เรื่องราวที่สร้างความประทับใจให้แก่
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ อดีตคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และเป็นอดีตหัวหน้าคณะแพทย์ ที่ถวายการรักษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างปี 2550-2554 ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ประทับรักษาอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตนรู้สึกตื่นเต้น เนื่องจากการถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นงานสำคัญที่สุดในชีวิต และสายสายพระเนตรพระองค์ท่าน ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตา ตนจึงรู้สึกหายเหนื่อยจากการทำงาน
นพ.ธีรวัฒน์ บอกว่า ช่วงระยะเวลาที่พระองค์ประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช หากมีประชาชนมาร่วมกันเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” พระองค์ก็จะทรงได้ยิน และรับทราบ พร้อมกับมีพระพักตร์แจ่มใส บางครั้งพระองค์จะทอดพระเนตรลงมาผ่านหน้าต่างห้องรักษาพระอาการ ชั้น 16 หรือแม้แต่การนำดอกไม้ไปถวายพระพร พระองค์ก็จะทรงรับ และพระราชทานต่อไปยังผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยมีขวัญกำลังใจดีขึ้น
นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่ทำให้พระองค์มีพระเกษมสำราญขณะประชวรคือ “คุณทองแดง” สุนัขทรงเลี้ยงที่พระองค์โปรดมาก เมื่อพระองค์มีพระอาการดีขึ้นก็ทรงรับสั่งให้คุณทองแดงเฝ้าฯ ทำให้พระองค์มีพระเกษมสำราญขึ้นอย่างชัดเจน
“คุณทองแดงรู้ว่าตนมีหน้าที่อะไร เมื่อคุณทองแดงนำเสด็จฯ ก็จะเห็นว่า คุณทองแดงนั้นเดินไปก่อน ไม่นอกลู่นอกทางเลย ถือเป็นสิ่งอัศจรรย์ก็ว่าได้” นพ.ธีรวัฒน์กล่าว
นพ.ธีรวัฒน์ เผยว่า เมื่อใดก็ตามที่พระองค์มีพระอาการดีขึ้น แม้จะยังไม่หาย ก็จะลุกขึ้นมาทรงงานอยู่ตลอด ซึ่งพระองค์จะมีห้องทรงงานอยู่ติดกันกับห้องที่ประทับรักษาอาการประชวร และหากพระองค์มีพระราชประสงค์อยากทราบเรื่องไหน ตนที่แม้จะเป็นหมอรักษาคน ก็จะต้องไปศึกษาข้อมูลเรื่องนั้นๆ มาทูลเกล้าฯ ถวายรายงานด้วยวาจา ลายลักษณ์อักษร และภาพถ่าย
ยกตัวอย่างเช่น เรื่องน้ำท่วม พระองค์ท่านมีสายพระเนตรที่ยาวไกลเป็นอย่างมาก โดยพระองค์ท่าน ทรงหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2554 ก่อนจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน
นอกจากนี้ พระองค์ยังพระราชทานแนวทางแก้ปัญหาการจราจรโดยรอบโรงพยาบาลศิริราช จากการเสด็จฯ ขึ้นดาดฟ้าอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ และเห็นปัญหาการจราจรโดยรอบ
ส่วนภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงทอดพระเนตรแม่น้ำเจ้าพระยา ตามที่ปรากฏให้เห็นตามสื่อนั้น นพ.ธีรวัฒน์ เล่าว่า เป็นภาพที่มีความสำคัญ เนื่องจากพระองค์ท่าน ทรงสังเกตระดับน้ำขึ้น-น้ำลง และการระบายน้ำ ซึ่งเคยรับสั่งกับพยาบาลว่า ให้คณบดีไปหาข้อมูลมาว่า ทำไมจึงติดขัด ตนจึงไปติดต่อสำนักงานเขตเพื่อขอแผนที่และนำมาทูลเกล้าฯ ถวาย จากนั้นก็ทรงชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหา เกิดเป็นโครงการต่าง ๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงรับสั่งเสมอว่า “
จะทำอะไรก็แล้วแต่ อย่าให้ประชาชนเดือดร้อน”
นพ.ธีรวัฒน์ ยังบอกด้วยว่า สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่อาจไม่เคยรู้คือ เงินที่ประชาชนทูลเกล้าฯ ถวาย พระองค์จะพระราชทานกลับมาให้ศิริราชมูลนิธิ เพื่อนำเงินไปสร้างห้อง MRI หรือห้องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ถวายแด่พระองค์ ซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงใช้จริง นอกจากนั้น ประชาชนทั่วไปก็ยังได้ใช้ร่วมกับพระองค์ด้วย
ขณะที่ในช่วงหนึ่งที่มีเรื่องฟ้องร้องระหว่างแพทย์ และผู้ป่วยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง พระองค์ยังตรัสสอนว่า “
ให้อ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าไปดูถูกใคร” ซึ่ง นพ.ธีรวัฒน์ บอกว่า ตนก็ได้รับใส่เกล้า และนำไปบอกต่อคณะแพทย์ด้วย
“การที่พระองค์ท่านจากไป ถึงแม้ว่าจะทำใจไว้แล้ว แต่ก็รู้สึกว่าเหมือนสิ่งสำคัญในชีวิตได้ขาดหายไป รู้สึกใจหาย เวลาเดินผ่านอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ทีไรก็หวั่นไหวทุกที... ผมบอกชาวศิริราชเสมอว่า เราทำงานตามหน้าที่อย่างเดียวไม่พอ ต้องสร้างคุณงามความดีประกอบกันไปด้วย เพื่อประเทศชาติ เพื่อถวายแด่พ่อหลวงของเรา ถ้าใครไม่รู้จะทำความดีอะไร ก็อย่าทำความไม่ดี” นพ.ธีรวัฒน์กล่าว