จากกรณีที่เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 23 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.จตุรงค์ คล้ายใจตรง รองสารวัตรสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรสภ.ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนบ้านเรือนประชาชน จนเกิดไฟลุกไหม้รถและลุกลามไหม้บ้านทั้งหลัง เลขที่ 118 หมู่ 21 บ้านโนนขามพัฒนา ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ จึงได้รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
สาวทวงกระบะอดีตสามีเมื่อไรคืน ดีใจเก้อพุ่งชนบ้านไฟไหม้วอดทั้งหลัง ย่างสดผัวคาซากรถ
เมื่อไปถึงพบรถกระบะสีขาว ทะเบียน 2 ฒฉ-1502 กรุงเทพฯ สภาพถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน ภายในรถพบร่างนายนวภูมิ โพธิธรรมทาน อายุ 42 ปี ชาว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ถูกไฟไหม้จนศพเกรียมเสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนพาดไปตามเบาะรถ นอกจากนี้ยังพบว่าทรัพย์สินภายในบ้านที่ไฟไหม้ รวมทั้งรถจักรยานยนต์สีแดง ทะเบียน 1กข 9567 เพชรบูรณ์ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
ล่าสุดวันที่ 24 พ.ค.63 น.ส.ลินจง อายุ 37 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า ผู้ที่เสียชีวิตภายในรถกระบะเป็นแฟนเก่าของตน เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนตนไปทำงาน จ.ชลบุรี และได้คบหากับนายนวภูมิ จนกระทั่งต้นปี 63 ตนกลับมาดูแลแม่ที่ อ.ศรีเทพ เนื่องจากแม่อายุมากแล้ว แต่นายนวภูมิ ยังคงทำงานอยู่ที่เดิม จึงทำให้ต้องแยกทางกัน แต่ไม่ใช่เรื่องทะเลาะกันรุนแรง ส่วนตัวนายนวภูมิ มักจะมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จึงทำให้บางครั้งเกิดการทะเลาะกันบ้าง และไม่ถึงขึ้นลงไม้ลงมือหรือทำร้ายกันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ในเช้าวันที่ 23 พ.ค.63 นายนวภูมิ ได้โทรศัพท์มาถามไถ่สารทุกข์และพูดคุยทั่วไป ตนจึงได้ทวงถามเรื่องรถยนต์คันที่ถูกไฟไหม้ว่าจะนำมาคืนตนได้เมื่อไร เนื่องจากรถคันดังกล่าวเป็นชื่อของตน แต่นายนวภูมิ เป็นคนนำไปใช้ โดยนายนวภูมิได้บอกว่า "เอามาคืนเมื่อไรก็เห็นเมื่อนั้นแหละ" แต่น้ำเสียงที่พูดให้ตนฟังผ่านโทรศัพท์ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร
กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันเดียวกัน ขณะที่ตนกำลังนอนดูทีวีอยู่ในบ้าน สังเกตเห็นแสงไฟรถวิ่งตรงเข้ามาที่บ้าน จึงมองออกไปดูก็พบว่าเป็นรถของตน ตอนนั้นในใจคิดว่านายนวภูมิ จะขับมาคืนอย่างแน่นอน แต่เมื่อรถจอดที่หน้าบ้าน ตนสังเกตเห็นไฟลุกจากด้านในรถ จากนั้นได้ยินเสียงบีบแตร 3-4 ครั้ง จากนั้นรถก็ได้พุ่งเข้าชนบ้าน ประกอบกับหลังคาหน้าบ้านมุงด้วยหญ้าแฝก ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นตนจึงรีบกระโดดออกทางหน้าต่าง พร้อมกับร้องเรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยกันดับไฟ แต่ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ทุกคนจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้บริเวณดังกล่าว และรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้มาช่วยควบคุมสถานการณ์ แต่ก็ไม่ทันไฟได้ไหม้รถ บ้าน และทรัพย์สินต่าง ๆ เสียหายทั้งหมด ส่วนนายนวภูมิก็ได้เสียชีวิตภายในรถ ซึ่งตนก็ยังสงสัยว่าเหตุใดจึงก่อเหตุเช่นนี้ เพราะไม่มีเหตุจูงใจที่จะก่อเหตุรุนแรงดังกล่าวได้
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังพื้นที่ หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ บ้านของนายนวภูมิ พบกับนางดวงตา นามพลแสน อายุ 59 ปี ผู้เป็นพี่สาว เล่าว่า น้องชายได้ออกจากหมู่บ้านไปนานกว่า 10 ปี ทราบข่าวว่าไปบวชเป็นพระแล้วสึกออกมา มีภรรยาทั้งหมด 6 คน รวมคนล่าสุด ยอมรับว่าไม่รู้ความเคลื่อนไหวของน้องชายตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยติดต่อกัน ส่วนงานศพแม่ น้องชายก็ไม่มาร่วมงาน
ทั้งนี้ตนจึงไม่รู้ว่าน้องชายไปมีภรรยาอีกคนอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ และยอมรับว่าน้องชายเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหร้าย ชอบทำร้ายร่างกายคนในบ้าน และเคยทำร้ายร่างกายตนจนสลบมาแล้ว และด่าทอพ่อแม่จนญาติเอือมระอา
สำหรับงานศพจะสวดเพียง 1 คืน และจะนำร่างไปเผาที่วัดใกล้บ้าน เนื่องจากฐานะทางบ้านพี่น้องฐานะยากจน ซึ่งจะมีชาวบ้านช่วยกันออกเงินจัดงานศพให้ นางดวงตา ยอมรับว่า มีเงินติดตัวอยู่เพียง 200 บาท และไม่ติดใจในการเสียชีวิตของน้องชายถือว่า หมดเวรสิ้นกรรมกันในชาตินี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ให้ข้อมูลว่า ในเบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาเก็บหลักฐานและตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่แท้จริง ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้ส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก และจะได้แจ้งให้ญาติที่ จ.ชัยภูมิ ทราบและรับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
