เกย์หึงโหดหวั่นคู่ขาปันใจคว้าค้อนทุบหัวเละ แม่เผยสุดอาภัพผัว-สะใภ้ตายไล่กัน (คลิป)

กรณีร.ต.อ.นพคุณ เสือนอก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรม อ.หนองบัวระเหว ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรมที่บ้านปากค่ายช่องแมว หมู่ 2 ตำบลหนองบัวระเหว อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ

ทราบชื่อผู้ตาย นายทองใส จ่าทัน อายุ 47 ปี สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนส์ขายาว ถูกฟันบริเวณใบหน้าหลายแผล ด้วยอาวุธหลายชนิดจนสมองกระจาย นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณแคร่หน้าบ้าน ใกล้กันพบขวาน ค้อนปอนด์ และท่อนไม้เปื้อนเลือดตกอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสถิต เกณฑ์ชัยภูมิ อายุ 46 ปี ได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ

จากข้อมูลแจ้งว่าผู้ตายและผู้ก่อเหตุเป็นคู่รักชายรักชาย แต่ผู้ตายนั้นมีครอบครัวอยู่แล้ว โดยเมื่อวันี่ 12 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ผู้ตายได้มาทำบ้านหลังที่เกิดเหตุให้กับแม่ จนกระทั่งประมาณ 17.00 น. ผู้ตายตั้งวงดื่มสุรากับผู้ก่อเหตุบริเวณแคร่หน้าบ้าน จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น. แม่ของผู้ตายก็ได้ยินเสียงของทั้งคู่ทะเลาะกัน แต่ไม่ได้เอะใจ คิดว่าเป็นเสียงเชือดไก่เพื่อนำมาทำอาหาร จนเวลาผ่านไปแม่ของผู้ตายก็ได้ออกมาพบศพลูกชาย นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน

นางบุญทา จ่าทัน แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นคู่รักกัน แต่ฝ่ายผู้เสียชีวิตนั้นมีครอบครัวอยู่แล้ว วันนี้ทั้ง 2 คนได้มาทำบ้านหลังเกิดเหตุให้กับตน ซึ่งตนไม่ได้เอะใจอะไรนึกว่าเสียงที่ได้ยินเป็นการฆ่าไก่ จากนั้นได้ออกมาดูกลับพบว่า ลูกชายนอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป

ทั้งนี้จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถตามรวบตัวผู้ก่อเหตุใช้ขวานจามผู้ตายได้สำเร็จตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนวานนี้ หลังหนีไปกบดานบ้านญาติเขตอำเภอบ้านเขว้า ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร โดยเจ้าตัวรับสารภาพว่าตัวเองและผู้ตายเป็นคนรักกัน แต่ผู้ตายตัดสินใจจะกลับไปหาครอบครัว ทำให้มีปากเสียงกัน ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตายจนเสียชีวิต

ล่าสุดวันที่ 13 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวของผู้ตายกำลังจัดเตรียมงานศพให้ผู้ตาย โดยแคร่ที่ผู้ตายนอนเสียชีวิตยังคงมีคราบเลือด ส่วนพื้นที่เลือดและสมองผู้ตายไหลกระจายอยู่นั้น ทางครอบครัวได้นำดินมากลบทับ และเผาเสื่อที่เปื้อนเลือดทิ้งไปแล้ว

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า นายสถิต เคยต้องโทษฐานมียาเสพติดในครอบครองไว้จำหน่ายจำนวน 16 เม็ด โดยได้ประกันตัวออกมา และจะต้องขึ้นศาลตัดสินในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า

หลังจากที่นายสถิต ได้ใช้ค้อนปอนด์ทุบที่ศีรษะของผู้ตายแล้ว นายสถิตได้ขับรถจักรยานยนต์เพื่อระบายความเครียดรอบบ้านปากค่ายช่องแมว ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้ววนรถกลับมาใช้ค้อนปอนด์ทุบซ้ำที่ศีรษะของผู้ตาย และขับรถจักรยานยนต์ไปที่บ้านญาติ ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อจะฆ่าตัวตาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งได้รับแจ้งเหตุในเวลา 21.30 น. ได้ตามไปตับกุมตัวไว้ได้ทันในเวลา 22.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่นายสถิต เดินทางไปถึงบ้านญาติพอดี

โดยในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาแก่นายสถิตฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา และได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิในเวลาประมาณ 15.00 น. แล้ว

