จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. วันที่ 14 พ.ค. 63 และผ่านมา 90 วันยังไม่สามารถจับคนร้ายได้
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
วันที่ 8 ส.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นายคล้าย เงินนาม พรานประจำหมู่บ้านกกกอก ที่ได้วิเคราะห์การเดินทางไปถ้ำน้ำลอดว่าสามารถไปได้ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.เส้นทางหลังโรงเรียนสยามกลการ 5 (กกกอก) มีความรก ลาดชันสูง 2.เส้นทางห้วยวังฮี ไม่ลาดชัน แต่ระยะทางไกล เพราะต้องเดินอ้อมภูเขา 3.เส้นทางตรง คือเส้นทางที่พาทีมข่าวอมรินทร์ทีวีขึ้นเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุด เพราะระยะทางที่ใกล้ พื้นที่ไม่ชัน
ซึ่งตำรวจก็ได้มาขอความคิดเห็นหลายครั้ง ว่าเด็กจะขึ้นไปได้อย่างไร ตนก็วิเคราะห์ให้ตำรวจฟังว่าต้องมีคนร้ายอุ้มเด็กขึ้นไปแล้วปล่อยให้เด็กเดิน เพราะสภาพศพที่ขามีรอยตอหญ้าขีดข่วนเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าเด็กมีการเดินระยะทางที่ไกล
ตนมองว่าคนร้ายไม่ได้ชำนาญพื้นที่ เพราะหากเป็นคนที่ชำนาญทาง ก็คงไม่มีใครหาศพพบ ส่วนสาเหตุที่คนร้ายนำเด็กไปทิ้งไว้ที่ถ้ำน้ำลอด อาจเป็นเพราะความบังเอิญ เนื่องจากขณะนั้นชาวบ้านมีการค้นหาน้องชมพู่ เมื่อคนร้ายได้ยินเสียงชาวบ้านก็อาจเกิดความตื่นกลัวพาเด็กเดินหลบไปทางด้านซ้าย แต่บังเอิญเจอถ้ำน้ำลอด
ซึ่งการแบกหรืออุ้มเด็กขึ้นภูเขาเป็นสิ่งที่ทำได้ยากลำบาก สภาพร่างกายต้องมีความแข็งแรง และรูปร่างสูงใหญ่ แต่ถ้าคนร้ายรูปร่างเล็ก การเคลื่อนย้ายอาจช้าขึ้น ส่วนเรื่องรถแบ็คโฮของเล่นที่พบ ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะไม่ทราบว่าไปอยู่ตรงจุดดังกล่าวได้อย่างไร
ทีมข่าวจำลองแบกกระสอบ น้ำหนัก 12 กิโลกรัม เดินตามเส้นทางไปยังถ้ำน้ำลอด ทดลองความเหนื่อยของร่างกาย พร้อมทั้งจับเวลาการเดิน โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล คือนายนภัสสร ตะวันคำ เป็นผู้นำทางให้ เริ่มแบกกระสอบขึ้นบ่าจากจุดระยะ 100 เมตร ทางฝั่งขวาของบ้านน้องชมพู่ ทิศตะวันออก จุดที่ลุงคล้ายวิเคราะห์ว่าเด็กเดินมาถึงจุดนี้ แล้วถูกอุ้มบริเวนโดยรอบเป็นไร่มันสำปะหลัง ทางเดินยังราบเรียบ ตัดตรงขึ้นภูเหล็กไฟ
เมื่อถึงบริเวณตีนภู ทางเริ่มเป็นเนิน สลับกับโขดหินเป็นจำนวนมาก ทีมข่าวเริ่มหายใจแรง เมื่อเดินต่อระยะทาง 700 เมตร ทางเป็นเนินสูงชัน 30 องศา สลับโขดหิน มีหญ้าเพ็กขึ้นรกทั่วบริเวณ ทีมข่าวเกิดอาการหอบ เดินได้ช้าลง ต้องหยุดพัก 5 นาที
จากนั้นเดินต่อขึ้นไปอีก 200 เมตร ก็ถึงพักที่ 1 ทางมีความชันมากขึ้น โขดหินมากขึ้น ทีมข่าวเกิดอาการหอบ ปวดบ่า ปวดเอว จึงนั่งพัก 5 นาที จากนั้น เดินอ้อมไปทางด้านซ้าย 500 เมตร ถึงถ้ำน้ำลอด สภาพส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ ไม่สูงชัน ทีมข่าวเดินได้ต่อเนื่องจากพักที่ 1 จนถึงถ้ำ สรุปการจำลองเดินขึ้นใช้เวลาเดิน 20 นาที มีการพัก 2 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที รวมระเวลาทั้งสิ้น 30 นาที
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้จับเวลาขาลง โดยกึ่งเดินสลับวิ่ง โผล่สวนยางพาราฝั่งซ้ายของบ้านน้องชมพู่ ใช้เวลาการลง 10 นาที
นายนภัสสร ตะวันคำ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล กล่าวถึงกรณีที่ลุงคล้ายมีการวิเคราะห์ว่าคนร้ายอาจนำเด็กมาทิ้งที่ถ้ำน้ำลอดนั้น ว่ามีความเป็นไปได้ คาดว่าคนร้ายอาจนำเด็กมาซ่อนในถ้ำด้านล่าง เพื่อหลบคน เพราะหากทิ้งเด็กไว้ด้านบน คนที่ค้นหาก็อาจจะเห็น เพราะพื้นที่ภูเหล็กไฟช่วงนั้นเพิ่งเกิดไฟป่า พื้นที่โล่งเตียน สามารถมองเห็นระยะไกลได้ ซึ่งด้านล่างถ้ำเป็นที่ลับตาคน และยังมีน้ำให้เด็กกินได้ ซึ่งจากถ้ำน้ำลอดไปถึงจุดพบแบ็คโฮ เด็กสามารถเดินได้ แต่จากจุดพบรถแบ็คโฮไปจุดพบศพ และจากบ้านมาถึงถ้ำน้ำลอด เด็กไม่สามารถเดินได้
สำหรับเส้นทางขึ้นถ้ำน้ำลอด สามารถขึ้นได้หลายทิศทาง สอดคล้องกับข้อมูลลุงคล้าย แต่เส้นทางหลักที่ชาวบ้านเคยขึ้น มี 3 ทาง ประกอบด้วย ส่วนเส้นทางห้วยวังฮี แม้จะไม่ลาดชัน แต่มองว่าไม่มีความเป็นไปได้ เพราะจะต้องเดินอ้อมภูเขา ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ตนคิดว่าเป็นไปได้ที่คนร้ายจะสามารถอุ้มเด็กมาที่ถ้ำน้ำลอดโดยที่ไม่พัก ถ้าคนร้ายอยู่ในอาการหวาดกลัวความผิด แต่ต้องประเมินด้วยว่าขณะอุ้มเด็กอยู่ในสภาพไหน เด็กนิ่งหรือเด็กดิ้น ส่วนเรื่องสภาพร่างกายหรือรูปร่างคนร้าย ตนไม่ขอคาดเดา ส่วนเรื่องความชำนาญทาง ตนไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าคนร้ายชำนาญทางหรือไม่
นางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า สำหรับทางขึ้นหลังโรงเรียนกกกอกนั้นก็สามารถเดินขึ้นไปยังถ้ำลอดได้ คนที่เดินขึ้นทางหลังโรงเรียนกกกอกนั้น ส่วนมากจะขึ้นไปหาของป่า หากบหาเขียด เก็บเห็ด เก็บผักหวาน
แต่สำหรับตนจะเลือกเดินเส้นทางหลังบ้านน้องชมพู่เดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟมากกว่า เพราะใกล้เส้นทางของบ้าน ซึ่งคนที่ขึ้นทางนี้จะไปเก็บเห็ด แต่ก็ไม่ค่อยคนขึ้นกัน เพราะไม่ค่อยมีเห็ดที่บริเวณถ้ำลอด ส่วนห้วยบุ่งนั้นชาวบ้านไม่ค่อยเดินขึ้น เพราะถ้าขึ้นทางห้วยบุ่งแล้วเดินไปที่ถ้ำลอด จะเป็นการเดินกลับหลังย้อนมาทางหมู่บ้าน ซึ่งส่วนมาถ้าชาวบ้านจะขึ้นทางห้วยบุ่ง ก็จะมีจุดมุ่งหมายขึ้นไปภูเหล็กไฟ ไม่ได้เดินไปที่ถ้ำลอด
สำหรับความเป็นไปได้ ที่คนร้ายจะอุ้มน้องชมพู่ขึ้นไปซ่อนในถ้ำน้ำลอดนั้น ลุงพลไม่ขอออกความคิดเห็น ส่วนป้าแต๋นระบุว่าไม่มั่นใจ เพราะไม่เคยเห็นถ้ำ นายนภัสสร เจ้าหน้าที่อุทยาน และนายคล้าย พรานหมู่บ้านกกกอก ระบุว่าอาจจะเป็นไปได้
