จากกรณีวันที่ 6 ส.ค. 63 เวลา 17.00 น. เกิดเหตุบรรทุก 18 ล้อเบรกแตก เสียหลักพลิกคว่ำทับรถยนต์ 2 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในซากรถ เหตุเกิดบริเวณหน้าลานตู้คอนเทนเนอร์ สี่แยกไฟแดงเก้ากิโล ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ สาย 7 ตอนที่ 3 พื้นที่ ม.9 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 75-4085 กรุงเทพฯ ตัวพ่วงทะเบียน 61-0412 กรุงเทพฯ อยู่ในสภาพพลิกตะแคงข้างขวา สภาพรถฝากระโปรงหน้าหลุด กระจกหน้ารถแตก กระจกมองข้างทั้งสองข้างบิดเบี้ยว
บริเวณตู้คอนเทนเนอร์สีแดงทับหลังคารถยนต์เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 9กธ-8894 กรุงเทพฯ จนยุบลงไป สภาพรถยับเยินทั้งคัน หลังคายุบ มาจนถึงเบาะคนนั่ง ประตูรถ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาผิดรูป กระโปรงรถพังยับสีถลอก กระจกรถพังยุบเข้าไปตรงบริเวณตัวรถ และด้านหลังของรถพังขดงอยื่นออกไปด้านนอก
พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เป็นชาย 1 ราย และเด็กชายอีก 2 ราย ทราบชื่อ นายณเดชน์ วรกมลเดชน์ อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บซี่โครงขวาหัก 2 ซี่ ด.ช.สิงโต อายุ 9 ปี ได้รับบาดเจ็บมีรอยแผลที่ศีรษะด้านขวา และ ด.ช.บอส อายุ 11 ปี ได้รับบาดเจ็บหัวไหล่ขวาช้ำ โดยลูกชายยืนร้องไห้เรียกพ่อ
ถัดมาพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ เชฟโรเลต สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1ฒฮ-205 กรุงเทพฯ สภาพรถหลังคารถฝั่งคนขับยุบตัวลงมา กระจกหน้ารถแตก ฝากระโปรงพังเสียหายมีรอยสีถลอก ล้อรถหน้าด้านขวาแตก ประตูรถกระจกรถด้านคนขับพัง โดยถูกตู้คอนเทนเนอร์ทับด้วยเช่นกัน ภายในพบผู้ขับขี่ทราบชื่อ นายประนม ยืนยง อายุ 43 ปี เป็นช่างซ่อมรถ กระโดดหนีตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด
นายณเดชน์ วรกมลเดชน์ อายุ 43 ปี ผู้ขับขี่รถเชฟโรเลตสีขาว เล่าว่า ขณะนั้นตนได้จอดรถรอไฟแดงที่แยกมุ่งหน้าไปยังสนามฟุตบอล รถ 18 ล้อกำลังจะฝ่าไฟแดง สังเกตว่าช่วงไฟเขียวที่มุ่งหน้าไปยังแหลมฉบังนั้น รถ 18 ล้อได้แตะเบรกรถเป็นระยะ เมื่อไฟเหลือง รถ 18 ล้อขับไม่พ้นตัดสินใจหักเลี้ยวซ้ายมาด้วยความเร็ว ข้ามเกาะกลางถนน เข้ามาเส้นทางที่ตนกำลังจอดรถรอสัญญาณไฟจราจร ตนได้จอดรถประมาณคันที่ 6-7 ประมาณ 3 วินาที รถ 18 ล้อพร้อมกับตู้คอนเทนเนอร์ได้เอียงพลิกคว่ำด้านขวา ทำให้รถของตนที่จอดอยู่ฝั่งซ้ายได้รับความเสียหาย หลังคารถยุบ
ขณะนั้น ตนได้เอียงตัวไปด้านซ้ายฝั่งเบาะคนนั่ง หาช่องออกมาหลังคาของรถยนต์ทับลงมาที่โหนกแก้มด้านขวาของตน ส่วนโหนกแก้มด้านซ้ายกดทับกับเบาะที่นั่ง เด็ก 2 คนอยู่ในอาการที่ช็อก แต่ยังมีสติ รีบเปิดระตูรถออกไป น้องสิงโตลูกชายได้ตัดสินใจมานั่งข้างตน แล้วน้องบอสนั่งเบาะด้านหลังของน้องสิงโต ส่วนตนติดอยู่ในรถประมาณ 10 นาที มีอาการหายใจไม่ออก พยายามดึง เข็มขัดนิรภัยออก แต่ตัวปลดล็อกไม่ยอม จึงขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยหาคัตเตอร์เพื่อมาตัดสายช่วย น้องสิงโต ลูกชาย ก็ได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนอื่น "ตนคิดถึงหน้าแม่ คิดถึงลูกและภรรยา บอกกับตัวเองว่าต้องรอดกลับไปให้ได้ จะมาตายแบบไม่สู้ไม่ได้"
ด้านนายประนม ยืนยง อายุ 43 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ที่ถูกรถบรรทุก 18 ล้อทับ แต่กระโดดหนีตายออกมาได้ เล่าว่า ในขณะที่ตนเองจอดรถติดไฟอยู่ เห็นรถบรรทุก 18 ล้อคันดังกล่าวเสียหลักมา ตนเองจึงตัดสินใจรีบกระโดดหนีจากเบาะคนขับ มาทางเบาะนั่งข้าง โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ ตนเองเชื่อบารมีของพระครูสันตจิตตาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดประชุมศึกษา ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ที่ได้ช่วยชีวิตไว้
