จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. และยังจับคนร้ายไม่ได้ กระทั่งนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่เปิดความในใจว่าสงสัยลุงพลเป็นผู้ก่อเหตุนั้น
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่มีการนำรูปภาพของ 3 บุคคลต้องสงสัยให้ชาวบ้านในพื้นที่ดู และชี้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ประกอบด้วยนายแชมป์ นายบอม และชายผิวดำแดง สูงประมาณ 170 ซม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคลายความสงสัยนายบอม และนายแชมป์แล้ว เหลือเพียงการหาข้อมูลเชื่อมโยงกับชายอีกรายนั้น
วันที่ 7 ก.ค. 63 นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ยืนยันว่า ตนเองขออยู่ข้างลุงพล เพราะเชื่อว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์ และวันนี้ตนเอาโฉนดที่ดินที่ จ.เชียงใหม่ มาให้สื่อเป็นพยานว่าหากลุงพลถูกหมายจับจริง ตนจะเอาโฉนดไปขาย และนำมาช่วยเหลือประกันตัวลุงพลสู้คดี
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ก.ค.) ตนโทรศัพท์ไปให้กำลังใจลุงพล ลุงพลก็บอกว่าหากหมายจับมาออกที่ตัวเอง ตัวเองก็พร้อมจะสู้ แต่ตนรู้ว่าลุงพลก็ไม่ได้มีเงินมาก ตนก็อยากช่วยลุงพล ตนมองออกว่าลุงพลเป็นคนซื่อ เป็นคนไม่เสแสร้ง ลุงพลมีแค่หน้าเดียว "ลุงพลคือคนหน้าเดียว คือคนดีที่หลอกใครไม่เป็น ตอแหลใครไม่เป็นเหมือนคนบางคนที่หลายหน้า" ตนไม่ยอมให้คนดีถูกรังแกแน่นอน ตนเคยลงพื้นที่ไปคุยกับลุงพลที่บ้านกกกอกมาแล้ว และเตรียมช่วยเต็มที่ เตรียมโฉนดที่ดินมา 6 ฉบับ เป็นบ้านพร้อมที่ดินรวมกันมากกว่า 10 ล้านบาท
ส่วนหากให้ตนสังเกตพิรุธคนในหมู่บ้าน ตนคิดว่าคนไทยทั้งประเทศ 90% มองออกว่าใครมีพิรุธ และตนไม่ขอพาดพิงใคร ยอมรับว่าตนสงสารคนในหมู่บ้าน เพราะอยู่กันด้วยความหวาดระแวง "ผมไม่ต้องพูดหรอกว่าคนร้อนตัวมันคือใคร เราก็เห็น ๆ กันอยู่แล้ว"
จากนั้น หมอปลาวิดีโอคอล เพื่อให้กำลังใจลุงพล โอนเงิน 10,000 บาทให้ เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากไม่ค่อยได้ทำงาน หมอปลาบอกว่าไม่ต้องกลัวเรื่องคดี เพราะตนมั่นใจว่าลุงพลไม่ได้ทำอะไรผิด หลักฐานจากน้ำลายของคน มันจับใครไม่ได้ และตนเองจะไม่ทิ้งลุงพลแน่นอน พร้อมยืนเคียงข้างลุงพล ตนไม่ได้เกาะกระแส ไม่ได้สร้างภาพ เพราะตนเห็นลุงพลเป็นคนดีที่ต้องไม่ถูกรังแก นอกจากนี้ ตนเองทราบซึ้งใจแทนลุงพลที่มีพ่อตาแม่ยายเป็นคนดีมาก ๆ เป็นบุคคลที่ประเสริฐและเชื่อมั่นในตัวของลูกเขย รู้จักนิสัยของลูกเขย
นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยทั้งน้ำตาคลอว่า หลังจากข่าวนำเสนอไปทางอมรินทร์ทีวี เมื่อคืนที่ผ่านมา (6 ก.ค.) หมอปลาได้โทรศัพท์ผ่านทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เพื่อให้กำลังใจตน บอกว่าขอให้สู้ หากตัวเราไม่ผิดให้สู้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีการโยนความผิด และหากหมายจับออกที่ตน หมอปลาพร้อมช่วยเต็มที่ โดยจะดูแลเรื่องเงินประกันตัวให้หากตนไม่มีทรัพย์สิน "ตนเองภูมิใจที่ยังมีคนเห็นค่าคน ๆ หนึ่งที่ไม่ใช่ญาติแท้ ๆ ของเขาเอง"
ตนเองพยายามไม่คิดถึงด้านลบ พยายามให้กำลังใจตัวเอง ทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ไม่ให้ไปกระทบญาติ ๆ เพราะตนเองยังต้องอยู่กับครอบครัวไปถึงวาระสุดท้ายของชีวิต คนที่มองเข้ามาไม่มีใครรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร มีอะไรที่ใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง บางครั้งเรื่องที่พูดออกสื่อก็ไม่จริงทุกอย่าง เพราะเราต้องการให้เรื่องที่ร้าย ๆ ดีขึ้น "ไม่ใช่ว่าการให้ข่าวออกไปแล้วจะไม่ห่วงความรู้สึกใครเลย การกระทำเช่นนี้มันไม่ให้เกียรติคน ทุกคนมีศักดิ์ศรีถึงแม้จะจนก็ตาม" ตนเองเชื่อว่าคนดูทั้งประเทศ คงมีทั้งให้กำลังใจและแสดงความเห็น ตนเองไม่เคยตำหนิหรือต่อว่า เพราะเป็นสิทธิของบุคคล ซึ่งตนเองรู้ตัวว่าวันนี้ทำอะไรและทำเพื่อใคร
นางสมควร หลาบโพธิ์ ยายของชมพู่ เปิดเผยว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตนเองยังไม่ได้คุยกับทั้ง 2 ฝ่าย ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเรา ที่ผ่านมาไม่เคยเจอแบบนี้ หากวันหนึ่งตำรวจจับลุงพล ตนเองก็คงสงสัยไปหมดว่าลุงทำจริงไหม ทำไปทำไม เพราะลุงก็รักหลาน วันนี้ยายก็ตอบไม่ได้ว่าลุงพลจะใช่คนผิดไหม แต่หากทำผิดแล้วถูกจับ ตนเองก็ไม่เข้าข้าง แต่หากลุงพลไม่ผิด ตนคิดว่าก็สงสารลุงพล ตอนนี้ไม่ว่าใครจะเป็นคนร้ายมาทำกับหลานตน ตนคงรับไม่ได้
ส่วนเรื่องประกันตัว ตนเองไม่รู้ตะเอาเงินที่ไหนมาประกัน ตนก็หาเช้ากินค่ำ ใจตนก็อยากจะประกันให้มาแก้ตัว ซึ่งตนเองคิดว่าใครทำอะไรไว้ก็ให้รับกรรม ตนเองก็อยากให้ลูก ๆ มาคุยกันก่อน
อย่างไรก็ตาม หากในคดีนี้ลุงพลถูกตำรวจออกหมายจับ ญาติฝ่ายน้องชมพู่ทั้งพ่อตาแม่ยายจะช่วยประกันตัว รวมถึงหมอปลาด้วย ส่วนถ้าหากพ่อของน้องชมพู่ถูกจับ ก็มีญาติ ๆ ช่วยประกันตัวทั้งพ่อตาแม่ยายเช่นกัน รวมถึงนายนรินทร์ น้าของน้องชมพู่ด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ตรวจดีเอ็นเอของชาวบ้านในหมู่บ้าน และมีการเก็บดีเอ็นเอของทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เพื่อเป็นไปตามการปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบ