ลุงแท็กซี่ เจอดราม่าหนัก หลังรอเงินเยียวยา 5 พัน ได้รับบริจาคมากกว่า 8 ล้านบาทเพียงชั่วข้ามคืน เผยจะเอาเงินไปบริจาคโรงพยาบาลช่วยผู้ป่วยโควิด และไม่เคยคิดเรียกความสงสารเอาเงินจากคนอื่น เพียงแค่สะท้อนความเดือดร้อนของประชาชนคนหนึ่งที่ประสบกับปัญหาปากท้องของคนหาเช้ากินค่ำ ช่วงวิกฤตโควิด ขณะที่ลูกชายลุงขับแท็กซี่เผยไม่รู้พ่อเปิดบัญชีขอเงิน และไม่รู้ว่าเงินอยู่กับใครจำนวนเท่าไหร่
จากกรณีที่คุณลุงสิทธิชัย ใกล้ชิด ที่มีอาชีพขับรถแท็กซี่ ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ไม่มีผู้โดยสาร จนต้องหาทำอาชีพเสริม ด้วยการรับส่งพัสดุ แต่รายได้ก็ยังไม่พอใช้ในชีวิตประจำวัน
ทำให้มีผู้ใจบุญเข้ามาร่วมบริจาคเงินให้รวมเป็นเงินกว่า 8 ล้าน 3 แสนบาท ภายหลังคุณลุงสิทธิชัยก็ได้ประกาศปิดการรับบริจาค และประกาศว่าจะนำเงินที่ได้รับบริจาคบางส่วนไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลต่างๆ อีกทั้งยังจะนำเงินไปอุปกรณ์กับไฟป่าส่งให้กับเจ้าหน้าที่ จ.เชียงใหม่ และช่วยมูลนิธิเพื่อคนขับแท็กซี่ เพื่อช่วยเหลือเพื่อร่วมอาชีพที่ได้รับความเดือดร้อน แต่กลับมีกระแสตอบกลับมาจากสังคม อย่างมากมาย
ล่าสุดวันนี้ ( 17 เม.ย.) คุณชลธิชา ทิพยสุข ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปที่ บ้านของลุงสิทธิชัย พบว่าบ้านเปิดไว้แต่พอทีมข่าวเข้าไปเรียกพบว่าไม่มีคนอยู่ เห็นเพียงกองถุงข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมต่างๆ วางอยู่ภายในบ้าน หลังจากนั้น มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดคุยกับทีมข่าวบอกว่า ลุงสิทธิชัยไม่อยู่ ออกไปข้างนอกแต่เช้า ส่วนตนเองชื่อตู่ เป็นลูกชายของลุงสิทธิชัย ทีมข่าวจึงพยายามพูดคุยสอบถามนายตู่ถึงเรื่องการเปิดรับบริจาคเงินและสิ่งของ แต่นายตู่กลับปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
โดยบอกว่าตนเองไม่รู้ว่าพ่อไปทำอะไร ไม่รู้ว่าพ่อไปให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ไม่รู้ว่าพ่อเปิดรับบริจาคเงิน และไม่รู้ว่าเงินอยู่กับใครจำนวนเท่าไหร่ แต่รู้ว่าตอนนี้พ่อปิดรับบริจาคทั้งสิ่งของและเงินแล้ว เพราะที่ได้มาก็มากเกินพอแล้ว และพ่อก็จะนำสิ่งของที่ได้บางส่วน ไปมอบให้กับคนอื่นที่มีความลำบากเหมือนกัน
ส่วนเรื่องเงินบริจาคที่พ่อจะเอาไปมอบต่อนั้นตนเองไม่รู้เรื่องให้ไปถามพ่อเอง โดยทีมข่าวเองได้ถามว่าลุงสิทธิชัยออกไปไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ นายตู่กลับตอบว่าไม่รู้ว่าพ่อไปไหน ออกไปเมื่อไหร่ และตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้ด้วย
