ฟังชัด ๆ! แก๊งมหาวงษ์ถล่ม รพ.ชกหมอ อ้างแค่ถาก ๆ หัวอกแม่เครียด ลูกซวยเพราะเพื่อน (คลิป)

ความคืบหน้าเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นชายหญิงกว่า 10 คน บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงและพยาบาล เจ้าหน้าที่ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ จากนั้นพากันยกพวกไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายคู่อริ ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าอีกครั้ง

จากนั้น วัยรุ่นกลุ่มเดียวกันได้ยกพวกไปที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า โดยพากันกรูเข้าไปภายในห้องฉุกเฉินท่ามกลางสายตาของผู้มาใช้บริการ ขณะที่แพทย์กำลังทำการรักษาผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นกลุ่มคู่กรณี โดยมีการใช้สิ่งของที่หยิบจับได้ใกล้ตัว ทั้งเก้าอี้และอื่น ๆ ไล่ตี และปาใส่กันอย่างบ้าคลั่ง จนกะทั่งต่างฝ่ายต่างแยกย้าย

ขณะที่ฝ่ายสืบสวน สภ.สำโรงใต้ นำกำลังไปจับกุมผู้ต้องหา ที่บ้านพักภายในซอยวัดมหาวงษ์ ต.สำโรง อ.พระประดง จ.สมุทรปราการ ได้ผู้ต้องหามาทั้งหมด 11 ราย

โดยหัวโจกคือนายภาณุวัฒน์ แย้มสุข หรือ กั๊ก เข้าชกแพทย์หญิง ส่วนนายนิพล วันชม หรือ มิน ต่อยพนักงานเวรเปล ต่อว่าหมอไม่ยอมช่วยเพื่อน ทำให้เพื่อนตายในที่สุดนั้น ล่าสุด ทั้ง 2 คนยอมรับว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง และกล่าวสำนึกผิดแล้วนั้น

นายภานุวัฒน์ ที่ก่อเหตุชกแพทย์หญิง บอกว่าตนเป็นก่อเหตุจริง เพราะโมโหที่เพื่อนเสียชีวิตแล้ว "ผมต่อยโดนถาก ๆ เบา ๆ เพราะคนมันบังอยู่ แม่คิวเข้ามาห้ามเอาไว้ บอกว่าขอเถอะ หมอกำลังรักษาคิวอยู่ มันจะตายแล้ว ผมก็เลยเดินออกมา"

นายนิพล เพื่อนอีกคนที่เดินตามมาต่อยบุรุษพยาบาล ระบุว่า "เขามาต่อยพี่ผม หลังจากพี่ผมต่อยหมอผู้หญิง ผมเลยต่อยกลับ"

โดยผู้ก่อเหตุที่ซอยโรงเหล็ก ทั้งหมด 13 คน เป็นแก๊งมหาวงษ์จำนวน 8 คน ได้แก่ นายรัชพงษ์ หรือ คิว ผู้เสียชีวิต, นายอรรถพล หรือ แฮ็ก, นายกานต์ หรือ ออม, นายนิพล หรือ มิน, นายรังสิมันต์ หรือ เพชร, นายกิตติพัน หรือ กบ, นายธีรยุทธ หรือ ปอ และนายประทีป หรือ โป้ง 

โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทั้งหมด 13 คนที่ก่อเหตุในซอยโรงเหล็ก ฐานความผิดร่วมก่อเหตุและทำร้ายร่างกายผู้อื่น

โดยผู้ก่อเหตุที่ก่อเหตุที่โรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ ทำร้ายเจ้าหน้าที่แพทย์นั้น รวม 9 คน เป็นแก๊งมหาวงษ์ ได้แก่ นายภาณุวัฒน์ หรือ กั๊ก, นายนิพล หรือ มิน, นายประทีป หรือ โป้ง, นายวิโรจน์ หรือ จ้า, น.ส.สุรางคณา หรือ นุ๊ก, นายธรรมรัตน์ หรือ กอล์ฟ, น.ส.ณราทิพย์ หรือ มิ้ว, น.ส.บัญชี หรือ ไอซ์ และนายกานต์ หรือ ออม

โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ ในฐานความผิดร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ

ขณะที่ผู้ก่อเหตุที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ จำนวน 18 คน และจับกุมตัวได้แล้ว 13 คน เป็นแก๊งมหาวงษ์ ได้แก่ นายนิพล หรือ มิน, น.ส.สุรางคณา หรือ นุ๊ก, นายธรรมรัตน์ หรือ กอล์ฟ, นายวิโรจน์ หรือ จ้า, นายภาณุวัฒน์ หรือ กั๊ก, นายจาตุรานนท์ หรือ จา, นายสุวิทย์ หรือ เอ็ม, นายประทีป หรือ โป้ง, น.ส.บัญชี หรือ ไอซ์, น.ส.ณัฐณพัศรา หรือ แหม่ม, นายนทีธร หรือ ตูน, นายนาวี หรือ ต๋อย และนายอนิรุศน์ ส่วนอีก 5 ราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว

โดยผู้ก่อเหตุทั้ง 2 กลุ่ม นอกจากแก๊งมหาวงษ์แล้ว ฝ่ายแก๊งโรงเหล็กมี 1 รายคือ นายธนพล หรือ แจ็ค ผู้ที่ก่อเหตุแทงนายคิว ผู้เสียชีวิตนั้น

ตำรวจแจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ ในข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ, ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดบมีอาวุธ, ร่วมกันกระทำผิดในเวลากลางคืนทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

ล่าสุด วันที่ 21 ก.ค. 63 พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งตั้งคณะทำงานทีมพนักงานสอบสวนเฉพาะกิจเพื่อเร่งทำสำนวนในคดี และมีการคุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนเพิ่มเติม

นายอรรถพล หรือ แฮ็ก บุญประเสริฐ หัวโจก สารภาพว่า เรื่องเกิดจากตนเองที่เดินทางไปภายในซอยโรงเหล็กซึ่งเป็นที่เกิดเหตุจุดแรกนั้น เพราะต้องการนำเอายาบ้าจำนวน 10 เม็ดไปแลกกับสว่านไฟฟ้ากับคนรู้จัก แล้วต้องเดินผ่านหน้าบ้านของกลุ่มผู้บาดเจ็บ แต่ถูกสั่งห้ามและขู่จะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก ทำให้เกิดมีปากเสียงกัน กลายเป็นเหตุบานปลาย

นางน้อย (นามสมมติ) แม่ของนายนิพล วันชม หรือ มิน ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อนว่าลูกไปก่อเหตุต่อยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล โดยตอนแรกทราบเพียงว่าลูกชายก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับแก๊งโรงเหล็ก จนถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจ กระทั่งมาเห็นคลิปวงจรปิด คิดว่าลูกไม่น่าทำแบบนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเพราะลูกชายและนายกั๊ก หลายชายของตน อาจจะเสียใจที่นายคิว เพื่อนสนิทเสียชีวิต

นางน้อย กล่าวต่อว่า ปกติลูกจะอยู่แต่กับกลุ่มเพื่อน ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกชายอาจจะทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ ตนก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำของลูก ยืนยันว่าลูกชายไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งนี้ ตนไปส่งลูกที่ศาลและบอกลูกว่าให้อดทนรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ด่าลูกตนว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนนั้น ยืนยันตนไม่เคยสอนให้ลูกทำแบบนี้