วันที่ 18 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี ว่ามีชายแต่งชุดลายพรางคล้ายทหารขับรถยนต์ปิกอัพเข้าไปควบคุมตัวลูกชาย 2 คน คือนายยุทธนา ซ้ายซา หรือด่อน อายุ 33 ปี และนายณัฐพงษ์ ซ้ายซา หรือแดง อายุ 29 ปีจากเถียงนาท้ายหมู่บ้าน
โดยไม่ทราบว่าถูกนำตัวไปที่ไหน ต่อมาทราบภายหลังว่านายยุทธนาเสียชีวิต สภาพศพตาเหลือกค้าง โหนกแก้มขวาปูดเขียวช้ำ หางคิ้วซ้ายมีบาดแผล และหน้าอกมีรอบ คล้ายถูกตีด้วยของแข็ง
ส่วนนายณัฐพงษ์ รอดชีวิต แต่ได้รับบาดเจ็บบริเวณซี่โครงที่หัก2 ซี่ และที่ปอดมีเลือดคั่ง ซึ่งทั้งสองคนถูกกลุ่มชายชุดพรางซ้อมจนอีกคนเสียชีวิตและบาดเจ็บ
นายนิวัฒน์ ผู้เป็นพ่อ บอกว่า ค่ำของวันที่ 17 เม.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. นายแดง น้องชาย ได้เข้ามาเอาข้าวไปกินกับพี่ชายที่เถียงนา ต่อมามีเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่ามีคนจำนวนหนึ่งบุกไปที่เถียงนา และควบคุมตัวสองพี่น้องไปแล้ว ตนจึงรีบไปดูพบเพียงข้าวของในเถียงถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย
จึงโทรศัพท์เข้าเบอร์มือถือของลูกทั้งสองคน ปรากฏว่ามีคนอื่นรับสายแล้วบอกว่า ลูกชายทั้งคู่อยู่กับเจ้าหน้าที่กำลังนำตัวไปสอบสวนเกี่ยวกับยาเสพติด หากไม่มีอะไรน่าสงสัยจะปล่อยตัว
กระทั่งเวลาประมาณ 01.00น. เบอร์โทรศัพท์ของลูกชายคนโตโทรเข้ามาโดยเสียงปลายสายบอกว่า ให้ออกไปดูลูกชายไม่รู้เป็นอะไร ขณะนี้กำลังนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ตนกับภรรยาจึงรีบออกไปยังรพ.สมเด็จพระยุพราชฯ พบชายแต่งกายครึ่งท่อนสวมกางเกงลายพราง เสื้อยืดคอกลมสีดำ ตรงปรี่เข้ามาพร้อมกับยกมือไหว้บอกว่า ”ผมขอโทษนะครับ” จึงถามกลับไป” พวกคุณทำอะไรลูกฉัน ไม่ใช่ทำร้ายจนตายแล้วเหรอ แต่ชายดังกล่าวตอบยังไม่ตาย อยู่ในความดูแลของแพทย์
ตนจึงเข้าไปดูอาการพบนายด่อน นอนไม่ได้สติตาเหลือกค้าง มีบาดแผลคล้ายถูกทำร้ายทั้งตัว ขณะที่แพทย์พยาบาลช่วยกันปั๊มหัวใจไม่นานแต่ก็ไม่ทัน ส่วนลูกชายคนเล็กทราบว่าขณะนั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่ชายสวมชุดพรางไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน
ยอมรับว่าประมาณ 5-6 ปีก่อน ลูกชายทั้งสองเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด และเข้าบำบัด คุมประพฤติตามขั้นตอนจนครบและเป็นเสาหลักของครอบครัวขายยางพารา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายณัฐพงษ์ ถูกปล่อยตัวทิ้งไว้ที่วัดแห่งหนึ่ง หลังมีหน่วยงานความมั่นคงเข้าไปขอใช้พื้นที่ในวัด โดยสภาพที่พบคือได้รับบาดเจ็บที่ซี่โครง ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
ขณะที่ นายสัมฤทธิ์ นามโพธิ์ชัย ส.อบจ.อ.ธาตุพนม บอกว่า สองพี่น้องที่ถูกจับกุม ทั้งคู่ทำงานรับจ้างทั่วไป ทำนา กรีดยาง หาเงินมาเลี้ยงพ่อแม่ และไม่เคยได้ข่าวว่าพี่น้องคู่นี้ไปตีรันฟันแทงใครที่ไหน ยอมรับว่าเด็กทั้งสองคน เคยมีประวัติยาเสพติด แต่อยากให้หน่วยงานความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่อย่างละมุนละม่อม หากผู้ที่ถูกจับกุมไม่ได้ขัดขวางหรือขัดขืนก็ไม่ควรทำร้ายร่างกาย
