กรณีวันที่ 11 พ.ค.63 ทีมข่าวได้ข้อมูลว่า มีชาวบ้านเห็นรถหลายคัน แต่มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ เป็นรถฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์-ดำ เข้ามาจอดและเป็นที่น่าสงสัย แต่วันนั้นก็มีรถจักรยานยนต์จำนวนมาก เพราะมีคนมาตามหาน้องชมพู่ค่อนข้างมาก
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ทั้งนี้ชาวบ้านรายนี้ ยังบอกว่า มีคนขับเป็นชายสูง เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ หมวกปกปิดใบหน้า จอดรถอยู่ในป่ายาง ห่างบ้านชมพู่ราว 100 เมตร อยู่ตรงต้นยางแถวที่ 4 ต้นที่ 4
โดยพบผู้ที่มีรถจักรยานยนต์สีบรอนซ์-ดำ เป็นของนายฤทธิ์ เชื้อคมตา พี่ของนายนริน เป็นเจ้าของรถ, นายวัชรินทร์ หรือ พ่อแบม และนายเบิร์ด (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ช่างประปา ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่าไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องกับคนร้าย และไม่ได้ขับขี่ไปที่บ้านของน้องชมพู่
ล่าสุดวันที่ 28 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบนายฤทธิ์ เชื้อคมตา เจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟอีกคัน ซึ่งเป็นพี่ชายของนายนรินด้วย ได้แต่งตัวให้ทีมข่าวดูตามเบาะแส เสื้อแขนยาวดำ กางเกงขายาวดำ แต่หมวกแบบหมวกแก๊ป เปิดเผยว่า ปกติตนจะแต่งตัวแบบที่เห็น แต่ไม่ใส่เสื้อแขนยาว จะสวมแต่เสื้อแขนสั้น ซึ่งกางเกงจะใส่ขายาวเฉพาะไปทำงาน
โดยเหตุผลที่ตนไม่ใส่เสื้อแขนยาวเพราะมันระคายเคืองผิวหนัง ใส่แล้วมันจะคัน หากอยู่บ้านก็จะใส่เสื้อกล้าม เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น
รถคันนี้ยังใช้งานได้ ตนขับมาตั้งแต่ 16 ปีที่แล้ว ตนไม่ให้ใครยืม มีแค่ตนกับภรรยาที่ขี่ เพราะรถทะเบียนหมดแล้ว ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลอะไร มั่นใจ 100% ตนไม่เคยใส่ชุดตามเบาะแสของชายต้องสงสัย ซึ่งลูกสาวดูข่าวก็เป็นห่วง
ส่วนรถของนายฤทธิ์ ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ เสียงท่อปกติ ไม่ได้เป็นท่อแต่ง ทีมข่าวลองขี่รถก็สามารถใช้งานได้
ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นายวัชรินทร์ หรือ พ่อแบม อีกคนที่มีรถจักรยานยนต์สีบรอนซ์-ดำ ฮอนด้าเวฟ แต่งตัวตามเบาแสให้ทีมข่าว กางเกงขายาวสีดำ เสื้อดำ และหมวกไหมพรมปิดหน้า เปิดเผยว่า ปกติตนมีการใส่ชุดแบบนี้บ้าง ส่วใหญ่ใส่ไปทำไร่ ทำสวน ไถนา แต่หมวกจะไม่ใส่แบบที่มีผ้าปิดหน้า มักใส่หมวกไหมพรมมากกว่า แต่ก็สามารถดึงปิดหน้าได้เช่นกัน
รถของตน ปกติจะมีตนกับภรรนาเป็นคนขี่ ลูก ๆ ก็ใช้รถตัวเอง แต่ภรรยาส่วนใหญ่เป็นคนขี่ เนื่องจากตนจะขับรถไถ ภรรยาก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง
พ่อแบม ระบุว่า ตนมีความกังวลบ้างว่าทำไมถึงมาตรงกับรถของตน แต่ก็ยังยืนยันว่าไม่ได้ทำและไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้ ตนมีลูกมีครอบครัว ตนเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ เพราะเชื่อว่าพ่อแม่น้องชมพู่ต้องเสียใจถึงขั้นน้ำตาจะเป็นสายเลือด ดังนั้นตนคงทำแบบนี้ไม่ได้ อีกอย่างตนไม่เคยมีปัญหาอะไรกับครอบครัวของน้องชมพู่
