แก๊ง18 มงกุฏ หลอกแบ่งค่านายหน้าที่ดิน ตายาย สูญเงินหมดตัว ตร.เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อ บุคคลแปลกหน้า

วันนี้(10 ม.ค.61) ร.ต.อ.สายันต์ ปัญจรักษ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ได้รับแจ้งจาก นายยงยุทธ วงศ์อินทร์ อายุ 73 ปี และ นางสำเภา วงศ์อินทร์  อายุ 71 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่  195/1 ม.2 ต.ชากพง อ.แกลง ระยอง ว่าได้ถูกแก๊งมิจฉาชีพ รวม 4 คน เป็นชาย  3 หญิง 1 หลอกลวงให้สูญเงินไป 2 แสนบาท สร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท พระเลี่ยมทอง 1 องค์ และ เหรียญในหลวง รัชกาลที่ 9 เลี่ยมทอง อีกหนึ่งเหรียญ ก่อนที่ทั้งแก๊งจะหายตัวไป นางสำเภา เล่าว่า เมื่อช่วงเช้า วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์ จากผู้ชาย โดยไม่เคยรู้จักมาก่อน ว่าต้องการหาซื้อดินในหมู่บ้านที่ตนอยู่  ซึ่งตนถามกลับไปว่าได้เบอร์โทรมาจากไหน ชายคนดังกล่าวได้พูดเจรจาหว่านล้อมจนทำให้เชื่อว่าต้องการซื้อที่ดินจริง โดยมีนายทุนจะซื้อไปทำโรงงานเจียเพชร พลอย จึงได้นัดดูที่ดินของคนรู้จักในหมู่บ้านที่ได้ประกาศขายพอดี

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ชายคนดังกล่าว ได้ขับรถยนต์เก๋งสีดำมาหาที่บ้านพร้อมกับหญิงสาวผิวสองสีอายุประมาณ 25 ปี โดยชายคนดังกล่าว อายุประมาณ 40 ปี  จึงพาไปดูที่ดินในหมู่บ้านที่ประกาศขาย หลังจากเข้าดูที่ดินแล้ว ทั้งคู่ก็ได้โทรหานายทุน แต่นายทุนบอกทางโทรศัพท์ว่ามีที่ดินอีกแปลงอยู่ที่ ต.ห้วยยาง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งตรงกับที่ต้องการ ทั้งคู่จึงออกอุบาย ให้ตนเอง และ นายยงยุทธ สามีนำทางไป บอกว่าจะแบ่งค่านายหน้าให้ โดยนายทุนจะมาดูด้วย จึงตกลงไปด้วยกัน หลังจากถึงที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งเป็นสวนผลไม้และสวนยางพารา ก็พบกับชายอีกคน ชื่อนายเสริฐ เจ้าของที่ดิน โดยนายเสริฐ ได้มาบอกกับตนว่า ที่ดินแปลงนี้ต้องการขายเพียงไร่ละ 8 แสนบาท หากขายได้ ในราคานี้จะให้ส่วนเกินไร่ละหนึ่งแสนบาท พอสองคนแรกเดินเข้ามาบอกว่านายทุนจะมาดูที่เลย และ ยังบอกกับตนและสามีว่า ถ้านายทุนมาให้บอกราคาไร่ละ 1,100,000 บาท จะได้นำส่วนต่างมาแบ่งกัน

หลังจากนั้นมีคนขับรถเก๋ง เข้ามาจอดเป็นชายรูปร่างท้วมอายุประมาณ  45  ปี มาดูที่ดิน แล้วบอกว่าพอใจ และ ตกลงซื้อเลย พร้อมทั้งเข้าไปในรถหยิบเงินมาหนึ่งปึก เป็นแบงค์พันให้กับทั้งสองคน บอกว่าจำนวน2,000,000 บาท ให้วางมัดจำไปก่อน และ ทำทีว่าให้จัดการให้ด้วยแล้วค่อยเจอกันวันโอนแล้วก็ขับรถไป ทั้งหมดจึงเดินมาถาม นายเสริฐ ว่าโฉนดที่ดินอยู่ไหม นายเสริฐบอกว่า ได้นำไปจำนองที่ร้านทองในตัวเมืองระยอง จำนวน 3,000,000 บาท เพราะเอาเงินมารักษาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง จึงจำเป็นต้องขายที่ดินนำเงินมารักษาภรรยา ทั้งสองคนก็ทำทีหันมาคุยกับตนและสามีว่า มีเงินสดอยู่ไหม จะนำมาช่วยไถ่โฉนดออกมาก่อน แล้วค่อยคืนให้ในวันรุ่งขึ้น ตอนที่นายทุนนำเงินมาซื้อที่ดิน ตนเองก็บอกว่ามีไม่กี่หมื่นบาท ทั้งคู่พยายามอ้อนวอน และ โน้มน้าว และ บอกว่าให้สงสารนายเสริฐที่จะได้นำเงินไปรักษาภรรยาที่ป่วย จนกระทั่งตนเองบอกว่ามีเงินอยู่ในธนาคาร ที่ตัวเมืองระยอง และ สร้อยคอทองคำ 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง และรูปในหลวงรัชกาลที่9 เลี่ยมทอง ทั้งคู่จึงพาขึ้นรถกลับไปเอาสมุดธนาคารที่บ้าน และเงินสดทั้งหมดที่มีอยู่  และรีบพาไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงไทย สาขาระยอง

โดยตนเองขึ้นไปเบิกเงินสดมา 40,000 บาท มาขึ้นรถ ทั้งคู่บอกว่าไม่พอตนเองจึงถอดทองให้ไปอีก พร้อมเงินสดอีก 160,000 บาท แล้วพาไปที่ร้านทอง พอจอดรถ ทั้งคู่บอกให้ตนและสามีลงรถไปช่วยบอกร้านทองว่าให้ทำเรื่องไถ่ที่ดินรอไว้ก่อน แล้วจะนำเงินตามลงไปภายหลัง พอไปถึงร้านทองก็ถาม เจ้าของร้านทองก็ถึงกับงงบอกไม่ได้รับจำนองที่ดิน จึงรีบเดินออกจากร้านเพื่อไปที่รถ แต่ก็ไม่พบแล้ว จึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว พอตั้งสติได้ จึงรีบไปที่ สภ.เมือง ระยอง ให้ช่วยจับคนร้ายกลุ่มนี้ทันที โดยที่ไม่มีเงินเหลือติดตัวเลย จึงพยายามโทรติดต่อญาติ แต่ปรากฏว่า เบอร์โทรคนรู้จักที่บันทึกไว้ คนร้ายได้ลบเบอร์ในมือถือออกไปหมด โดยทำทีขอยืมโทรศัพท์ตอนอยู่ในรถ โชคดียังจำเบอร์ญาติได้จึงติดต่อให้มารับตัวกลับ นางสำเภา กล่าวทั้งน้ำตาว่าหมดตัวแล้ว อุตส่าห์อดออมเก็บเงินมากับสามีสองคน เพื่อใช้จ่าย แต่ถูกหลอกไปหมดภายในวันเดียว ซึ่งตนเองไม่ได้คิดอยากได้เงินเลย เพียงแต่เกิดจากความสงสารเจ้าของที่ดินที่บอกว่าภรรยาป่วยเป็นมะเร็งจึงอยากช่วย ด้วยความสงสารแต่กลับโดนหลอก อยากฝากถึงกลุ่มคนร้ายว่าทำไมใจดำกับคนแก่ได้ลงคอ ทั้งๆที่ต้องอยู่ลำพังสองคน ยังไม่หลอกกันได้ จนไม่มีเงินเหลือเลย สำหรับเงินที่ถูกหลอกไปก็ไม่คิดว่าจะได้คืนแล้ว แต่ที่มาแจ้งความก็เพื่อให้จับกุมตัวมาให้ได้ คนอื่นจะได้ไม่ถูกหลอกอีก

ด้านนายชาญชัย ศรีประสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้เตือนลูกบ้านให้ระวัง เกี่ยวกับกลุ่มมิจฉาชีพ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่ออีก พบเหตุลักษณะดังกล่าวให้แจ้งญาติหรือเจ้าหน้าที่ก่อนจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ 18 มงกุฎ ขณะที่ พ.ต.อ.วราวุฒิ ชัยเจริญ ผกก.สภ.กร่ำ จ.ระยอง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ชุดสืบสวนออกหาข่าว พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามไหล่ทาง ที่คนร้ายใช้รถยนต์ก่อเหตุ พาสองตายายไปเบิกเงินธนาคารแล้วจะประสานเจ้าหน้าที่ธนาคารขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อดูรูปพรรณสันฐานคนร้าย เพื่อจะติดตามจับกุมแก๊งมิชฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี ทั้งนี้ คาดว่าแก๊งคนร้ายชุดนี้ น่าจะรู้ข่าวข้อมูลกับสองตายายว่า มีเงินเก็บอยู่ในบ้านพัก และฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลที่แปลกหน้า ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ที่อยู่ใกล้บริเวณพื้นที่เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิชฉาชีพ