นักท่องเที่ยววัยรุ่นขโมยอุ้มสุนัขหลานสาวว่าที่ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ไปแลกเป็นค่าอาหารตำรวจกำลังแกะรอยนำตัวมาดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ชัชนี คงเมือง” ได้โพสต์ข้อความว่า “น้องหมาไซบีเรียนชื่อ กล้วยเชื่อม พิกัดร้านไม้หน้าค่ายหลังบิ๊กซีเพชรบูรณ์ น้องวิ่งเล่นบริเวณร้านค้าแล้วหายไปราวๆ 1 ชั่วโมง (16:30) น้องมีปลอกคอป้ายชื่อสแตนเลสเขียนว่า กล้วยเชื่อม (โรงแรมพาราไดซ์อินน์) มีเบอร์โทรกลับ 086-0001600 หากท่านใดพบเจอน้องรบกวนติดต่อกลับ 086-0001600 (เจ้าของ) เป็นห่วงมากๆ หรือพาส่งคืนที่ร้านไม้หน้าค่าย/โรงแรมพาราไดซ์อินน์ด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ เจ้าของมีสินน้ำใจให้ 5,000บาท”
หลังจากนั้นอีก 2 วัน เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความว่า “เจอแล้ว ขอบพระคุณทุกท่าน คนเพชรบูรณ์ใจดี คนเพชรบูรณ์ไม่เคยทิ้งกัน เดี๋ยววุ้นมาเล่าให้ฟังนะคะ น้องขวัญเสียร้องครางตลอด ขอบพระคุณอาแอ๊ด คุณปู่คุณย่าที่ถ้าไม่ใช่เพราะความดีของท่านวุ้นจะไม่ได้ลูกคืน” ซึ่งต่อมาทราบว่าสุนัขตัวดังกล่าวถูกวัยรุ่นอุ้มขึ้นรถแล้วนำไปแลกเป็นค่าอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบึงสามพัน ห่างจากจุดที่หายเกือบ 100 กิโลเมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว
น.ส.ชัชนี คงเมือง อายุ 38 ปี เจ้าของร้านค้าไม้หน้าค่ายพ่อขุนผาเมืองเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนอยู่ 2 ตัวชื่อ กล้วยเชื่อม กับ กล้วยฉาบ ในโดยในวันเกิดเหตุได้ปล่อยให้วิ่งเล่นอยู่ลานหน้าบ้านและคาดว่าน้องอาจจะวิ่งเตลิดออกไปข้างนอกโดยวิ่งกลับมาเพียงตัวเดียวคือกล้วยฉาบ ส่วนกล้วยเชื่อมซึ่งเป็นเพศเมียอายุ 6 เดือนไม่ยอมกลับมา ตนจึงได้ออกตามหาแต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด จึงได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงแต่ก็ไม่พบเบาะแส จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อมทั้งประกาศหาทางเฟซบุ๊ก ซึ่งโซเชียลต่างก็ช่วยกันแชร์ รวมทั้งท่านกฤษณ์ คงเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ว่าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์คนใหม่ ซึ่งเป็นอาของตนก็ได้โพสต์ขอให้โซเชียลช่วยตามหาด้วย กระทั่งสองวันต่อมาได้มีเจ้าของร้านอาหารที่ อ.บึงสามพัน โทรมาแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมากินอาหารและนำสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนมาแลกเป็นค่าอาหาร ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกันกับที่ประกาศหาในโซเชียลจึงได้โทรแจ้ง หลังจากรับแจ้งตนก็รีบขับรถไปรับทันทีวินาทีแรกที่เห็นกล้วยเชื่อมตนก็จำได้ทันทีโผกอดและร้องไห้ดีใจแบบสุดๆ
น.ส.ชัชนี เปิดเผยต่อว่า สำหรับผู้ที่อุ้มน้องกล้วยเชื่อมไปนั้นตนกำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางและจุดต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นคนอุ้มหรือขโมยไปเพื่อที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดีเป็นคดีตัวอย่างต่อไป แต่ทั้งนี้หากหากผู้ก่อเหตุทราบข่าวและอยากจะขอโทษตนก็ยินดี แต่ขอให้ติดต่อมาโดยเร็วก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปเชิญตัวมาไม่เช่นนั้นตนอาจจะไม่ให้อภัยก็เป็นได้
ด้านนายไพบูลย์ น้อยคำมี อายุ 69 ปี สามีเจ้าของร้านอาหารคุณกุ้งหมู่ 9 บ้านซับสาริกา ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน เปิดเผยว่าในช่วงค่ำของวันที่ 27 ก.ค.2563 ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6-7 คนขับรถยนต์กระบะวีโก้สีดำแบบมีคอกแต่จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ซึ่งคาดว่าเป็นนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ที่มาเที่ยวเขาค้อและเดินทางกลับผ่านร้านของตน ได้แวะรับประทานอาหารสั่งทั้งอาหารและเครื่องดื่มเมื่ออิ่มแล้วได้สั่งคิดเงิน เป็นเงินสองพันกว่าบาท แต่หนึ่งในวัยรุ่นได้สอบถามตนว่าสนใจจะซื้อสุนัขพันธ์ไซบีเรียนหรือไม่ พร้อมทั้งพาตนเดินไปดูที่รถพบว่าเป็นสุนัขพันธ์ไซบีเรียนสีเทาขนสะอาด โดยอ้างว่าญาติที่เขาค้อให้มาและหากกลับไปกรุงเทพฯ ก็ไม่สามารถที่จะเลี้ยงได้เพราะเจ้าของหอไม่ให้เลี้ยงสัตว์ ตนดูก็รู้ทันทีว่าเป็นสุนัขที่มีราคาแพงอย่างแน่นอน ตนจึงปฏิเสธไปโดยบอกว่าไม่มีเงิน แต่วัยรุ่นคนดังกล่าวได้เปลี่ยนเป็นแลกกับค่าอาหารสองพันกว่าบาท ตนจึงตกลงเพราะตนก็ชอบเลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว
กระทั่งแฟนกลับมาที่ร้านจึงได้ต่อว่าพร้อมทั้งบอกว่าต้องเป็นสุนัขที่มีเจ้าของและอาจจะถูกขโมยมาก็ได้ ในช่วงดึกแฟนได้เปิดเฟซบุ๊กและพบว่ามีการประกาศหาสุนัขตัวดังกล่าวและยิ่งตกใจเมื่อทราบว่าเจ้าของสุนัขเป็นหลานสาวของว่าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์จึงได้ติดต่อและนำไปส่งโดยนัดเจอกันกลางทาง ซึ่งเมื่อเจ้าของได้พบสุนัขแล้วถึงกับกราบขอบคุณตนเองและกอดสุนัขและร้องไห้สะอึกสะอื้นตนเห็นแล้วก็น้ำตาคลอไปด้วยเพราะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี
