ศพถูกหั่นแล้วต้ม! ญาติ "ออย" บุกค้นป่าเชื่อผัวโหดซุกร่างในบึง ลุยค้นสะพานคาดอีกจุดมรณะ (คลิป)

การหายตัวไปอย่างลึกลับของ น.ส.นันทิยา แสงอุไร หรือ “ออย” เป็นอีกเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ ภายหลังครอบครัวเดินทางเข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม เนื่องจากครอบครัวติดต่อ น.ส.นันทิยา ไม่ได้ตั้งแต่ปี 2558 และสงสัยว่าเธออาจถูกฆาตกรรม เนื่องจากเคยใช้ชีวิตอยู่กับ นายซีมอน เบตัน อดีตสามีที่กลายเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพตำรวจอิสราเอล ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้(27 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย พร้อมชุดกู้ภัย ลงพื้นที่ 12 ไร่ บริเวณป่าข้างหมู่บ้านย่านบางกรวย พร้อมชุดกู้ภัย ลงพื้นที่ 12 ไร่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ น.ส.นันทิยา เคยพักอาศัยอยู่กับ นายซีมอน เบตัน ส่วนสาเหตุที่มาจุดดังกล่าวเพราะครอบครัวสงสัยว่า นายซีมอน น่าจะนำร่างของมาอำพรางถ้าหาก "ออย" ถูกฆาตกรรมจริง โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจทุกจุดที่ครอบครัวของ "ออย" สงสัย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวด้านในเป็นป่ารกร้าง รวมทั้งมีบ่อน้ำอยู่ภายใน และมีความยากลำบากในการค้นหา

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางนภา แสงอุไร มารดาของออย นางนันทวัน และ นางนภศร ทิมเย็น น้าสาวของออย เปิดเผยว่า ขณะนี้ครอบครัวยังมั่นใจว่าจะเจอร่างของ "ออย" ในพื้นที่ดังกล่าว เพราะเป็นพื้นที่ใกล้บ้านพักของ นายซีมอน ที่พักอาศัยร่วมกับ "ออย" โดยหลังจาก น.ส.นันทิยาหายตัวไป ครอบครัวเคยเดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว หนึ่งครั้ง แต่ไม่สามารถตรวจสอบพื้นที่ได้ทั่ว จึงวอนให้ทางเจ้าหน้าที่ เข้ามาช่วยเหลือในการติดตามหา ครอบครัวบอกอีกว่า ไม่ว่า "ออย" จะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม ขอเพียงให้ได้เจอ เพราะอยากรู้ว่า "ออย" อยู่ที่ใด ซึ่งทางครอบครัวมั่นใจว่าร่างของ "ออย" อยู่ไม่ไกลจากบ้าน เนื่องจากมีบางหมอดูบอกว่า ร่างของ "ออย" ถูกสับเป็นท่อนๆ แล้วต้ม ทางครอบครัวจึงคาดการณ์ว่าร่างคงอยู่ไม่ไกลจากบ้านพัก ขณะที่ทีมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ที่ได้ลงมาสังเกตการณ์ในพื้นที่ พร้อมกับช่วยสวดมนต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศล ขอให้ได้พบร่างของ "ออย" เนื่องจากครอบครัวจะได้หายเหนื่อยในการค้นหา และเจ้าหน้าที่ก็จะได้ทำภารกิจสำเร็จ ส่วนทางด้าน นางสุรีย์ สุกาญจนะ อดีตเจ้าของที่ดิน พื้นที่ด้านหน้าจำนวน 4 ไร่ เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวสมัยตนเป็นเจ้าของ ได้ทำสวน และทำไร่ผลไม้ แต่ตัดสินใจขายออกไป เมื่อปี พ.ศ. 2556 เจ้าของรายใหม่ได้ถมที่ดิน ก่อนปล่อยให้เป็นพื้นที่ป่ารก ดังเช่นปัจจุบัน พร้อมบอกว่าพื้นที่ดังกล่าว ปกติเป็นพื้นที่ที่คนไม่ค่อยอยากเข้ามา เพราะเป็นพื้นที่ค่อนข้างรก หากมีคนเข้ามาจริง เชื่อว่าคนภายนอกไม่สามารถสังเกตเห็นได้

ระหว่างการค้นหา นางนภา ผู้เป็นมารดา มีลางสังหรณ์ ลุกขึ้นไปขุดดินในพื้นที่ใกล้กับบ่อน้ำ ซึ่ง นางนภา เปิดเผยว่า มีความรู้สึกว่า จุดนี้น่าจะเป็นจุดที่ร่างลูกสาวตนถูกฝังอยู่ เพราะสังหรณ์ใจ หลายคนอาจจะมองว่าตนบ้า แต่คนอื่นที่ไม่ได้เป็นแม่ จะไม่มีทางรู้ความรู้สึกนี้เลย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเข้ามาช่วยเหลือ และร่วมกันขุดพื้นที่ต้องสงสัย ขณะเดียวกันครอบครัวได้นำธูปมาจุด ไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทาง ตามความเชื่อ เพื่อให้ได้พบร่างของ "ออย"  ซึ่งใช้เวลาในการค้นหาร่วม 1 ชั่วโมง แต่พบเพียงกระสอบหินทรายเก่าๆ ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ด้านใน แต่สุดท้ายยังไม่พบว่ามีชิ้นส่วนใดที่จะระบุว่าเป็น "ออย" ได้ ซึ่งใช้เวลาค้นหากว่า 3 ชั่วโมง แต่ยังไม่พบวัตถุใดที่เชื่อมโยงกับการสูญหายของ "ออย"

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณจุดตัดคอสะพานที่ใกล้บริเวณหมู่บ้านที่ นายซีมอน และ "ออย" เคยพักอาศัยอยู่ด้วยกัน พบว่าบริเวณสะพานข้ามคลองบางกรวย บนถนนบางกรวย-ไทรน้อย ฝั่งมุ่งหน้าออกถนนพระราม 7 ใกล้กับ วัดชลอ อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อทีมข่าวลงสำรวจ พบเป็นสะพานที่ใกล้กับประตูระบายน้ำ ที่มีชุมชนล้อมรอบ ส่วนบ้านเรือนที่ติดน้ำจะไม่มีท่าน้ำเป็นเพียงบ้านที่ก่อสร้างอยู่ในน้ำเท่านั้น

ทีมข่าวสอบถาม นางทองใส อุยุตะ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลอง ระบุว่า ตนอยู่ที่นี่มามากกว่า 10 ปี ไม่เคยพบว่า มีใครนำศพ หรือร่างมนุษย์มาโยนทิ้ง หรือหากมีคนนำศพมาทิ้งจริงก็ไม่เคยได้กลิ่นเน่าเหม็นแต่อย่างใด และ ใต้สะพานนี้ มักจะมีชาวบ้านมานั่งตกปลาบ่อยครั้ง ทั้งนี้ นางทองใส ยังบอกอีกว่า ปกติแล้วใต้สะพานจะมีคนจรเข้ามานอนอยู่ใต้สะพานเป็นประจำ และเชื่อว่าจุดนี้ไม่น่าจะเป็นจุดทิ้งศพ รวมไปถึง เมื่อทีมข่าวนำรูปภาพ นายซีมอน ให้ชาวบ้านรายดู มีแต่คนบอกว่า ไม่เคยเห็นชายต่างชาติ รายนี้มาก่อน

หลังจากนั้น ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณสะพานข้ามคลองบางสีทอง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านของ นายซีมอน ประมาณ 500 เมตร และอยู่บน ถนนบางกรวย-ไทรน้อย มุ่งหน้าไป ถนนราชพฤกษ์ โดยจุดนี้เป็นสะพานค่อนข้างแคบ ไม่มีไหล่ทาง และไม่มีทางเดินลงใต้สะพานเหมือนสะพานที่ผ่านมา รวมทั้งเป็นจุดที่มีบ้านเรือนประชาชนอยู่ริมคลองค่อนข้างน้อย เมื่อทีมข่าวเดินลงไปใต้สะพานพบว่า ทางเข้าค่อนข้างลำบาก เพราะต้องเดินตามแนวท่อประปาที่ด้านในเป็นป่า ระหว่างทางพบถุงขยะที่บรรจุเสื้อผ้าเก่าจำนวนมาก รวมถึงเศษวัสดุ จากนั้นทีมข่าวลองเดินเข้าไปใต้สะพาน ซึ่งต้องมุดลอยท่อประปาขนาดใหญ่เข้าไปด้านใต้สะพาน จุดนี้ค่อนข้าง ลับตาคน เพราะไม่ใช่จุดชุมชน และหากเข้ามาใต้สะพานแล้ว ก็ยังสามารถอยู่ภายในนี้ได้เป็นระยะเวลานาน เนื่องจากไม่ใช่จุดสนใจของผู้คนที่ผ่านไปมา ทีมข่าวได้เข้าไปบริเวณใต้สะพาน พบว่าด้านในมีเพดานสูงไม่ถึง 1 เมตร และพบขยะเป็นจำนวนมาก แต่จุดดังกล่าวไม่พบกลิ่นเหม็นเน่า

นายสมบัติ วังทอง พนักงานในร้านอาหารติดกับคลองบางสีทอง เผยว่า ตนอยู่บริเวณดังกล่าวมากว่า 2 ปี ที่ผ่านมาเวลาล้างจานชามบริเวณริมคลอง ก็ไม่เคยได้กลิ่นเน่าคล้ายคนตาย ซึ่งตนไม่เคยเห็นใครมาทิ้งของหรือสิ่งของอะไรบริเวณนี้ ประกอบกับจุดดังกล่าวไม่เป็นที่สังเกตของคน เนื่องจากหลังจาก 20.00 น. บรรยากาศจะมืดและเงียบ และค่อนข้างเปลี่ยว เมื่อทีมข่าวนำรูป นายซีมอน ให้ดู นานสมบัติ ระบุว่าไม่เคยพบมาก่อน ส่วนตัวยังแปลกใจว่าหากอยู่หมู่บ้านใกล้ขนาดนี้ น่าจะเคยพบเจอ หรือมาซื้อของที่ร้านบ้าง