จากกรณี ประธาน อสม. เจอมือดีส่งภาพชายห่มเหลืองโชว์ของลับมาทางไลน์ เชื่อน่าจะมาจากสาเหตุที่ตัวเองโวยเรื่องผลประโยชน์จากการเผาศพในช่วงโควิด-19 นั้น
วันที่ 27 พ.ค. 63 นางชญาฎา ผลคิด อายุ 53 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.ตากแดด องเมือง จ.ชุมพร เปิดเผยว่า ตนเองเป็นจิตอาสาชุมชนมาหลายปี กระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประธาน อสม. ในช่วงนี้ที่เกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตนเองพร้อมกับ อสม.และผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ดำเนินการตั้งจุดคัดกรองขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล ตั้งอยู่บริเวณใกล้วัด
โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ค.63 มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาอยู่ รพ.ชุมพรเสียชีวิตลง และเป็นรายที่ 3 ของจังหวัด และ 2 รายแรก หลังจากที่เผาไปแล้วก็เกิดปัญหากับชุมชน เนื่องจากชุมชนไม่รู้ว่ามีการเผาศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 และรายที่ 3 ก็ได้นำมาเผาที่วัด แต่ชุมชนไม่ทราบอีก แม้กระทั่งตนเองและผู้ใหญ่บ้านที่นั่งอยู่ที่จุดคัดกรอง ซึ่งห่างกันไม่ถึง 100 เมตร เพราะเจ้าหน้าที่และวัดไม่ได้มาบอกกล่าว
จากนั้น ชาวบ้านโทรมาสอบถาม และมีการพูดคุยกันทางไลน์กลุ่มชุมชน ตนเองอธิบายไปแล้วว่าเพิ่งรู้เช่นกัน แต่ชาวบ้านกลับตำหนิ ทำให้ตนเองและผู้ใหญ่บ้านน้อยใจมาก ตนเองก็ได้พูดไปว่าคงมีผลประโยชน์กันระหว่างวัดกับทางญาติคนตาย ที่ปกติเผาศพจะอยู่ประมาณหลักพัน แต่รายนี้ไม่ปกติคงได้เป็นหลักหมื่นบาท ซึ่งพูดไปเพราะน้อยใจ
จนกระทั่ง วันที่ 25 พ.ค. 63 มีคนทักไลน์มา ส่งภาพโชว์ของลับมานับ 10 ภาพ ตนเองจึงปแจ้งความไว้ เพราะคิดว่าเริ่มมีภัยมาคุกคาม เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ที่ทางวัดจะได้จากทางญาติที่ตนเองได้พูดออกไป และผู้ที่เสียผลประโยชน์ที่ถูกกล่าวถึงร้อนตัว จึงได้ส่งภาพมาข่มขู่ ล่าสุด ตนได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดแล้ว เพื่อความปลอดภัย
นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร เปิดเผยว่า ปัญหามาจากสาเหตุมีผู้ป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย มีโรคเบาหวาน และเป็นโรคความดันโลหิตสูงซึ่งทาง รพ.ชุมพร ถือว่าเป็นผู้ป่วยวิกฤต และต่อมาได้เกิดติดเชื้อโควิด-19 แล้วเสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 63 แล้วดำเนินการนำศพมาฌาปนกิจที่วัด ซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของกรมควบคุมโรค แต่ช่วงนี้เริ่มมีฝนตกลงมาแล้ว ชาวบ้านก็เริ่มเตรียมภาชนะกักเก็บเพื่อรองน้ำฝนไว้ใช้ แต่เมื่อรู้ว่ามีการเผาศพ ก็ต้องเททิ้งกันหมดทุกหลัง เนื่องจากไม่สบายใจที่จะนำน้ำมาใช้
แต่ปัญหาที่มีมือดีส่งภาพโป๊มาทางไลน์ของนางชญาฏา เป็นชายห่มผ้าเหลือง ไม่เห็นหน้า คล้ายข่มขู่ ผู้ใหญ่บ้านจึงได้พาประธาน อสม. มาพบ เนื่องจากไม่สบายใจ ตนเองได้ให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองชุมพร แล้ว เพื่อแกะรอยไอดีไลน์ของผู้ส่งภาพ
ด้านพระสาโรจน์ พุทธิสาโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดประเดิม เล่าว่า วันนั้นทางญาติพร้อมทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลชุมพรเดินทางมาขอนำศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาขอเผาที่เมรุของวัด ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะวัดเป็นสถานที่ประกอบกิจทางศาสนาอยู่แล้ว และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้อธิบายขั้นตอนแล้ว
โดยการเผา ได้จัดการศพห่อหุ้มอย่างดี แม้ตัวสัปเหร่อเอง ก็ได้ให้สวมใส่ชุดที่นำมาเพื่อเป็นการป้องกันเชื้อ และเตาเผาเป็นไฟฟ้า ซึ่งเตาไฟฟ้าที่นี้ สามารถใช้ความร้อนสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส ส่วนเรื่องผลประโยชน์ ทางวัดไม่มี ไม่เคยเรี่ยไร่ใคร มีแต่ผู้มีจิตศรัทธาเท่านั้นที่จะมาทำบุญ ส่วนที่มีภาพพระโชว์ของลับนั้น ตนเองก็ไม่มั่นใจว่าพระที่ไหน เป็นพระจริงหรือไม่ เพราะจากการดูจีวรที่ห่มนั้น ผิดแตกต่างกับทางวัดของตนโดยสิ้นเชิง อีกทั้งวัดแห่งนี้มี 8 รูป รวมกับตนเป็น 9 รูป อายุค่อนข้างมากกันแล้ว ส่วนในรูปนั้น น่าจะคนหนุ่มอยู่
