เปิดใจยายแอ๋วไลฟ์ขายเสื้อผ้าพลิกวิกฤตโควิด ซึ้งใจคนแห่ส่งชุดมือสอง ลั่นไม่รับเงินบริจาค (คลิป)

จากกรณียายแอ๋ว 4 จี แม่ค้าออนไลน์รุ่นใหญ่วัย 60 ปี ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับพ่อค้าแม่ค้าอีกหลาย ๆ คนที่ยังคงต้องสู้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งหลังจากที่ยายแอ๋ว ออกมาไลฟ์สดขายเสื้อผ้ามือสองผ่านเฟซบุ๊ก ตัวละ 3-10 บาทก็กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์ ส่วนหนึ่งก็โอนเงินบริจาคเข้าบัญชีขายของยายแอ๋ว ทำให้ยายแอ๋วต้องประกาศว่าไม่ขอรับบริจาค เพราะตั้งใจหารายได้จากการขายเสื้อผ้า และขอให้ผู้ที่บริจาคมาแล้วติดต่อขอเงินคืนได้

ล่าสุดวันที่ 23 เม.ย.63 นางฉันทนา สุ่มถุกลาภ หรือ "ยายแอ๋ว" อายุ 60 ปี แม่ค้าออนไลน์ ออกมาเตือนภัย หลังมีเฟซบุ๊กของชายวัยรุ่นคนหนึ่ง ส่งข้อความมาพร้อมสลิปการโอนเงิน อ้างว่าได้โอนเงินบริจาคให้ยายแอ๋ว 3,000 บาท และขอให้โอนเงินคืน

ยายแอ๋วได้ตอบตกลง แต่ขอตรวจสอบจากธนาคารก่อน กระทั่งมีแฟนคลับช่วยนำสลิปไปตรวจสอบจึงพบว่าเป็นสลิปปลอมที่ตัดต่อมาจากยอดโอนเงิน 50 บาทของลูกค้ารายอื่น โดยเมื่อตามไปตรวจสอบจากเฟซบุ๊กของชายวัยรุ่น ก็พบว่าเคยมีประวัติก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้ว ซึ่งต่อมามิจฉาชีพคนดังกล่าวก็ได้ปิดเฟซบุ๊กหนีไป

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของยายแอ๋ว ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในบ้านมีกองเสื้อผ้าระหว่างทางเดิน ซึ่งฝั่งหิ้งพระจะเป็นสินค้าเสื้อผ้า มีทั้งเสื้อยืด เสื้อคลุม ชุดเดรสกางเกงขาสั้น กางเกงขายาว ชุดทำงาน ประมาณ 12 กอง กองละ 100 ตัว ที่เตรียมส่งมอบให้กับลูกค้า อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นเสื้อผ้าของลูกค้าที่บริจาคมาให้ยายแอ๋ว และยังมีของที่แพ็กใส่ถุงเรียบร้อยแล้วประมาณ 8 ห่อที่อยู่ทางประตูหน้าบ้าน

นอกจากนี้ยังมีอีกห้องหนึ่งที่เป็นห้องเก็บเสื้อผ้าของลูกค้าที่นำมาบริจาคให้ยายแอ๋ว ซึ่งทางยายแอ๋ว ได้ไลฟ์สดอยู่ภายในห้องนอน พื้นที่ประมาณ 2 เมตรคูณ 2 เมตร โดยได้ขายทั้งเสื้อยืด กางเกงวอม ชุดเดรส

นางฉันทนา กล่าวว่า ตนได้ไลฟ์สดขายเสื้อผ้ามานานแล้ว ประมาณ 2-3 ปี ซึ่งมีคนดูประมาณ 12 คน จะได้ประมาณวันละ 400 บาท โดยขายตัวละ 3 บาท 10 บาท แต่ตอนนี้หลังเกิดเหตุการณ์วิกฤติโควิด-19 มาไลฟ์สดขายได้ประมาณ 1,500 บาท แต่ต้องหักค่าใช้จ่ายในการซื้อถุง ค่าส่ง และก็จะหักและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของตน โดยกำไรนั้นได้พอประมาณ และขณะนี้มีลูกค้าที่ใจดีได้บริจาคเสื้อผ้ามาให้ตนขาย เพราะเห็นข่าวที่ตนถูกหลอกโอนเงิน 3,000 บาท

หลังจากที่มีคนนำเสื้อผ้ามาบริจาคให้กับตน ตนไม่สามารถตีราคาได้ว่ามีกำไรเท่าไหร่ เพราะตอนแรกตนก็ไม่คิดว่าจะมีคนนำเสื้อผ้ามาบริจาคให้ ซึ่งทำให้ตนมีวันนี้ คือวันที่ตนสามารถที่จะดำเนินต่อไปได้ โดยที่เป็นต้นทุนของชีวิต ถึงจะไม่มาก แต่ตนคิดว่าประมาณ 20,000-30,000 บาท สำหรับตนก็คิดว่ามากแล้ว ตนไม่ได้เป็นคนโลภมาก ไม่ใช่เป็นคนอยากได้ ตนอยู่ของตนปกติ ซึ่ง

ก่อนหน้านี้วันที่ 14 เม.ย.63 ตนถูกนำเรื่องราว การไลฟ์สดขายเสื้อผ้าออนไลน์ไปแชร์ในทวิตเตอร์ ทำให้มีผู้ใจบุญ โอนเงินมายังบัญชีของตน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าผู้ใจบุญเหล่านี้ ไปหาเลขบัญชีตนมาจากไหน และตนก็ไม่ทราบว่าทำไมโอนมาให้ตน โดยมีเงินทั้งหมด 70,000 บาท ขณะนี้ตนยังไม่ได้นำเงินจำนวนนี้ไปใช้จ่ายอะไร แต่หากตนไปโรงพยาบาลก็จะใช้เงินก้อนนี้ ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่ได้ประสงค์ที่จะให้คนอื่นโอนเงินมาให้ตน

และนอกจากนี้หลังที่ตนได้รับเงินบริจาคมา ตนยินดีที่จะโอนกลับไปยังผู้ที่บริจาค ซึ่งก็มีเฟซบุ๊กชายคนหนึ่ง มาอ้างกับตนว่าได้โอนเงินให้ตน 3,000 บาท ตนก็ปักใจเชื่อ พร้อมจะโอนเงินคืน แต่สุดท้ายแล้วโอนมาแค่ 50 บาท ตนไม่อยากให้ไปกระทำกับคนอื่นแบบนี้อีก

จากนั้นทางแฟนคลับของตน ได้แนะนำให้ไปแจ้งความ ซึ่งทางชายคนดังกล่าวได้ปิดเฟซบุ๊กหนีไป แต่ตนก็คิดว่าเงินที่ตนได้มาเหมือนว่าเป็นทุกขลาภ ตนเข้าใจว่าโลกโซเชียลฯ มีทั้งคนดีและไม่ดี โดยในสถานการณ์แบบนี้ ตนอยากช่วยเหลือตัวเอง แบ่งเบาภาระตราบใดที่ตนยังมีแรงทำ ดีกว่าอยู่ไปวัน ๆ ซึ่งในแต่ละวันตนก็มีรายจ่าย ซื้อกินอาหาร แล้วก็มีหมาแมว มีแมวอยู่ 5 ตัว หมา 2 ตัว คำนวนดูแล้วก็จะประมาณ 300 บาท

ทั้งนี้ปกติแล้วตนไปสั่งเสื้อผ้ามาจากไลฟ์สดออนไลน์มือสอง กระสอบประมาณ 300 บาท โดยตนจะสั่งประมาณ 3-5 กระสอบ เดือนละไม่เกิน 3 ครั้งแล้วแต่เสื้อผ้าจะหมด ซึ่งในกระสอบนั้นแล้วแต่ว่าคนขายจะบรรจุมา 50 หรือ 60 ตัว ตนขอไลฟ์สดขายของไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามขณะนี้ตั้งแต่วันที่ 22-23 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ต้นได้ปรับค่าเสื้อผ้าเพิ่มมาเป็นตัวละ 50-60 บาท และดูเสื้อผ้าว่าตัวไหนที่มีคุณภาพเนื้อผ้าดีก็จะขาย ตามความเหมาะสมของเสื้อผ้านั้น

ส่วนคนอื่นที่จะมองว่าตนนั้นสร้างเรื่องดราม่าเพื่อมาขอเงิน ตนขอยืนยันว่าไม่ได้สร้างเรื่องดราม่า และพร้อมที่จะคืนเงินให้กับผู้บริจาคทุกคน