จากกรณีนักโทษชาย จำนวน 5 คน แหกคุกหลบหนีจากเรือนจำสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมนักโทษได้ คือ น.ช.ภานุพงษ์ โคตรชมภู น.ช.พัฒพงษ์ เกษคำใส น.ช.วัฒนชัย พันธ์ภักดี และนช.สุริยันต์ สุพรรณประเสริฐ พร้อมกับแฟนสาวชื่อน.ส.ลำพูล เที่ยงอ่อน ซึ่งยังมีนักโทษหลบหนีเหลืออีกเพียงคนเดียว คือน.ช.อนนท์ หลักคำ โดยเจ้าหน้าที่ตั้งค่าหัวรางวัลนำจับถึง 3 หมื่นบาท
วันที่ 5 พ.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่บ้านอ่างคำค้อ หมู่ 10 ต.บ่อแก้ว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร พบกับด.ช.จุก อายุ 14 ปี ลูกชายของน.ช.อนนท์ บอกว่า ตนไม่ค่อยสนิทกับพ่อเพราะติดคุกด้วยคดียาเสพติดไปตั้งแต่ตนยังอายุ 3 ขวบ โดยพ่อติดคุกไปประมาณ 10 ปี และได้เลิกรากับแม่ไป เมื่อพ่อพ้นโทษออกมาตนก็อายุ 13 ปี ซึ่งช่วงที่พ่อพ้นโทษออกมาก็ไปอาศัยอยู่ในกระท่อมปลายนาเพียงคนเดียว ซึ่งตนก็จะแวะเวียนไปหาบ้างกระทั่งล่าสุดพ่อมาติดคุกอีกครั้ง
ตอนที่พ่อแหกเรือนจำออกมาตำรวจก็เชิญตัวไปสอบปากคำ โดยสงสัยว่าอาจจะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือส่งข้าวและน้ำให้พ่อ อย่างไรก็ตาม รู้สึกกังวลใจที่พ่อแหกคุกออกมา เพราะกลัวถูกวิสามัญอยากให้พ่อมอบตัว เพราะถ้านีก็คงหนีไม่พ้นและถ้าหนีก็ต้องหนีไปตลอดชีวิตอยู่ไปก็ไม่มีความสุข
ด้าน นางน้อย ชมสีดา อายุ 59 ปี ป้าของนช.วัฒนชัย บอกว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 08.00น. หลานชายขี่มอเตอร์ไซค์ที่คาดว่าขโมยมาจาก อ.สว่างแดนดิน กลับมาที่บ้านและบอกว่ากลับมาเพราะความคิดถึงตนและลุง และหวังจะมาก้มกราบร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย และอยากขอโทษที่เคยทำไม่ดี ซึ่งตนพยายามเกลี่ยกล่อมให้เขามอบตัว แต่เจ้าตัวบอกว่าจะหนีให้พ้นและจะไปบวช ไม่อยากมอบตัวเพราะมีเพื่อนรออยู่ แต่ขี่รถหนีไปได้เพียง 400 เมตรจากบ้านก็ถูกจับกุมตัว
เมื่อวานนี้ก่อนที่ น.ช.วัฒนชัย จะถูกจับกุมได้ร้องขอเป็นครั้งสุดท้ายให้ไปพาลูกสาววัย 8 ขวบมาเจอ เพราะเจ้าตัวกลัวจะไม่ได้เจอหน้าลูกอีก เนื่องจากที่ผ่านมาได้เลิกรากับอดีตภรรยาทำให้ไม่ได้ดูแลลูก ซึ่งเมื่อลูกสาวมาถึงก็ได้ก้มกราบพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
จากนั้น ทีมข่าวลงพื้นที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในหมู่บ้านต้ายใหม่พัฒนา หมู่ 7 ต.บ้านต้าย อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ซึ่งอยู่ห่างจากเรือนจำสว่างแดนดินประมาณ 3.7 กิโลเมตร โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านที่กลุ่มนักโทษ 3 คน คือ น.ช.สุริยันต์ น.ช.วัฒนชัย และ น.ช.ภานุพงษ์ เดินเท้าจากเรือนจำมาขโมยมอเตอร์ไซค์จากนางรส ซึ่งเป็นคนรู้จักของ น.ช.สุริยันต์ ซึ่งวันนี้นางรสไม่อยู่บ้าน
น.ส.บิว (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของนางรส บอกว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมาหลังทราบข่าวนักโทษแหกเรือนจำสว่างแดนดิน จึงได้นำเรื่องราวไปพูดคุยกับนางรส ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ยอมรับตามตรงว่าในช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 04.00 น. มีคนเดินมาเคาะและเรียกที่หน้าบ้าน เมื่อนางรสเปิดออกมาดูก็พบน.ช.สุริยันต์ และเพื่อนนักโทษอีก 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้ถือมีดอีโต้อยู่ด้วย และถูกน.ช.สุริยันต์ ขู่ว่าอย่าส่งเสียงดัง ทำให้นางรสเองก็ไม่กล้าทำอะไร หลังจากนั้นน.ช.สุริยันต์ ได้ยืมโทรศัพท์โทรหาใครบางคน ก่อนจะแอบเข็นรถมอเตอร์ไซค์ของนางรส ไปที่ถนนใหญ่และขี่ซ้อน 3 หนีไป
ทั้งนี้ นางรสเองก็ไม่ได้จะเต็มใจจะช่วย แต่เจ้าตัวคงกลัวตายกลัวจะโดนทำร้ายเพราะอีกฝ่ายมีมีดจึงยอมให้ยืมโทรศัพท์กับให้รถไปและล่าสุดนางรสได้หนีออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันเกิดเรื่อง เพราะกลัวน.ช.สุริยันต์ จะย้อนกลับมาฆ่าปิดปาก
