เมื่อวันที่ 24 ก.ค.63 จากกรณีชาวบ้านรายหนึ่ง หมู่บ้านเเก่งนาง ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ร้องเรียนผ่านสื่อมายังอมรินทร์ทีวี ว่าหลานสาว อายุ 3 ขวบ ถูกเจ้าของร้านค้าในหมู่บ้านข่มขืน ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่หมู่บ้านดังกล่าว
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณยายของน้องมะม่วง (นามสมมติ) ผู้เสียหาย โดยคุณยายได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ตนได้ให้เงินหลานจำนวน 10 บาท เพื่อให้ไปซื้อขนมที่ร้านค้า รอบเเรกหลานก็เดินไปซื้อเเล้วเดินกลับมาพร้อมขนม เเละเงินทอน 5 บาท จากนั้นหลานก็เดินกลับไปที่ร้านค้าอีกรอบ คราวนี้ไปนาน 10-15 นาที ตนก็สงสัยว่าทำไมไปนาน
จากนั้นเห็นหลานวิ่งร้องไห้เข้ามาที่บ้าน ตัวสั่นหน้าซีด ไม่ให้ผู้ชายเข้าใกล้ ปากก็พูดว่าเจ็บตรงอวัยวะเพศ ตนเเละเเม่เด็กจึงถอดกางเกงออก ปรากฎว่ามีเลือดไหลออกจากอวัยวะเพศเป็นจำนวนมาก จึงได้ถามหลานว่าใครทำ เเต่หลานไม่กล้าบอก จึงให้พ่อกับเเม่เด็กพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่าอวัยวะเพศฉีกขาด มดลูกบวม เเละพบคราบอสุจิ จึงนำหลักฐานเข้าเเจ้งความกับตำรวจ สภ.กกตูม
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมั่นใจว่าคนก่อเหตุคือ นายสุพล เจ้าของร้านค้า เพราะขณะนั้นในร้านค้ามีเพียงคนเดียว โดยหลังเกิดเหตุตนพร้อมด้วยพ่อเเม่เด็ก ได้ไปสอบถามนายสุพล เเต่นายสุพลกลับบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมรับ อ้างว่าเด็กวิ่งล้มเเล้วบาดเจ็บเอง ตนจึงเสียความรู้สึกมาก เพราะที่ผ่านมาไว้ใจมาโดยตลอด ถึงขั้นเคยนำหลานไปฝากเลี้ยง เเต่สุดท้ายมาทำกับหลานเเบบนี้ ตอนนี้หลานสาวเสียขวัญอย่างหนัก ถึงขั้นนอนผวาตอนกลางคืน ดังนั้นจึงขอให้ตำรวจ ดำเนินคดีกับนายสุพลอย่างถึงที่สุด
ทีมข่าวได้พูดคุยกับภรรยาของนายสุพล โดยภรรยาของนายสุพล อยู่ในอาการเสียใจ ไม่อยากเชื่อว่านายสุพลจะกล้าก่อเหตุ เพราะที่ผ่านมานายสุพลเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ค่อยขัน ซึ่ง 8 เดือนที่เเล้ว นายสุพลเคยผ่าตัดลำไส้ มาจนถึงปัจจุบัน มีเพศสัมพันธ์กับตนไม่ถึง 10 ครั้ง กว่าจะมีเพศสัมพันธ์ได้เเต่ละครั้ง ตนต้องพยายามลูบอยู่นาน ก็ไม่ทราบว่าเหตุใดนายสุพล จึงมีเเรงทำกับเด็ก
โดยวันเกิดเหตุ 22 ก.ค.63 ตนออกจากบ้าน เวลา 07.00 น. เพื่อไปทำธุระ เเละนอนค้างบ้านญาติที่จังหวัดสกลนคร จึงไม่ทราบว่าวันดังกล่าวเกิดอะไรขึ้น กระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมา พี่สาวของสามีโทรศัพท์บอกว่าเกิดเรื่อง จึงรีบเดินทางมา ซึ่งหากนายสุพลยอมรับ ก็ขอให้ได้รับโทษตามกฎหมาย ตนจะไม่ขอประกันตัวใด ๆ ทั้งสิ้น
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายวิทยา สุรำนาจ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ผู้ที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกับน้องมะม่วง เล่าว่าวันเกิดเหตุ 22 ก.ค.63 ตนนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าบ้าน ห่างจากบ้านน้องมะม่วง 50 เมตร เห็นน้องมะม่วงเดินออกจากบ้านไปร้านค้า เเล้วก็เห็นวิ่งกลับเข้ามาบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงพ่อกับเเม่น้องโวยวาย จึงวิ่งไปดูเห็นเเม่น้องมะม่วงกำลังเช็ดเลือดให้ ตนจะจับตัวน้องมะม่วงเพื่อดูว่าบาดเจ็บตรงไหน ซึ่งตอนนั้นน้องมะม่วงร้องไห้ ตัวสั่น ไม่ยอมให้ผู้ชายเข้าใกล้ ตนทราบทันทีว่าน้องคงถูกล่วงละเมิด จึงเเนะนำให้พ่อกับเเม่เด็ก พาเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาบาล
