วันที่ 21 เม.ย. 63 ร.ต.ท ภาคภูมิ วัฒนศิริ รองสว(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบศพชายลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดพุทไธสวรรย์ ต.สำเภาล่ม อ.พระครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
ที่เกิดเหตุพบศพชายอายุประมาณ 40-45 ปี สภาพศพนอนหงายขึ้นอืด สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำด้าน ไม่สวมกางเกง เบื้องต้นตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย
นอกจากนี้ พบศพเด็กหญิง อายุ 4-5 ปี ลอยอยู่กลางแม่น้ำป่าสัก บริเวณท่าน้ำหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา คาดว่าน่าจะเป็นพ่อลูกที่เร่อนอาศัยอยู่ที่วัดธรรมนิยม ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่วัดธรรมนิยม ม.1 ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จุดที่ผู้เสียชีวิตกระโดนน้ำฆ่าตัวตาย บริเวณต้นไทร หลังวัดติดกับแม่น้ำป่าสัก
นางนงนุช แซ่ภู่ อายุ 52 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ผู้เสียชีวิตมี 2 คนพ่อลูก คือนายสมศรี อายุ 41 ปี และ ด.ญ.แอน อายุ 5 ปี เป็นคนเร่ร่อนที่มาอาศัยอยู่บริเวณลานจอดรถของวัดธรรมนิยม ประมาณ 2-3 วัน
เหตุเกิดคืนวันที่ 19 เม.ย. 63 เวลาประมาณ 23.00 น. สองคนพ่อลูกเดินเข้ามาในบ้านของตน เนื่องจากประตูหน้าบ้านของตนเองไม่ได้ปิดล็อก ก่อนจะพากันเดินลอดใต้ถุนบ้านไปยังบริเวณต้นไทรริมน้ำป่าสัก หลังจากนั้น หลานสาวที่นอนอยู่ด้วยกันในบ้านบอกว่ามีเสียงเด็กร้องไห้อยู่ที่ศาลต้นไทรข้างบ้าน ตนจึงตื่นขึ้นมาดู พยายามมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ก็มองไม่เห็นอะไร เพราะมืดมาก
จากนั้นได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ พูดว่า "พ่ออย่างทิ้งหนูไป ช่วยด้วย ๆ" ก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนคนกระโดดน้ำ ซึ่งขณะนั้นตนเองก็ไม่กล้าลงไปดู เนื่องจากมืดมาก ภายในบ้านก็มีแต่ผู้หญิง เกรงว่าจะได้รับอันตราย ก่อนเสียงเด็กจะเงียบหายไป จากนั้นสุนัขเห่าเสียงดัง จนรุ่งเช้าจึงมาทราบข่าวว่าเจอศพลอยอยู่กลางแม่น้ำ เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณต้นไทร พบผ้าเช็ดตัวผู้เสียชีวิตตกอยู่
หลังจากนี้ ตนเองและครอบครัวจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตตนเองคาดว่าคงจะเป็นเรื่องความเครียดส่วนตัว
นางอุบล ธรรมารมย์ อายุ 52 ปี แม่ค้าใกล้วัด เล่าว่า 2 พ่อลูกเพิ่งมาอาศัยอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าวัดธรรมนิมิตร ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ไปอาศัยอยู่ที่สถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ไล่มา กระทั่งวันอาทิตย์ที่ 19 เม.ย.63 ช่วงเช้า ขณะที่ตนเองกลับมาจากตลาด พบว่าพัดลมและข้าวของบริเวณร้านของตนเองกระจัดกระจายเต็มร้าน เพราะอากาศร้อนคงจะมาใช้พัดลม
หลังจากนั้น นายสมศรีและลูกสาววัย 5 ขวบก็หายไปทิ้งไว้เพียงผ้านวม กระเป๋าเด็กนักเรียน กระเป๋าเสื้อผ้า โดยปกติแล้วนายสมศรี และลูกไม่ค่อยพูด ไม่สุงสิงกับใคร ตนเองเคยถามว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ นายสมศรีบอกว่า "จะมาหางานทำ กลับบ้านก็ไม่ได้ ไม่มีรถกลับ และไม่มีเงิน"
"ตนเองก็รู้สึกหดหู่และเสียใจมาก เพราะเด็กก็ยังเล็ก ไม่น่าจะต้องตาย หากญาติหรือคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิตทราบข่าวก็ขอให้มารับศพไปทำพิธีบำเพ็ญกุศล"
