เมื่อวันที่ 3 ก.ค.63 ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บริเวณถนนมหาสิทธิโชค เขตเทศบาลเมืองนครพนม ตรวจที่เกิดเหตุถนนมหาสิทธิโชค หน้าตลาดนัดเย็นฝั่งขาเข้า ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 ที่ริมทางเท้า
พบรถกระบะ 4 ประตู พื้นถนนด้านรถประตูฝั่งขวา มีผู้ตาย น.ส.สุจิตรา เชียงใบ อายุ 23 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน 2 นัด เข้าที่ศีรษะและสีข้างเสียชีวิตคาที่
ประตูรถฝั่งซ้ายพบศพ น.ส.จิตรา เชียงใบ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของ น.ส.สุจิตรา มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด และใกล้เคียงกัน บนทางเท้ามีศพนางโอลา เชียงใบ อายุ 45 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน เข้าที่ศีรษะ 1 นัด โดยนางโอลาเป็นแม่ของผู้ตายทั้ง 2 คน ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 9 มม.
ส่วนคนก่อเหตุชื่อ นายนพดล น่วมสำลี หรือ บี อายุ 42 ปี หลังก่อเหตุ ขับรถจักรยานยนต์ไปรับลูกสาววัย 8 ขวบที่โรงเรียน เจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดจับ พบนายนพดลชูมือขึ้นเหนือหัว พร้อมบอกว่า "ผมขอมอบตัว"
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายนพดล ขับรถกระบะมากับ น.ส.สุจิตรา แฟนสาว ออกจากบ้านเพื่อจะไปรับลูกสาวที่โรงเรียน ระหว่างทางเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน นายนพดลจึงจอดรถเพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจ ขณะเดียวกันภรรยาก็โทรศัพท์บอกแม่กับพี่สาวให้ขี่จักรยานยนต์ตามมาช่วย จากนั้น นายนพดลชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงคนทั้ง 3 คนเสียชีวิตคาที่
ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า พบรักกับ น.ส.สุจิตรา ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนตกลงปลงใจอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา 2 ปีผ่านมา โดยตนและฝ่ายหญิงต่างมีลูกติดด้วยกันทั้งคู่ ประมาณเดือนพฤษภาคม 63 ตนดื่มเหล้าเมาแล้วมีปากเสียงขั้นทุบตีเมีย จึงทำให้ น.ส.สุจิตราหนีกลับมาอยู่บ้านที่ จ.นครพนม ด้วยความรักตนจึงตามมาง้อขอคืนดี พ่อตาแม่ยายเปิดโอกาสให้แก้ตัว โดยตนทำเรื่องย้ายโรงเรียนลูกสาวมาอยู่ที่ จ.นครพนม หวังตั้งหลักปักฐานไว้ที่นี่
จากนั้น นางโอลา แม่ยาย รู้ว่าอดีตลูกเขยที่ทำงานอยู่การไฟฟ้าถูกหวยรางวัลที่ 1 เมื่อปีก่อน จึงจะให้มาดูแลลูก ขณะที่ตนกลับไปดำเนินเรื่องย้ายลูกสาวมาเข้าโรงเรียน เช็กพิกัดพบว่าเมียตนเองมาที่ จ.ขอนแก่น จึงรีบเดินทางมาดู พบว่ากำลังเดินลงมาจากโรงแรมพร้อมกับอดีตสามีเก่า เมื่อสอบถามก็อ้างว่าจัดการเรื่องลูก ไม่ได้มีอะไรกัน จึงเป็นเหตุให้ตนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
