนึ่ง เล่าว่า บรรยากาศในวันดังกล่าววุ่นวายมาก เหมือนอยู่ในพัฒพงษ์ มีผู้หญิงใส่ชุดบิกินีเต้นโชว์ มีร้านเสื้อผ้าชุดชั้นในวางเต็มไปหมด ผู้ประกอบการหลายคนไม่พอใจ เพราะทุกคนไม่รู้เรื่องว่าจะมีคนมาถ่ายหนัง ถนนต้องปิดหมด และไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เพราะที่นี่ห้ามแต่งตัวโป๊ ถ้าภาพหลุดไปต่างประเทศ ชื่อเสียงถนนข้าวสารที่ทุกคนสั่งสมมาคงเสียหาย
น.ส.เอบิเกล ครูเกล (Ms.Abigail Kluger) นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล
น.ส.เอบิเกล ครูเกล (Ms.Abigail Kluger) นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล บอกว่า เธอรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปัญหา เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมสำหรับประเทศ ตนและเพื่อนรักถนนข้าวสาร รักทุกอย่างของประเทศไทย ดังนั้นถ้าชาวต่างชาติเห็นภาพเหล่านี้ คงคิดว่า ต้องมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับประเทศไทยแน่นอน      

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