ทีมข่าวลองพิสูจน์เสียงเครื่องยนต์ ซึ่งอยู่ในระดับปกติ ไม่ใช่ท่อแต่ง เมื่อลองขี่รถก็ยังอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
ทีมข่าวเดินทางมาพบ นายเบิร์ด (นามสมมติ) ช่างประปาของหมู่บ้าน ซึ่งมีรถฮอนด้าเวฟสีบรอนซ์-ดำ โดยมีการทดลองแต่งตัวตามเบาะแสที่ทีมข่าวได้รับ เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีเข้ม แต่กางเกงหาดำไม่ได้ ใส่หมวกแบบคนสวนปิดใบหน้า
โดยนายเบิร์ด เปิดเผยว่า ปกติตนไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าแบบนี้ และไม่มีชุดลักษณะนี้มาก่อน จะมีก็เป็นเสื้อคลุมแขนยาวลายทหาร ส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไร เพราะก่อนวันที่ 13 พ.ค.63 รถตนเสีย ไม่สามารถขับได้ รถก็จอดอยู่บ้านตนตลอด ไม่เคยเอาไปจอดที่ป่ายาง ตอนนี้รถตนก็ใช้งานได้แล้ว และตนขี่คนเดียว ส่วนตัวไม่ทราบว่ารถแบบตนมีใครขับบ้าง ตนก็ไม่ได้สังเกต
อย่างไรก็ตาม รถคันนี้ตนขี่มาตั้งแต่ปี 2552 ประมาณ 11 ปีได้แล้ว ไม่เคยไปก่อเหตุอะไร ในวันที่ 11 พ.ค.63 ตนก็ไปอยู่ห้วยบางทราย เป็นสวนปาล์มของตนเอง ซึ่งออกไปแต่เช้าจนถึงช่วงเที่ยง ตนยืนยันว่ารถไม่ได้ใช้งานในวันที่ 10-11 พ.ค.63 ตนไม่กังวลอะไร เพราะรถมันจอดอยู่บ้าน
ทีมข่าวยังทดสอบติดเครื่องยนต์ ซึ่งรถอยู่ในสภาพใช้งานได้แล้ว เสียงเครื่องยนต์ปกติ ไม่ใช่รถท่อดัง โดยทีมข่าวลองขี่รถจักรยานยนต์ของนายเบิร์ด พบว่าสามารถขับขี่ได้จริง
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปพบกับนางสายสมร แสนทะวงษ์ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับชายชุดดำ โดยทีมข่าวได้นำรูปชายชุดดำทั้ง 3 รูปให้นางสายสมรดู โดยนางสายสมร เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้ดูรูปทั้ง 3 คน ตนไม่คุ้นรูปร่างใครเลย เพราะชายที่ตนเห็นนั้นเป็นคนผอม ตัวสูง เสื้อดำ สวมหมวกมีปีกเหมือนชายรูปที่ 1 แต่ในรูปนั้นไม่ใช่ เพราะคนที่ตนเห็นนั้นไม่มีโลโก้สีเหลืองที่หมวก แต่ตนก็เห็นเขาไม่นานนัก จึงจำไม่ได้
นางสายสมร ยังบอกอีกว่า ตนเห็นชายชุดดำเมื่อวันที่ 10 พ.ค.63 ตนคิดว่าน่าจะเป็นชาวบ้านจากที่อื่นมาหาผักหวาน หาของป่าเท่านั้น เพราะป่าภูเหล็กไฟค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเขามาจอดที่สวนยาง อีกทั้งตนเห็นรถเวฟสีดำเทาของคนในหมู่บ้านแล้ว ก็ไม่คุ้นเลย
ขณะที่นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ภาพชาย 3 คน ตนไม่คุ้นการแต่ตัว ไม่เคยเห็นชายลักษณะใกล้เคียงกับทั้ง 3 ในช่วงวันที่ 10-12 พ. ค.63 เนื่องจากตอนนั้นตนก็ไม่ได้ทันสังเกต
สำหรับประเด็นเรื่องหลักฐานที่ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี นำเสนอเกี่ยวกับกรณีนายนริน ตนก็ไม่อยากออกความคิดเห็น เพราะคนละคดีกับน้องชมพู่ ถ้าพูดอะไรไปก็กลัวกระทบกับคนอื่น
