ลุงพล-เมียร่ำไห้กลางโต๊ะกินข้าว ซึ้งใจปริศนาตีนไก่ฝีมือหมอปลา มีมิตรใหม่ดั่งพี่น้อง (คลิป)

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาที่ตลาดสดเทศบาลสกลนคร เพื่อมาซื้อวัตถุดิบในการทำขนมจีนน้ำยา และแกงเขียวหวาน โดยหมอปลาได้เตรียมเครื่องสำหรับน้ำยาขนมจีนเอาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน หมอปลา ลุงพล และทีมข่าว เดินทางมาที่ตลาดตั้งแต่เช้ามืด เพื่อมาซื้อเนื้อไก่และวัตถดิบทำอาหาร เมื่อมาถึงพบว่าเป็นจุดสนใจของชาวบ้านที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดเป็นอย่างมาก เพราะติดตามข่าวแล้วจำลุงพลได้

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

หมอปลา และลุงพลเดินมาเรื่อย ๆ ก็มีคนมาถ่ายรูป และให้กำลังใจลุงพลไม่ขาด จนหมอปลาพูดแซวออกมาว่าจะถึงร้านไก่หรือไม่   

โดยหมอปลาเลือกซื้อวัตถุดับดังนี้ 1.น่องไก่ติดสะโพก 20 กิโลกรัม 2.ตีนไก่ 10 กิโลกรัม 2.เลือดไก่ 20 ก้อน 3.มะเขือเปราะ 10 กิโลกรัม 4.มะเขือเทศ 2 กิโลกรัม และ 5.ใบโหระพา 2 กิโลกรัม โดยหลังจากที่ไปจ่ายตลาดเสร็จ หมอปลากลับมาที่จุดลานมันข้างบ้านลุงพล โดยขณะนั้นได้ทำน้ำยากะทิเสร็จแล้ว ซึ่งหมอปลาตักให้ทีมข่าวชิมรสชาติ

ทีมข่าวเดินทางต่อมายังบ้านลุงพล ซึ่งมีชาวบ้านเดินทางมาหา มาให้กำลังใจตั้งแต่เช้า มีการนำสิ่งของ อาหาร มามอบให้เรื่อย ๆ รวมทั้งชาวบ้านกลุ่มนี้มาจากจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 5 คน ทีมข่าวสอบถาม นางเพียงฤทัย สอนพิมพ์ แม่ค้าส้มตำพันล้าน จ.มหาสารคาม เพื่อนำมะละกอ 20 กิโลกรัม มาทำส้มตำให้กับคนที่มาให้กำลังใจ

โดยนางเพียงฤทัย ระบุว่า นอกจากติดตามข่าวแล้ว ก็ยังเป็นแฟนคลับของหมอปลา จึงเดินทางมา ตั้งใจนำอาหารมาทำให้ชาวบ้าน โดยส่วนตัวอยากให้กำลังใจลุงพล ขอให้สู้ ๆ น่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้

ทีมข่าวเดินทางมาที่ลานมันข้างบ้านลุงพล หลังจากจ่ายตลาดแล้ว โดยกลับมาเตรียมวัตถุดิบทำแกงเขียวหวานไก่ ใส่ตีนไก่ด้วย โดยมีการคั้นน้ำกะทะ กรองน้ำกะทิ จากนั้นผัดเครื่องแกง เอาวัตถุดิบใส่ ทั้งเนื้อไก่ ตีนไก่ เลือดไก่ มะเขือเปราะ โดยหมอปลาเป็นคนลงมือปรุงด้วยตัวเอง

ทีมข่าวสอบถาม จีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลามือปราบสัมภเวสี ระหว่างการเคี้ยวแกงเขียวหวาน ซึ่งระบุว่า การทำแกงเขียวหมายมีความหมายว่า หลังจากนี้ชีวิตลุงพลจะมีแต่ความหวาน เพราะชีวิตลุงพลขื่นขมระทมใจมานานแล้ว ทั้ง ๆ ที่พริกแกงของแกงเขียวหวานมีความเผ็ด ก็เหมือนกับความเผ็ดในตัวลุงพล ก็มีความหวานอยู่ ที่จะมอบให้กับพี่น้อง คนที่มาให้กำลังใจ

ส่วนที่ใส่ตีนไก่ ตนอยากให้สื่อว่า ลุงพลอาจมีแค่ 2 ตีน แต่ตนอยากให้รู้ไว้ว่า มีตีนคนที่รัก คนที่ให้กำลังใจลุงพล ขอให้จำไว้ ลุงพลไม่ได้มีแค่ 2 ตีนแล้ว เพราะตนเอาตีนไก่ใส่ไปเยอะมาก รวมทั้งตีนไก่ของหมอปลาก็อยู่ในหม้อนี้ด้วย ตนมีความตั้งใจอยากจะมาทำ ไม่ได้ต้องการสร้างภาพอะไร ตนมานอนอยู่ที่นี่เลย ซึ่งที่อาบน้ำก็แบบเรียบง่าย มีเพียงถังน้ำใบเดียวตั้งไว้อยู่ข้าง ๆ เถียงในลานมัน ซึ่งแสดงให้เห็นชีวิตที่เรียบง่าย ตนชินกับชีวิตตัวเองอยู่แล้วกับความเรียบง่าย ส่วนตัวยืนยันว่าหากอนาคตมีโอกาสจะกลับมาที่นี่ หากลุงพลยังอยู่ที่นี่ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ตนคงเดินทางมาแน่นอน

ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้กังวลเรื่องคนต่อต้าน ตนไม่เคยให้ราคาคนกลุ่มนี้ เพราะตนไม่ได้ขอเงินเขาใช้ คนเหล่านี้ไม่ได้มีคุณค่ากับตน คุณค่าของตนคือลุงพล ใครจะต่อต้าน ไม่พอใจก็แล้วแต่เขา ถ้าพูดหยาบ ๆ ตนอยากบอวว่า ตนไม่ได้เดินเหยียบหัวใคร

หลังจากที่หมอปลาทำอาหารเสร็จ ได้เรียกลุงพล ป้าแต๋นมานั่งร่วมวงรับประทานอาหาร เมนูขนมจีนนำยา 1.น้ำยากะทิ และ 2.น้ำยาแกงเขียวหวาน ซึ่งบรรยากาศมีคนมามุงดูและถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก โดยระหว่างการรับประทาน หมอปลาได้ตักตีนไก่ 1 ตีนให้ลุงพล โดยป้าแต๋นเป็นคนชอบทานตีนไก่เป็นอย่างมาก แต่ป้าแต๋นบอกว่าอายเพราะคนเยอะ หมอปลาจึงระบุว่า ไม่ต้องอายให้ใช้มือจับเลย ไม่ต้องสร้างภาพ โดยทั้งป้าแต๋น ลุงพล ก็กินตีนไก่ ขนมจีนอย่างอร่อย ระหว่างนั้นก็มีคนขอถ่ายรูปเป็นกำลังใจระหว่างทานอาหารเป็นระยะ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ หมอปลา ลุงพล และป้าแต๋น ระบุว่า วันนี้ที่พามาทานข้าวกลางแจ้งแบบนี้ ไม่ได้จะสื่ออะไร ไม่ได้มีนัยอะไร แค่รู้สึกว่าลุงพลเหนื่อยมานานแล้ว ไม่อยากให้เหนื่อยกับเรื่องปัญญาอ่อนไร้สาระ ทั้งนี้ตนได้กอดคอลุงพลกับป้าแต๋น และบอกว่า 2 คนนี้เปรียบเสมือนพี่น้องของตนแล้ว หลายคนอาจจะหาว่าการมาเลี้ยงข้าวพวกนี้จะมีนัยอะไร จะมีก็อยู่ในเมนูอาหาร อย่างน้ำยาขนมจีน ตนอยากจะสื่อว่า เมื่อคืนลุงพลเป็นคนปั่นน้ำยา ต่อไปนี้ลุงพลไม่ได้คนง่าย ๆ แต่เขามีน้ำยาแล้ว จะมารังแกแบบเมื่อก่อนไม่ได้ ใครรังแกมาก ๆ จะให้เอาน้ำแกงสาดใส่หน้า

ตนไม่ได้จะสื่อถึงใคร แล้วแต่คนจะคิด ส่วนอีกเมนูที่มีตีนไก่ ตนก็อยากจะบอกว่า ลุงพล ป้าแต๋น มีคนละ 2 ตีน ตอนนี้มีหลายตีนแล้ว คือกำลังใจที่คนมาหา มาช่วย ซึ่งแตกต่างจากแต่ก่อน ใครจะมาทำร้ายลุงพลง่าย ๆ ไม่ได้แล้ว เพราะลุงพลมีหลายตีน

จังหวะหนึ่งลุงพลได้ยกมือไหว้หมอปลา และกล่าวขอบคุณ ระบุว่า อาหารอร่อยมาก ๆ จากนั้นก็มีน้ำเสียงที่สั่นเครือ ถึงกับเอาผ้าขาวม้ามาเช็ดน้ำตา จนหมอปลาต้องตอบคำสัมภาษณ์เอง ลุงพลเหมือนพี่ชาย ป้าแต๋นก็เหมือนน้องสาว

ลุงพลที่ซับน้ำตา และร้องไห้รายล้อมไปด้วยคนที่มาให้กำลังใจ จากนั้นหมอปลา ระบุว่า หากวันนี้ลุงพลอยากจะร้องไห้ ให้ร้องไปให้หมด ร้องให้พวกที่ยิ้ม ให้เลิกแสยะยิ้มได้แล้ว เพราะเขาว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า ที่ผ่านมาลุงพลอาจจะดูถูก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว คนที่ทำแบบนั้นหัวเราะไม่ขึ้นแล้วเพราะขี้ฟันอุดปาก หลังจากนี้หากพูดไปมาก ความลับ ความร้อนรนก็เกิดขึ้นอีก

หมอปลา ได้กล่าวขอบคุณแฟนคลับลุงพลทุกคน ซึ่งลุงพลก็ยกมือไหว้ หมอปลา ระบุว่า เชื่อว่าลุงพลบริสุทธิ์ เพราะลุงพลอาจเป็นผู้ถูกกล่าวหาคนเดียวในประเทศไทยที่ใครอยากรู้เรื่องอะไร ตอบคำถามทั้งหมด เพราะหากเป็นคนที่ถูกกล่าวหา คนจะถามห่าอะไร มันก็ปิดปาก และขอพูดในชั้นศาล แต่ลุงพลใครถามก็ตอบ ตนอยากให้มองว่านี่เหรอ คือ ผู้ถูกกล่าวหา ในทางกลับกัน คนที่ไม่ได้ถูกกล่าวหา ใครถามอะไรก็ไม่ตอบ กว่าจะพูดเหมือนดอกพิกุลจะออกจากปาก

ทั้งนี้หมอปลาแซวป้าแต๋นว่า เมื่อก่อนป้าแต๋นน่าจะกินแต่น้ำพริก ไม่กินน้ำยา ให้หัดกินน้ำยาบ้าง ตอนนี้สามีป้าแต๋นมีน้ำยาแล้ว ทำน้ำยาเป็นแล้ว ลุงพลได้ขอบคุณคนที่มาให้กำลังใจ ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ น่าจะกลับคืนไปสำหรับผู้ให้ทุกท่านกันทุกคน จากนั้นก็เหมือนจะร้องไห้

ป้าแต๋น ได้ยกมือไหว้ขอบคุณเช่นกัน โดยหมอปลา บอกว่า ให้พูดเหมือนผู้ดีบ้าง เพราะที่ผ่านมาป้าแต๋นจะพูดลิ้นรัว ๆ 

ป้าแต๋น ระบุว่า สมบัติผู้ดีอาจจะไม่มี แต่มีความเป็นคนดี โดยป้าแต๋นขอบคุณคนที่เดินทางมาทุกเพศ ทุกวัย ป้าแต๋นพูดด้วยเสียงสะอื้นออกมา ก็ขอบคุณทุก ๆ คน จังหวะนี้ลุงพลได้เอื้อมมือมาลูบหลังป้าแต๋นเพื่อปลอบใจ โดยได้เสียงปรบมือจากคนที่มาให้กำลังใจ และเสียงสู้ ๆ ตนมาจากวันที่ไม่มีใครเลย แต่วันนี้มีคนมาให้กำลังใจเยอะมาก ตนก็ต้องขอบคุณ

ก่อนที่หมอปลา จะเดินทางกลับที่ จ.เพชรบุรี ได้มาคุยกับ ลุงพลและป้าแต๋น ซึ่งบอกให้ลุงพลรู้ว่าชีวิตลุงพลมีทั้งเผ็ด ทั้งหมด เหมือนแกงเขียวหวาน ปัญหาที่เข้ามาที่มันจะแก้ของมันเอง เพราะลุงพลไม่ได้ก่อเหตุ ตนไม่ได้เก่งกว่าตำรวจ แต่ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ผู้ต้องสงสัยอะไรที่จะให้ได้มากขนาดนี้

ตนยังอยากฝากไปถึงคนที่มือสัมผัส ยืนยันได้ว่าคน ๆ นี้สัมผัสอะไรไม่ได้ เพราะหากสัมผัสได้ ต้องรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นสำหรับสิ่งที่เขาทำ เพราะตอนนี้ทัวร์ไปลงเขาแล้ว คนพวกนี้ตนไม่อยากให้ราคามาเกาะกระแส ตนก็อยากให้ระวัง

ส่วนเรื่อความกังวลเกี่ยวกับหมายจับ หมอปลาได้ฝากกับลุงพลว่า “อย่าไปกังวลกับหมายจับ มันไม่น่ากลัว แต่หมายหัวมันน่ากลัว” ซึ่งก็ไม่รู้ใครที่หมายหัว แต่คงเป็นพวกขี้อิจฉา กินปูนร้อนท้อง ขนาดตนไม่ได้ถูกหมายหัว ยังมีหมายเรียกอยู่หน้าบ้านเลย ว่าห้ามเข้าบ้าน ตนก็โดน ดังนั้นลุงพลอย่าคิดมาก ลุงพลไม่ได้น่าอิจฉา เพราะเขาไม่ได้เอารัดเอาเปรียบใคร สิ่งที่ลุงพลได้มา ตนเชื่อว่าคนเกือบ 100% อ่านใจคน ๆ นี้ออก แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจ ก็ปล่อยเขา ลุงพลเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย เวลาจะถามอะไรกับผู้สงสัย กลับกลายว่าไม่ตอบคำถาม ตนขอย้ำ คนเราจะพูดกับใคร จะเป็นโจร ครู ตำรวจ นักข่าว หากพูดความจริงทุกครั้งก็คือความจริง หากโกหกต้องโกหกตลอดไป

ลุงพล ก็ยืนยันว่าไม่กลัวหมายหัว ตนยึดความถูกต้อง จากนั้นหมอปลาได้กอดป้าแต๋นกับลุงพล ก่อนจะกลับได้ขอให้สู้ ๆ ให้มีความสุข จากนั้นได้ถ่ายรูปกับคนที่มาให้กำลังใจ พร้อมเปร่งเสียง ลุงพลสู้ ๆ ๆ

ทีมข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณหน้าบ้านทั้ง 3 หลัง คือบ้านตาชาญ, บ้านน้องชมพู่, บ้านน้าเสริม ได้นำป้ายไม่ต้อนรับหมอปลาออกจากหน้าบ้านตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 3 ส.ค.63 โดยนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า การนำป้ายออกจากหน้าบ้านเพียงแค่อยากรู้สึกปล่อยวาง แต่ไม่อยากให้เป็นทุกข์