จากกรณีผู้ใช้เฟชบุ๊ก”kanokwan Chanaphai” ได้โพสต์เรื่องราวว่าถูกหญิงสาวรายหนึ่ง นำภาพลูกชายของไปแอบอ้างว่าเป็นลูกของตัวเอง พร้อมกับใช้ลูกของเธอไปหลอกเอาเงินกับชายรายหนึ่ง จนชายรายนั้นหลงเชื่อ พร้อมกับสูญเงินนับแสนนั้น
โดยโพสต์ดังกล่าว ระบุข้อความว่า “เริ่มเรื่องเลย พี่ผู้ชายคนนี้โดนหลอก ผู้หญิงคนนั้นได้มาหลอกว่าท้อง ท้องนอกมดลูก พี่ผู้ชายคนนี้ก็เลยยอมรับเพราะสงสารเด็ก คิดว่าตัวเองทำจริง ๆ แล้วผู้หญิงคนที่หลอก ก็หลอกอีกว่าลูกมีสิทธิ์เสี่ยงที่จะต้องเสียชีวิต พอลูกคลอดมาก็เอารูปบอสตันตั้งแต่แรกเกิด ตอนบอสตั้นเข้ารพ. ส่งไปหลอกพี่คนนี้ว่าคลอดลูก พี่ผู้ชายยอมโอนให้ เพราะกลัวว่าลูกจะเป็นอันตราย ซึ่งไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นโดนหลอก เพราะผู้หญิงคนนี้ใช้รูปลูกของเราไปทั้งหมด ไม่พอเท่านั้น ปลอมไลน์บอกว่าเป็นป้าข้างบ้าน อ้างทุกรูปแบบ”
ล่าสุดวันที่ 6 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ติดต่อไปหานายบอล ผู้ชายที่ถูกนางสาวบีมหลอกมากว่า 1 ปี สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้นายบอลได้ทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้อยู่นั้น
โดยนายบอล ให้สัมภาษณ์วิดีโอคอลกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวานนี้ตอนที่รู้ความจริงทั้งหมด ก็ไม่ได้ตกใจมานัก เนื่องจากตนเคยแอบคิดมานานแล้วว่า ตนน่าจะถูกนางสาวบีมหลอกเรื่องลูกมาตลอด และตนก็รู้ว่ารูปภาพของน้องบอสที่นางสาวบีมส่งมาให้ตนดู ตลอดระยะ 1 ปีนั้น เป็นรูปที่ผ่านการบันทึกมาจากที่อื่น เพราะตนก็พอมีความรู้ในเรื่องการแต่งภาพอยู่บ้าง แต่แค่จับไม่ได้คาหนังคาเขาเหมือนครั้งนี้
ทั้งนี้ตนก็อยากจะถามนางสาวบีม ว่าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ส่วนเงินที่ตนโอนให้นางสาวบีมที่ใช้เป็นค่ารักษาตัวของนางสาวบีม ของลูก ที่เขาหลอกตนนั้น ตนก็สูญเงินไปเกือบ 2 ล้านบาท และล่าสุดตอนนี้เขาก็บอกว่าเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งในลำคอ และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่นอีกด้วย
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้มาพูดคุยกับน.ส.กนกวรรณ ชนะภัย ผู้เสียหายที่ถูกเอาภาพของลูกชายไปแอบอ้าง ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อ 2 วันที่แล้ว ตนได้เปิดเพจเฟซบุ๊กขายชานม จากนั้นก็มีการแชร์เพจร้านของตนไปในโลกออนไลน์ และมีผู้ชายชื่อนายบอล (นามสมมติ) ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ เขาได้วีดีโอคอลมาสอบถามตนว่า ทำไมรูปลูกชายของตน ที่ปรากฏอยู่ในเพจชานมถึงหน้าเหมือนกับลูกของเขา กระทั่งตนได้บอกกับเขาว่าน้องบอสตัน เด็กที่อยู่ในเพจนั้นเป็นลูกชายของตนจริง ๆ
จากนั้นชายคนดังกล่าวจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาให้ตนฟังว่า เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว เขาได้คบหากับนางสาวบีม (นามสมมติ) หญิงสาวชาวจังหวัดขอนแก่น และได้มีสัมพันธ์กัน นายบอลก็ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ และยังคงมีการติดต่อกับนางสาวบีมอยู่ตลอดเวลา ต่อมานางสาวบีตั้งครรภ์นอกมดลูกกับนายบอล เด็กในครรภ์มีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก ต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษา จากนั้นนายบอลก็ได้โอนเงินมาให้นางสาวบีม ตามที่นางสาวบีมขอ กระทั่งนางสาวบีมคลอดลูกจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม น.ส.กนกวรรณ ยังบอกอีกว่า ตนไม่เคยรู้จักกับนางสาวบีมมาก่อน และไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กด้วย ตนคาดว่านางสาวบีม คงมากดติดตามเฟชบุ๊กตน เพราะตนขายของออนไลน์ และฉวยโอกาสนำรูปลูกชายตนไปแอบอ้าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ได้รับความเสียหาย และตนก็เสียใจมาก ลูกชายและแม่ของตนถูกหญิงรายนี้นำไปแอบอ้าง หลังจากนี้ตนก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงคนดังกล่าว
นอกจากนี้ ส่วนตัวแล้วตนก็ไม่อยากให้อภัยหญิงคนดังกล่าว เพราะถ้าเขาไม่ถูกดำเนินคดีในครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้รับบทเรียน และไปก่อเหตุแอบอ้างคนอื่นซ้ำอีกไปเรื่อย ๆ