นายวิทยา ยังกล่าวอีกว่า ปกตินายสุพลดูเป็นคนดี ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะกล้าก่อเหตุกับเด็ก เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่นายสุพลจะเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ นายวิทยากล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะระยะทางที่ห่างจากบ้านน้องชมพู่ถึง 37 กม. อีกทั้งช่วงเวลาที่มีข่าวน้องชมพู่หาย ตนเห็นนายสุพล เปิดร้านค้าขายของทั้งวัน
ล่าสุดในเวลา 15.00 น. ตำรวจ สภ.กกตูม ได้นำตัวนายสุพล มาชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมประกอบสำนวน ก่อนขออำนาจศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับในข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี" หลังให้การรับสารภาพกับตำรวจ ว่าเป็นผู้ลงมือข่มขืนน้องมะม่วง (นามสมมติ) อายุ 3 ปี ซึ่งกระทำภายในร้านค้า ขณะที่เด็กเดินมาซื้อขนม
โดย พ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เดินทางมาดูการชี้จุดด้วยตัวเอง เเต่ยังไม่ขอให้ข้อมูลสื่อ ระบุว่ารายละเอียดอยู่ในสำนวน อีกทั้งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็ก จึงขอความร่วมมือสื่ออย่าลงรายละเอียดขั้นตอนการข่มขืนเด็ก
ทันทีที่ตำรวจนำตัวนายสุพลมาถึง มีชาวบ้านเเละญาติๆของน้องมะม่วง ยืนรอตะโกนสาปเเช่งต่าง ๆ นานา พร้อมพูดประโยคว่า "เอามันไปประหารเลย" ซึ่งนายสุพลได้จำลองให้ตำรวจดูขณะชี้จุด ว่าได้นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในร้านค้า เมื่อน้องมะม่วงเดินเข้ามาใน ร้านก็ลงมือข่มขืนที่พื้น โดยนายสุพลมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบคำถามใด ๆของสื่อมวลชน ใช้เวลาชี้จุดประมาณ 10 นาที ก่อนจะรีบนำตัวไปสอบปากคำต่อที่ สภ.กกตูม
โดยระหว่างการชี้จุด ปรากฎว่าภรรยาของนายสุพล (เสื้อสีชมพู) ที่มายืนดูอยู่ภายในร้านค้า เกิดความดันขึ้น เป็นลมล้มลงที่พื้น จนเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล อย่างไรก็ตามขณะนี้นายสุพล ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.กกตูม ซึ่งตำรวจจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ภายในวันวันที่ 25 ก.ค.63
ทีมข่าวได้พูดคุยกับพี่สาวของนายสุพล เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาน้องชายไม่เคยมีพฤติกรรมเเบบนี้ ตนก็คาดไม่ถึงว่าจะทำกับเด็กได้ เพราะน้องชายเป็นคนซื่อ โดยพี่สาวเล่าว่าวันที่ 22 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ตนอยู่ที่บ้านยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะบ้านตนอยู่ท้ายซอย จนกระทั่งช่วง 12.00 น. นายสุพล เดินมาบอกว่าถูกครอบครัวน้องมะม่วงกล่าวหาว่าข่มขืน โดยตอนนั้นนายสุพลยืนยันกับตนว่าไม่ได้ทำ
กระทั่งน้องชายจำนนด้วยหลักฐาน นายสุพลยอมรับว่าทำจริง ก็ขอให้ได้รับโทษตามกฎหมาย ตนจะไม่ขอช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น โกรธมาก ตนเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ "ขอถีบหัวส่งเข้าคุกไปเลย อายชาวบ้านเขา อายยันหมา หากมีรูอยากจะมุดหนี เพราะญาติพี่น้องไม่เคยมีใครทำเรื่องเลว ๆ เเบบนี้"
ทีมข่าวได้พูดคุยกับพ่อของน้องมะม่วง เปิดเผยว่า ตนอัดอั้นในใจมานานเเล้ว คิดว่าที่ไม่ใช่ครั้งเเรก ที่ลูกถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตนกับภรรยามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ก็จะตระเวนรับจ้างไปตามจังหวัดต่าง ๆ ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ลูกสาวจึงอยู่บ้านกับยาย เเต่ยายก็เคยประสบอุบัติเหตุเเขนหัก อาจดูเเลหลานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นช่วงกลางวันจึงฝากนายสุพลเลี้ยงลูก ส่วนตอนกลางคืนลูกก็มานอนกับยายที่บ้าน
เเต่ตนเริ่มรู้สึกเเปลก ๆ เมื่อตอนลูกอายุขวบครึ่ง ตอนนั้นตนทำงานรับจ้างที่หัวหิน คุณยายพาลูกไปหา ก็ได้มีโอกาสอาบน้ำให้ลูก ปรากฎว่าลูกพูดว่าเจ็บอวัยวะเพศ ตนทราบเเล้วว่าลูกต้องถูกล่วงละเมิด เเต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานว่าใครทำ ตนจึงเก็บเรื่องราวไว้คนเดียว ไม่บอกใครเเม้กระทั่งภรรยา
จนมาถึงวันนี้ เห็นหลักฐานทุกอย่างกับตาตัวเอง โมโหมาก "หัวอกคนเป็นพ่อ หากฆ่าคนเเล้วไม่ติดคุก ผมทำไปเเล้ว ผมมีลูก ผมก็รักลูก ลูกใครใครก็รัก ฝากถึงคนก่อเหตุทำอะไรให้นึกถึงพ่อเเม่เขาบ้าง ตอนพาลูกไปโรงพยาบาลเห็นลูกร้องไห้ ก็ยิ่งสงสารลูก อยากถามนายสุพลว่า ใจทำด้วยอะไร สัตว์นรกส่งมาเกิด ลูกผมถูกทำตั้งเเต่ขวบกว่า ๆ จนตอนนี้ 3 ขวบเเล้ว ผมจุกอก พูดไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐาน"
นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ กล่าวว่า ตนคงตอบประเด็นนี้ไม่ได้ ซึ่งต้องให้ถามพ่อแม่ชมพู่ดูว่ามีความขัดแย้งอะไรกับชายคนที่ก่อเหตุหรือไม่ ส่วนตัวไม่รู่จัก ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็น คนชื่อสุพลตนก็ไม่รู้จัก
นางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าของชมพู่ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่ากรณีนายสุพลจะเกี่ยวข้องกับหลานไหม เพราะบ้านแก่งนางไกลจากกกกอกมาก แต่ยังถือว่าขี่รถไปมาหากันได้ ส่วนตัวไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น คนชื่อสุพลตนไม่รู้จัก แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องชื่อ พล เหมือนกัน ชื่อนี้มีอิทธิพลจริง ๆ ส่วนตัวก็อยากให้ตำรวจลองสืบเรื่องนี้ดูว่าจะเกี่ยวกับคดีชมพู่หรือไม่
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านกกกอก ไปพูดคุยกับ นางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านกกกอก เปิดเผยว่า ไม่เคยเห็นและไม่คุ้นหน้านายสุพลมาก่อน และตนก็ไม่เคยไปบ้านแก่งนาง เพราะระยะทางค่อนข้างไกล เดินทางเป็นชั่วโมง ๆ ซึ่งการที่นายสุพลก่อเหตุข่มขืนเด็ก 3 ขวบ ตนก็คิดว่าอาจจะไม่เกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ เพราะระยะทางค่อนข้างไกล อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังมั่นใจว่าน้องชมพู่ไม่ได้เดินไปตายเอง คิดว่าต้องมีคนร้ายคนอื่น แต่อาจจะไม่ใช่นายสุพล
เมื่อสรุปการพบเห็นนายสุพล ในวันที่ 11 พ.ค.63 ปรากฏว่าไม่มีใครเคยเห็นนายสุพล ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนเด็กอายุ 3 ขวบ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าในหมู่บ้านเเก่งนาง ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร โดยมีระยะห่างจากบ้านกกกอก บ้านน้องชมพู่ 37 กม.
