จากกรณี ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ "น้องชมพู่" อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก หมู่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง โดยหายไปตั้งแต่ 11 พ.ค.63 ซึ่งครอบครัวเร่งออกค้นหาจนมึดค่ำ จนกระทั่งพบศพน้องอยู่กลางป่าในภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านราว 5 กม. ซึ่งผลชันสูตรยืนยันว่าไม่มีร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตต้องรอผลอย่างเป็นทางการจากทางห้องแลปนิติอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
วันที่ 16 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร พบกับ นางป้อม (นามสมมติ) มารดาของนายแอ๋ม ชายต้องสงสัยที่ขอชาวบ้านติดรถกระบะมาลงที่แยกเต่างอย บอกว่า ยืนยันว่าลูกชายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของน้องชมพู่ และตนก็ไม่มีความกังวลว่าลูกจะไปก่อเหตุ วันที่ 11 พ.ค.ลูกชายอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหน กระทั่งช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้นลูกชายมาขอเงินไปเติมน้ำมันรถจยย.เพื่อนขี่ออกไปหาเพื่อนต่างหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากบ้านน้องชมพู่ ราว 10 ก.ม. โดยลูกชายไปตัวเปล่าไม่มีกระเป๋าหรือเสื้อผ้าติดตัวไปด้วย จากนั้นช่วงเย็นวันที่ 13 พ.ค. มีเบอร์ติดต่อจากด่านตรวจที่แยกเต่างอยบอกให้ไปรับลูกชาย
อ่านเพิ่มเติมข่าวน้องชมพู่
- ผลชันสูตรรอบสอง "น้องชมพู่" พบบาดแผลที่อวัยวะเพศ และร่องรอยถูกทำร้าย
- สลดเจอ “น้องชมพู่” 3 ขวบกลายเป็นศพสภาพเปลือย พ่อแม่ปล่อยโฮ ญาติคาดถูกชายเพี้ยนย่ำยี
- สุดแปลก! วันหาตัว “น้องชมพู่” พ่อเดินเฉียดศพ กลับไม่เห็น แม่แค้นลั่นอยากฆ่าคนอำมหิต
- เจอ 4 หลักฐานใหม่ใกล้ศพน้องชมพู่ คาดคนอุ้มตัวพักในป่า แม่ชี้ญาติไม่ฆ่าเด็ก
- พิสูจน์เส้นทางซ่อนศพน้องชมพู่ เจอวางร่างบนผาสูง 2 ม. ชี้คนอุ้มเป็นชายกำยำ
ส่วนกรณีที่ลูกชายไม่ยอมกลับบ้านนั้น เพราะรถน้ำมันหมดจึงจอดไว้ที่บ้านเพื่อน ก่อนจะเดินเท้าออกมาจนมีผู้หญิงรับตัวขึ้นรถกระบะมาส่งที่ด่านที่แยกเต่างอย ลูกชายเป็นคนสติไม่ค่อยเต็ม หลังสติแตกเพราะปัญหาภรรยาทิ้งไปราว 2 เดือน แต่ไม่เคยทำร้ายใคร และที่ผ่านมาไม่เคยมีประวัติเรื่องคดีความ นอกจากนี้ วันนี้ช่วงเช้าลูกชายถูกเจ้าหน้าที่มารับตัวไปสอบปากคำ โดยไม่ได้ขัดขืนพร้อมยืนยันว่าไม่ผิด
ขณะที่ นายแมน ลุงนายแอ๋ม บอกว่า ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ช่วงเวลา 15.00-16.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค. จากนั้นก็ขับรถไปรับนายแอ๋ม หลานชายที่ด่านตรวจโควิด หลังจากหลานชายขึ้นรถก็พูดคุยปกติ แต่จะมีอาการพูดจาไปเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ได้บ่นถึงน้องชมพู่แต่อย่างใด ทราบเพียงว่าหลานหายไปจากบ้าน 1 คืน ซึ่งไม่ทราบว่าหลานไปทำอะไรในพื้นที่ดังกล่าว ยอมรับว่าหลานมีอาการผิดปกติจริง แต่เจ้าตัวเป็นคนรักเด็กเพราะมีลูกสาว 2 คน ซึ่งอายุใกล้เคียงกับน้องชมพู่
ไทม์ไลน์ของนายแอ๋ม ชายต้องสงสัย 12 พ.ค.63 เวลา 07.00 น. ขี่รถออกจากบ้านที่จ.สกลนครไปหาเพื่อน 13พ.ค.63 เพื่อนยืมรถไปใช้จนน้ำมันหมดจึงเดินเท้าออกจากบ้านเพื่อน จากนั้นเวลา 14.30 น. ไปพบกับคนขับรถกระบะก่อนจะพาไปส่งด่านตรวจสามแยกเต่างอย ก่อนที่ช่วงเย็นลุงของนายแอ๋มจะมารับตัว
นายปริญญา นีระเคน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนตำบลกกตูม ซึ่งประจำอยู่ที่ด่านตรวตคัดกรองโควิดแยกเต่างอย บอกว่า วันที่ 13 พ.ค.63 ชายต้องสงสัยที่ชื่อนายแอ๋มมาที่ด่านจริง จากนั้นก็เดินเข้ามาที่ด่านพูดคุยไปเรื่อย จับใจความได้ว่า ชายคนนี้เลิกกับเมียมา ด้วยความเครียดเลยมาหาเพื่อนที่บ้านมะนาว มาได้ราว 2 วัน ก็ทะเลาะกับเพื่อนเรื่องรถจักรยานยนต์ไปใช้จนน้ำมันหมดแล้วไม่ยอมเติมคืนให้ ทำให้เดินออกจากบ้านเพื่อนเพื่อจะกลับบ้าน ก่อนจะเดินมาถึงแถวบ้านกกกอกซึ่งเป็นบ้านของน้องชมพู่ จากนั้นก็มีรถกระบะผ่านมา
เท่าที่ตนสังเกตเจ้าตัวไม่ได้มีท่าทีพิรุธ เจ้าหน้าที่บอกให้ถอดเสื้อก็ถอด บอกให้ทำอะไรก็ทำตามทุกอย่าง ซึ่งตอนนั้นหลานคนในด่านก็คิดอยู่ว่าอาจจะเป็นคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องชมพู่ แต่หลังดูพฤติกรรมก็ไม่พบอะไรที่เป็นพิรุธ
นอกจากนี้ นายแอ๋มยังพูดถึงเรื่องน้องชมพู่ ทำนองว่า “เด็กน้อยแบบนี้ใครไปทำ ทำไมถึงกับเด็กก็ไม่รู้” จากนั้นก็ยืมโทรศัพท์เพื่อนติดต่อหามารดาก่อนจะมีคนมารับกลับไป
สำหรับข้อพิรุธที่พยานบอกเล่าไม่ตรงกันคือ น.ส.โบว์ พยานที่รับนายแอ๋ม ไปส่งที่ด่านตรวจเห็นนายแอ๋มใส่เสื้อสีดำปิดหน้า และยังพบว่าตัวเปื้อนดิน มีสภาพอ่อนล้า เหงื่อชุ่มตัว แต่แม่นายแอ๋ม มั่นใจว่าลูกชายใช้ผ้าคลุมบังลมรถปิดหน้า วันไปรับที่ด่านไม่มีคราบดินที่เสื้อผ้า ส่วนการที่เหงื่อออกมากเพราะเดินเท้ามาไกล
นายอ๊อด ชาวบ้านในชุมชน ซึ่งเป็นชายต้องสงสัยรายที่ 5 บอกว่า ยืนยันไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ และไม่ได้ลักพาตัวน้องชมพู่ไป ส่วนวันที่ 11 พ.ค. วันที่น้องหายไป ตนเองนอนอยู่ที่บ้านทั้งวันไม่ได้ออกไปไหนโดยอยู่กับภรรยาที่บ้าน ส่วนจุดที่พบศพน้องชมพู่ก็ไม่เคยไปแม้แต่ครังเดียว ยืนดีให้ความร่วมมือหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาสอบปากคำหรือเชิญตัวไปให้การ
"ในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่และรู้จักกับพ่อแม่ของน้องชมพู่ ผมยืนยันว่าผมไม่ได้ทำ เพราะผมก็มีลูกสาววัย 5 ขวบ” นายอ๊อด กล่าว
ส่าวนผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำ มีทั้งหมด 5 ราย คือนางจุไรภรณ์ สุขพันธ์ ผู้ที่เคยทะเลาะกับบ้านน้องชมพู่ ปฏิเสธว่าไม่คิดฆ่าเด็ก
นายกาย อาน้องชมพู่ เคยเอารถพ่อน้องชมพู่ไปจำนำ ปฏิเสธว่าไม่คิดฆ่าเด็ก นายสมคิด ชายสติไม่ดี ผู้ที่เคยไปบ้านน้องชมพู่ 2 ครั้ง ถูกตำรวจขังตัวไว้ที่โรงพัก เนื่องจากตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย
นายแอ๋ม ชายแต่งกายคล้ายทหาร วันที่น้องชมพู่หายตัวไปเจ้าตัวอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน กระทั้งพบศพตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ
และนายอ๊อด ให้การว่าวันเกิดเหตุอยู่บ้านนอนดูโทรทัศน์กับภรรยา ก่อนจะไปออกตามหาน้องชมพู่ด้วย แต่ครอบครัวน้องไม่เห็นเพราะคนช่วยหากันเยอะ
ด้านพิกัดที่อยู่ผู้ต้องสงสัยพบว่า นางจุไรภรณ์ อยู่บ้านติดกับบ้านน้องชมพู่ นายสมคิด มีบ้านอยู่ห่างออกไป 250 เมตร
นายแอ๋ม มีบ้านถัดออกไป 5 กม. นายอ๊อด มีบ้านห่างออกไป 500 ม. และนายกาย มีบ้านห่างออกไป 10 กม.
