เมื่อวันที่ 29 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดโคกสะท้อน อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นวัดที่พระสม จันทสาโร น้องชายของนายสงบ อยู่ โดยพระสม บอกว่า ถ้าสังคมเข้าใจว่านายสงบเป็นคนทำ ให้ดูระยะทางจาก อ.สะตึก จ.บุรีรัมย์ ไป จ.มุกดาหาร ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร น้องชมพู่หายตัววันที่ 11 พ.ค.63 ซึ่งญาติพี่น้อง ที่ อ.สะตึก เจอนายสงบ วันที่ที่ 7-8 พ.ค.63 ลองคิดดูว่านายสงบ จะเดินไปถึงที่นั้นไหม เพราะนายสงบเป็นคนไม่ขึ้นรถ จะเดินอย่างเดียว
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ฉะนั้นลองพิจารณาดูว่านายสงบ จะเข้าไปเกี่ยวข้องได้หรือไม่ เพราะคนเราวันหนึ่งจะเดินได้ประมาณ 20-25 กิโลเมตร โดยตนซึ่งเป็นพระเคยเดินธุดงค์มาก็พอจะทราบ และไม่เชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ว่านายสงบ จะเป็นคนฆ่าน้องชมพู่ แต่หลังจากนี้ก็ให้ว่าไปตามหลักฐาน ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนอาการของนายสงบก็อยากให้รักษาให้หาย และตนเองก็ต้องขอขอบคุณอมรินทร์ทีวี ที่นำเสนอข่าวทำให้อาตมาได้พบเจอพี่ชายอีกครั้งในรอบ 21 ปี
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลกับ แพทย์หญิงมานิดา สิงหัษฐิต รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ถึงการรักษาตัวของนายสงบ ว่า ภายหลังจากที่นายสงบเข้ามารักษาตัวเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา อาการอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยทางจิตระยะแรก เป็นห้องรวมที่อยู่กับผู้ป่วยรายอื่น ๆ ซึ่งจะอยู่ใกล้เจ้าหน้าที่หมอและพยาบาลมากที่สุด เป็นระยะสังเกตอาการและพฤติกรรมเพื่อรักษา
ทั้งนี้นายสงบ ไม่มีอาการหวาดหลัว ไม่มีอาการตกใจ แต่ยังคงพูดจาไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา พูดจาไม่เกี่ยวข้องไม่ตรงเนื้อหา ยังไม่สามารถสื่อสารหรือให้ข้อมูลอะไรได้ชัดเจน แต่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ด้านพฤติกรรมไม่ก้าวร้าว อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ไม่มีการท่องบทสวดคาถาใด ๆ แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการรักษานั้น แพทย์ผู้รักษาได้ให้ยารักษาอาการป่วยทางจิต ทั้งยากิน และยาฉีด เพื่อให้อาการทางจิตดีขึ้น จนกว่าจะสามารถพูดคุยสื่อสารได้ จึงจะสอบถามนายสงบว่าเป็นใคร จากไหน และถามข้อมูลพื้นฐานไปจนถึงครอบครัวอีกครั้ง
เบื้องต้นขณะนี้ ยังไม่มีเรื่องที่น่ากังวล แต่ยังคงเฝ้าระวังเรื่องการหลบหนีจากโรงพยาบาล เรื่องอุบัติเหตุ การตอบสนองของยา หรือผลข้างเคียงของการใช้ยาเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการรักษาตามลำดับวิธีการรักษาต่อไป