เมื่อวันที่ 24 เม.ย.63 กรณีน.ส.สุนันท์ หะพินรัมย์ อายุ 54 ปี ชาว ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ที่เจ้าตัววานให้หนุ่มพนักงานเปลของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ไปกดเงินจากตู้ ATM หน้าโรงพยาบาล เพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่เงินในบัญชีกลับหายไป 5,000 บาท เหลือเพียง 87 บาท
ทำให้ป้าสุนันท์ ต้องออกมาร้องขอความเห็นใจทั้งน้ำตาว่า ให้นำมาคืนเพราะเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ลูกสาวส่งมาให้ 5,000 บาท เพื่อนำเอาไปใช้หนี้ ค่านมเลี้ยงหลาน และใช้หนี้นอกระบบ อีกทั้งเกรงว่าจะไม่มีเงินเลี้ยงหลาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า หลังได้รับแจ้งความเมื่อวันที่ 18 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ได้เรียกตัวนายธนิต มาสอบสวนแล้ว โดยได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กดเงินจำนวน 5,000 บาทไป ยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
จากนั้นได้ยื่นคำร้องถึงธนาคารกรุงไทย เพื่อขอดูภาพกล้องวงจรปิดหน้าตู้ ATM ซึ่งตู้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการรอหลักฐาน หากพบเห็นภาพของนายธนิต กดเงินในเวลาเดียวกับสลิปเงินที่ได้มาก็จะแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ทันที แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสืบหาข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นายธนิต ชาญเดชสิทธิกุลอายุ 34 ปี ชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พนักงานเปลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง พร้อม น.ส.สุวลักษณ์ ทรงรัมย์ อายุ 30 ปี สองสามีภรรยาเป็นพนักงานในโรงพยาลเดียวกัน ได้ออกมาชี้แจงหลังจากนายธนิต ตกเป็นผู้ต้องสงสัย นำบัตร ATM ของ น.ส.สุนันท์ หะพินรัมย์ อายุ 54 ปี ชาว ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ผู้ป่วยติดเตียงไปกดเงินให้ตามคำขอของนางสุนันท์ แต่เมื่อนายธนิตไปกดที่ตู้ ATM เงินในบัญชีหายไป 5,000 บาท
นายธนิต กล่าวว่า วันนั้นป้าสุนันท์ ให้ตนนำบัตรไปกดที่ตู้ ATM จริง โดยป้าระบุให้ไปกดเงินจำนวน 5,000 บาท โดยไปกดที่ตู้ของธนาคารไทยพาณิชย์ แบบกดด่วน โดยไม่ตรวจสอบยอดเงิน เมื่อกดเรียกจำนวนเงิน 5,000 บาท ตู้ ATM แจ้งข้อความว่า "ยอดเงินในบัญชีไม่พอจ่าย" ตนจึงไปกดที่ตู้ของธนาคารกรุงไทย ซึ่งอยู่ข้างกัน เมื่อตรวจสอบยอดเงินในบัญชีพบว่ามีเงินเหลือเพียง 1,097 บาท จึงเดินกลับไปหาป้าสุนันท์ และแจ้งว่าให้ทราบว่า "เงินมีเพียงพันเดียวนะครับ"
จากนั้นสามีของป้าสุนันท์ จึงเดินมาด้วยกัน แล้วไปกดดูพบว่ามีเงินตามที่ตนแจ้ง จึงกดมา 1,000 บาท หักค่าทำเนียม 10 บาท เหลือเงินในบัญชี 87 บาท จากนั้นก็ไปทำงานตามปกติ
นายธนิต กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักทางด้านสังคมและกล้าสาบานได้ว่าตนไม่ได้เอาเงินของป้าสุนันท์ไป ถ้าเอาไปขอให้ครอบครัวไม่มีความสุข ขอให้มีอันเป็นไป จึงอยากวอนสังคมอย่าเพิ่งใช้ศาลเตี้ยตัดสิน และอยากวิงวอนให้ตำรวจเร่งสืบหาข้อเท็จจริงให้เร็ว เพื่อคลี่คลายปัญหา ครอบครัวอยากจะอยู่อย่างมีความสุข ทั้งนี้เงินที่หายไปตนไม่โทษใคร เท่าที่ทราบตู้ ATM ตู้นี้เคยมีปัญหามาแล้ว
