โดยนายเอ ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเดินจูงมือเพื่อนชายอีกราย ออกมาจากห้องสอบสวน และรีบวิ่งออกไปจากโรงพักอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุ เบื้องต้นนายเอ เข้ามาให้ปากคำ และนำหลักฐานมามอบให้เจ้าหน้าที่ หลังจากนี้จะมีการนัดหมายเพื่อสอบปากคำผู้เสียหาย เพิ่มเติมอีกครั้ง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายโอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ผู้เสียหายที่เคยถูก นายบอย ถ่ายคลิปขณะมีอะไรกัน เปิดเผยว่า ตนเคยรู้จักนายบอย ผ่านแอปพลิเคชั่นในมือถือ ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. ปี 2559 ได้พูดคุยประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนนัดเจอกัน โดยนายบอย ขับรถเก๋งสีดำมารับตนหลังมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต ก่อนขับรถพาไปที่เปลี่ยว สองข้างทางเต็มไปด้วยป่ารก แล้วได้มีเพศสัมพันธ์กัน ระหว่างนั้นตนถามนายบอยว่า มีถุงยางอนามัยหรือไม่ แต่อีกนายบอย ไม่ตอบ พร้อมกับยกโทรศัพท์มือถือ เปิดแฟลชด้านหลังโทรศัพท์ ส่องบริเวณใบหน้าตน ขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์ โดยให้เหตุผลว่า เป็นการส่องไฟฉาย ตนจึงไม่ได้เอะใจ
เมื่อเสร็จภารกิจ นายบอยได้ขับรถออกมาห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 150 เมตร ก่อนให้ตนลงจากรถ และบอกว่า จะขอกลับบ้านก่อน หากแม่ไม่อยู่บ้านจะกลับมารับตนไปนอนค้างด้วยกัน ตนจึงยอมลงจากรถ
จากนั้นประมาณ 20 นาที ตนไม่สามารถติดต่อนายบอย ได้อีกเลย จึงเข้าไปดูในแอพฯ ที่แชทคุยกัน พบว่า นายบอยบล็อคตนไปแล้ว จึงยอมเดินไปขึ้นรถรับจ้างกลับห้องพัก
หลังจากวันเกิดเหตุ ตนก็ไม่ได้ติดต่อ นายบอย อีกเลย จนวันนี้เห็นข่าวในโลกโซเชียล จึงจำได้ว่า รูปที่แชร์กัน คือ นายบอย และคาดว่า การยกโทรศัพท์ขึ้นมาสาดแสงแฟลชใส่หน้าตน คงเป็นการถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้
อย่างไรก็ตาม นายโอ เปิดใจว่า กังวลกับข่าวที่ นายบอย ติดเชื้อ HIV โดยกลัวว่า ตัวเองจะได้รับเชื้อดังกล่าว พร้อมยอมรับตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่เคยไปตรวจเลือด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต อยากฝากให้ทุกคนระมัดระวังตัวเอง อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงเพียงแค่ความสนุกเพียงข้ามคืน พร้องปลงว่าหากติดเชื้อ HIV จากนายบอย คงเป็นเพราะตัวเองสิ้นบุญ