จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอและรูปภาพ โดยเท้าแชร์เจ้าดังของ จ.อ่างทอง ทราบชื่อคือนางสาวชุ (นามสมมติ) ได้เชิดเงินของลูกแชร์ ก่อนจะดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำหวังฆ่าตัวตาย แต่รอดชีวิต และพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล ลูกแชร์กว่า 10 คนจึงบุกไปถึงโรงพยาบาลราชธานี จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทวงเงิน พร้อมกับโพสต์แฉพฤติกรรมว่าสาเหตุที่เงินหายไป เพราะนำเงินไปซื้อที่ดิน และรถยนต์ให้กับแฟนคนปัจจุบัน
วันที่ 17 ก.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้เสียหาย 4 ราย เดินทางมารวมตัวเพื่อร้องเรียนผ่านทีมข่าว หลังจากถูกเชิดเงิน
นางสาวแสงมณี และนางสาวพรรณิดา ลูกแชร์ เปิดใจว่า พฤติกรรมของเท้าแชร์ "บ้านชุ พารวย" จะเปิดให้ลูกแชร์เล่นออมเงิน โดยการลงทุนด้วยเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งยอดเงินออมต่ำสุดอยู่ที่ 400 บาท สูงสุดอยู่ที่ 500,000 บาท และมีระยะเวลากำหนด เช่น 7 วัน 15 วัน 30 วัน แล้วแต่จะเลือกลงทุน เพื่อที่จะได้รับกำไรประมาณ 20 เปอร์เซนต์ ของเงินออม
เมื่อก่อน 1 สัปดาห์ จะเปิดให้ลงทุน 1 ครั้ง แต่หลังมา ๆ นี้ เริ่มเปิดให้ลงทุนทุกวัน และเมื่อเดือน ก.ค. เริ่มมีการอัดฉีดด้วยการแจกทองคำ เพื่อจูงใจให้คนมาลงทุนมากขึ้น คือ หากออมเงิน 100,000 บาท จะได้ทองคำ 0.6 กรัม และล่าสุด คือ ออมเงิน 100,000 บาท ได้ทองคำ 1 กรัม ซึ่งมีคนที่ได้ทองคำจริงเพียง 2 คนเท่านั้น
โดยตนเริ่มรู้สึกแปลกใจ เพราะเท้าแชร์โพสต์โชว์เรื่องเงินมากขึ้น และจัดโปรโมชันชักชวนมากขึ้น อีกทั้งยังนำเงินไปซื้อที่ดิน ซื้อทองคำ นอกจากนี้ ในวันที่ 4 ก.ค. กับ วันที่ 12 ก.ค. ยังมีคนปริศนาเข้ามาป่วนในไลน์กลุ่มออมเงินถึง 2 ครั้ง ทำนองว่าเท้าแชร์กำลังโกงของทุกคน และโยกเงินไปอยู่ที่บ้านสามี อีกทั้งยังมีการโอนสลิปเข้าบัญชีของตัวเอง เหมือนรีวิวว่ามีการโอนเงินจริง และมีคนมาใช้บริการออมเงินเยอะ ด้วยเหตุนี้ ตนจึงทดลองสแกนคิวอาร์โค้ดในสลิปโอนเงินของเท้าแชร์ที่แปะอยู่หน้าเฟซบุ๊ก และพบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีชื่อตัวเอง
จากนั้น วันที่ 13 ก.ค. ตนจึงติดต่อขอเงินคืนจำนวน 980,000 บาท เท้าแชร์จึงบอกว่าจะให้คนอื่นซื้อต่อ โดยมีค่าจอง 300,000 บาท เอาเงินคืนได้ฟรี 600,000 บาท จากนั้นลูกแชร์กับคนที่ทำงานที่เดียวกันได้ไปตามสืบจากญาติ ๆ และทราบว่า เท้าแชร์ไม่ได้ไปทำงานหลายวัน ก่อนจะทราบเรื่องว่าได้กินน้ำยาล้างห้องน้ำหวังฆ่าตัวตาย
ต่อมา เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ตนกับลูกแชร์คนอื่น ๆ ได้เข้าไปเจรจา แต่เข้าไปเจอแฟนของเท้าแชร์ กล่าวปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่อง จนวันที่ 15 ก.ค. ลูกแชร์รายหนึ่งบอกให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่โรงพยาบาล รวมกว่า 20 คน ตามในคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์นั้น โดยในวันที่ 16 ก.ค. เท้าแชร์ได้นัดหมายว่าจะเซ็นสัญญากัน แต่ได้ปิดเฟซบุ๊กและปิดทุกช่องทางการติดต่อ ก่อนจะหลบหนีไป ทุกคนจึงรวมตัวกันไปลงบันทึกประจำวัน และในวันพุธที่ 22 ก.ค. และตั้งใจว่าจะแจ้งที่กองปราบปรามอีกครั้ง ขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 200 คน
ทีมข่าวเดินทางมาที่ ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง นางแดง (นามสมมติ) อายุ 62 ปี แม่ของเท้าแชร์ เปิดใจว่า ตนไม่ได้เจอลูกนานแล้ว พอทราบว่าลูกสาวเข้าโรงพยาบาลก็รีบตามไปเยี่ยมทันที ส่วนตัวไม่ทราบเหตุผลที่ทุกคนบุกไปโรงพยาบาล และลูกแชร์พยายามจะอธิบายให้ตนฟัง แต่ตนก็ไม่เข้าใจ ทราบเพียงว่าลูกสาวของตนได้เปิดวงแชร์มา 8 ปีแล้ว
หลังจากที่ลูกสาวคบกับแฟนคนใหม่ ลูกสาวตนเปลี่ยนไปมาก เพราะลูกสาวไม่ค่อยจะกลับมาที่บ้าน เวลามาที่บ้านก็ไม่คุยกับใคร เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ล่าสุด ที่ตนเข้าไปดูอาการ พบว่ายังไม่ดีขึ้น และแทบจะพูดไม่ได้ มีอาการไอตลอด เวลาไอจะมีเลือด อีกทั้งเมื่อวานนี้ ตนตั้งใจจะเข้าไปเยี่ยม แต่โรงพยาบาลไม่ให้เยี่ยม ทั้งนี้ ตนอบรมสั่งสอนลูกสาวตลอดว่าอย่าโกงคนอื่น อย่าทำเรื่องผิดกฎหมาย โดยทุกครั้งลูกสาวจะตอบกลับมาว่า "หนูไม่เคยทำ"
