กรณีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงกว่า 10 คน บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงและพยาบาล เจ้าหน้าที่ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ จากนั้นพากันยกพวกไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายคู่อริ ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าอีกครั้ง
จากนั้น วัยรุ่นกลุ่มเดียวกันได้ยกพวกไปที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า โดยพากันกรูเข้าไปภายในห้องฉุกเฉินท่ามกลางสายตาของผู้มาใช้บริการ ขณะที่แพทย์กำลังทำการรักษาผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นกลุ่มคู่กรณี โดยมีการใช้สิ่งของที่หยิบจับได้ใกล้ตัว ทั้งเก้าอี้และอื่น ๆ ไล่ตี และปาใส่กันอย่างบ้าคลั่ง จนกะทั่งต่างฝ่ายต่างแยกย้าย
ล่าสุดวันที่ 21 ก.ค.63 ที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า จุดที่กลุ่มมหาวงษ์บุกเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินเพื่อตามหาตัว นายธนพล ทองชัยยะ หรือ แจ๊ค ผู้ที่ก่อเหตุแทงนายรัชต์พงษ์ วาสนา หรือ คิว จนเสียชีวิต และก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันนั้น
นายแพทย์รังษี ทีระศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า นำทีมข่าวเข้าไปภายในห้องฉุกเฉิน จุดที่กลุ่มวัยรุ่นบุกเข้ามาขว้างปาข้าวของใส่กัน จนทำให้กระจกร้าว 2 จุด คือบริเวณด้านข้าง และประตูทางเข้าห้องฉีดยา ซึ่งขณะนี้ได้ซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นายแพทย์รังษี ทีระศิลป์ กล่าวว่า ความเสียหายแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ทางกายภาพ และทางด้านจิตใจ โดยมีอุปกรณ์สำนักงาน และเครื่องตรวจ ส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ชิ้นใหญ่ไม่ได้รับความเสียหาย มีกระจกที่แตกก็ซ่อมแซมเบื้องต้นให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ส่วนสภาพจิตใจ พบว่าขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่อยู่ในเกณฑ์ดี และส่วนใหญ่ก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติแล้ว
ด้านคดีความทางอาญาก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนคดีแพ่งเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ก่อเหตุ ทางประกันเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ส่วนเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยมีการพูดคุยกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เรื่องการวางกำลังต่าง ๆ ให้รัดกุมมากขึ้น โดยที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลก็มีมาตรการที่เข้มข้นอยู่แล้ว ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่เวรเปลข้างหน้าจำนวน 5-6 คน คอยคัดกรองบุคคลเข้า-ออก แต่เหตุการณ์ดังกล่าวอยู่เหนือการควบคุม
“โรงพยาบาลเป็นพื้นที่ที่ทุกคนมีสิทธิ์มาใช้ทั้งหมด เพราะไม่มีใครหนีความเจ็บป่วยพ้น หากมีเรื่องโกรธเคืองกัน ก็ควรเคลียร์กันนอกโรงพยาบาล หรือใช้กฎหมายจัดการ และควรใช้สติกับความเป็นมนุษย์ก่อนจะทำอะไรลงไป”
