กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี รับแจ้งเกิดเหตุลูกชายดื่มสุราจนมีอาการมึนเมา และมีปากเสียงกับพ่อ ก่อนจะใช้กรรไกรตัดเหล็กทุบศีรษะของพ่อจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่แคมป์คนงานภายในซอยประชาร่วมใจ 31 แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายมณี ดวงใจ อายุ 55 ปี ชาว ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีบาดแผลบริเวณหน้าอกมีรอยช้ำ และบริเวณศีรษะมีรอยบาดจากคมมีด ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นลูกชาย ทราบชื่อ นายลาวี ดวงใจ อายุ 28 ปี
ล่าสุดวันที่ 9 มิ.ย.63 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายอนุชา เอกพิมพ์ หลานชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เวลา 19.00 น. ทุกคนเพิ่งจะเลิกงาน และกำลังจะหาข้าวกิน ขณะนั้นตนได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน จึงเข้าไปดู และพบว่านายลาวี กำลังใช้กรรไกรตัดเหล็กพังประตูห้อง เพื่อที่จะเข้าไปหาผู้เสียชีวิต ก่อนจะนำกรรไกรตัดเหล็กดังกล่าวแทงเข้าที่หน้าอกของพ่อตัวเอง ตนจึงเข้าไปอุ้มออกมาและเร่งปฐมพยาบาล แต่นายมณี นอนแน่นิ่งไม่มีสติแล้ว ส่วนลูกชายไม่ได้หลบหนี และรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ
ส่วนของสาเหตุ ตนคาดว่าเกิดเพราะฤทธิ์ของยาเสพติด เนื่องจากนายลาวี เป็นคนติดยา ซึ่งก่อนเกิดเรื่องน่าจะดื่มสุราด้วย และก่อนหน้าเคยมีพฤติกรรมรุนแรงกับคนในครอบครัว อีกทั้งเคยทำร้ายพ่อมาก่อน ส่วนผู้ตายเป็นคนดี และพูดจาดี จากเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นตนรู้สึกตกใจมาก เพราะตนไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า จะเกิดเหตุในครอบครัวของตัวเอง
ทางญาติพี่น้องไม่ได้ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเกรงว่าจะมาแสดงพฤติกรรมแบบนี้อีก โดยในวันนี้ทางญาติพี่น้องจะนำร่างของนายมณี ไปจัดพิธีกรรมทางศาสนา ที่วัดธงชัย ศรีอำนวย ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
อย่างไรก็ตาม ตำรวจสน.มีนบุรี ให้ข้อมูลว่า ล่าสุดผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวได้ในที่เกิดเหตุ และถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการี จนถึงแก่ความตาย ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นพิธีกรรมทางศาสนา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