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไป บ้านโนนเปลือย ในอำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งหากจากบ้านของผู้ตายประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อไปพูดคุยกับนางภา เกณฑ์ชัยภูมิ อายุ 75 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ

นางภา บอกว่า ตนพอจะรับรู้มาสักพักว่าลูกชายของตนนั้นชอบผู้ชายด้วยกัน ซึ่งตนไม่เคยกีดกัน แต่ตนไม่เคยเห็นลูกชายของตัวเองจริงจัง หรือพาใครมาบ้านแบบผู้ตาย โดยลูกชายของตนรู้จักกับผู้ตายได้ประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยลูกชายของตนแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารักผู้ตายมาก ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ชวนกันมาอยู่ที่บ้านหลังถัดจากบ้านของตน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน

ทั้งนี้ตนรู้ว่าลูกชายมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดติดตัว รู้เพียงเป็นคดีเสพ ไม่ได้ขาย ส่วนเหตุฆาตกรรมนี้เป็นกรรมของลูกชายของตน ก่อเหตุเองก็ต้องรับผิดเอง โดยลูกชายตนได้บอกกับครอบครัวว่าไม่ต้องประกันตัว จะขอรับผิดเองในคุก สิ่งที่ตนทำได้ต่อจากนี้จะไปเยี่ยมแม่ของผู้ตาย และจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทำบุญและงานศพ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์นี้ด้วย

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางบุญทา จ่าทัน อายุ 68 ปี แม่ของผู้ตาย ซึ่งกำลังนั่งโศกเศร้าคิดถึงผู้ตาย โดยหยิบอัลบั้มรูปสมัยที่ผู้ตายเคยบวชให้เมื่อ 20 ปีที่แล้วออกมาดู

นางบุญทา บอกว่า ตนเสียใจจนบอกไม่ถูก เนื่องจากผู้ตายเป็นคนดีคอยดูแลตนอยู่ตลอดเวลา ตนรู้สึกว่าตนเป็นคนอาภัพ ตนป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูก ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ตนเพิ่งสูญเสียสามีเมื่อปลายปีและเพิ่งสูญเสียลูกสะใภ้ ภรรยาของลูกชายคนโต ไปเมื่อ 4 เดือนก่อน ส่วนลูกชายคนเล็กอายุ 32 ปี ก็เพิ่งถูกภรรยาทิ้งไปหาสามีใหม่

นางบุญทา เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ลูกชายได้ปลอกส้มมาให้ตนกินในช่วงเย็น ซึ่งตนรู้สึกเอะใจเนื่องจากผู้ตายไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ไม่แน่ใจว่านี่คือลางสังหรณ์หรือไม่ โดยในเวลาประมาณ 19.30 น. ขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่ในบ้าน ตนก็ตกใจตื่น เนื่องจากได้ยินเสียงดังตุบ 1 ครั้ง ซึ่งตนคิดว่าลูกชายตีหัวไก่ เพื่อจะทำอาหารให้ตนกินในวันรุ่งขึ้น จนตนและชาวบ้านออกมาพบศพลูกชายในเวลาประมาณ 21.00 น. จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นางบุญทา บอกด้วยว่า ตนรับได้และไม่กีดกันหากลูกชายของตนจะคบหากับผู้ก่อเหตุแบบคนรัก แต่ลูกชายของตนนั้นรับไม่ได้ อยากที่จะคบกันเป็นเพื่อนมากกว่า แต่ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกชายของตนถึงยอมไปค้างอยู่บ้านของผู้ก่อเหตุหลายครั้ง โดยตนได้เคยเตือนลูกชายหลายครั้งว่าหากอยากจะเลิกกันก็ให้พูดกันดี ๆ ระวังจะถูกฆ่า เพราะตนมักจะเห็นข่าวคนรักฆ่ากันตอนบอกเลิกอยู่เป็นประจำ

ครั้งล่าสุดที่ตนเตือนลูกชายเมื่อ 2 วันก่อน ตนไม่คิดว่าจะฆ่าลูกชายของตนจริง ๆ เนื่องจากผู้ก่อเหตุจะบอกกับตนเสมอว่า รักลูกชายของตน เชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของผู้ก่อเหตุ ตนอโหสิกรรมให้เพราะคนก่อเหตุยอมรับสารภาพ แต่อยากจะให้แม่ของผู้ก่อเหตุมาช่วยจัดงานศพให้ลูกชาย เพราะตนยากจนและไม่ค่อยแข็งแรง