ยายสะอื้นได้ 500 จาก "ท็อป-ไทด์" หวิดไม่มีข้าวกิน แถมลูกตกงาน ไร้เงินติดตัว (คลิป)

9 เม.ย. 63

วันที่ 9 เม.ย.63 "ท็อป บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" พร้อมด้วย "ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ " 2 พี่น้องฝาแฝด นำทีมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ออกตระเวนเดินเคาะประตูบ้าน นำหน้ากากอนามันและเงินสดจำนวน 500 บาท มอบให้ชาวบ้านชุมชนมัสยิดนุร้ลย่ากีน ซอยสุขสัวสดิ์ 14 แยก 21 และชุมชนตรอกสะพานยาว หลังห้างบิ๊กซี ดาวคะนอง กทม. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนหาเช้ากินค่ำ โดยเข้าสู่วันที่ 5 แล้วของการตระเวนแจกเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 

742284

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ บอกว่า ในแต่ละวันที่เดินทางไปแจกเงินจะพยายามแจกให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะไม่ตรงเป้าตามที่เตรียมไว้ ส่วนกระเเสตอบรับในขณะนี้ มีทางนักธุรกิจบางท่านติดต่อมาขอร่วมสมทบทุน จำนวน 1 ล้านบาท ทำให้ตอนนี้ยอดเดิมที่ตั้งไว้ 5 ล้านบาท เพิ่มเป็น 6 ล้านบาท ซึ่งยังมีหน่วยงานอื่น ๆ ติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง

971800

ทั้งนี้ รู้สึกดีใจและยินดีหากใครจะมาช่วยเหลือ เพราะหากยอดเงินที่มาร่วมสมทบทุนเพิ่มขึ้น เราอาจจะมีการเพิ่มจำนวนเงินแจกจากครัวเรือนละ 500 บาท เป็น 1,000 บาทก็ได้

533034

ส่วนระยะเวลาในการเดินแจกเงินนั้น ยังเป็นไปตามกรอบเดิมคือจะแจกไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ แต่อะไรก็อาจเปลี่ยนไปได้ตลอดซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งหากชาวบ้านมีการค้าขายได้ตามปกติ หรือออกไปทำงานกันได้ก็จะหยุดแค่เดือนเมษายน แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นอาจจะขยายการแจกเงินไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม

207579

ด้าน ป้ามาเลียม หวังเกษม อายุ 60 ปี หนึ่งในชาวบ้านชุมชนมัสยิดนุร้ลย่ากีน บอกทั้งน้ำตาว่า ตนไม่มีลูกหลาน อยู่กับน้องที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท ก่อนหน้านี้เคยเป็นแม่บ้านดูแลห้องน้ำอยู่ที่ตลาดแห่งหนึ่ง แต่ถูกคัดออกจึงมารับจ้างล้างจาน แต่รายได้ก็ไม่พอกิน ยอมรับว่าเครียดหนักจนเคยคิดฆ่าตัวตายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 

820610

ส่วนเงิน 500 บาท ที่ได้มานี้สามารถต่อชีวิตได้อีกหลายวัน โดยจะนำเงินไปเป็นทุนในการซื้อวัตถุดิบเพื่อทำโรตี โดยแบ่งไปซื้อ น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 16-17 บาท , เกลือ กิโลกรัมละ 14 บาท , ไข่ไก่ 10 ฟอง 70-80 บาท , นมข้นจืดกระป๋องละ 21 บาท , แป้งสาลีอเนกประสงค์กิโลละ 58 บาท , มาการีนกระปุกละ 95 บาท

ซึ่งจากเดิมเคยคาดหวังเงินเยียวยาจากรัฐบาล 5,000 บาท จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ ยอมรับว่าตนตัดใจเงินส่วนนี้ไปแล้ว

530103

ขณะที่ ป้ามาลี อายุ 67 ปี หนึ่งในชาวบ้านชุมชนมัสยิดนุร้ลย่ากีน บอกว่า ตอนนี้ค่าใช้จ่ายเยอะมาก เพราะด้วยความที่สมาชิกในบ้านมีทั้งคนแก่ วัยรุ่นและเด็กเล็กอีก 2 คน ลำพังตนต้องทำขนมออกไปขายรายได้ก็ไม่พอ แถมต้องมาเจอกับวิกฤติโควิด-19 ระบาดอีก

760950

ส่วนเงิน 500 บาทที่ได้มาตั้งใจจะนำไปซื้อกับข้าวและนมให้หลาน ยอมรับว่าตั้งแต่เจอเหตุการณ์เชื้อไวรัสระบาดทำให้ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่าย ซึ่งก็มีหนี้ที่ต้องจ่ายทุกวันด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกด้วยวิธีไหนดี 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส