วินเครียดรับลุงป่วยโควิดตายบนรถไฟให้นั่งหายใจรดคอ เพื่อนผวากินน้ำถังเดียวกัน (คลิป)

2 เม.ย. 63

จากกรณีนายอนันต์ อายุ 57 ปี เสียชีวิตบนขบวนรถไฟ กรุงเทพ-สไหงโกลก เมื่อวันมี่ 30 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ขณะรถไฟผ่าน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคิรีขันธ์ ผลการชันสูตรเบื้องต้น แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคประจำตัว แต่จากการตรวจคัดกรองอย่างละเอียด พบว่าติดเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย

710933

โดยนายอนันต์ ถือตั๋วโดยสารรถนอนปรับอากาศชั้นที่ 2 ขบวนด่วนพิเศษทักษิณที่ 37 วันที่ 30 มี.ค.63 คันที่ 4 เลขที่ 28

1

เดินทางจากสถานีชุมทางบางซื่อ – สุไหงโกลก ซึ่งศพได้ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลอำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยขบวนรถถึงสถานีทับสะแก ซึ่งผลชันสูตรครั้งแรกพบว่าเสียชีวิตจากโรคเบาหวาน และหลังจากนั้นทางโรงพยาบาลทับสะแก ได้นำสารคัดหลั่งไปตรวจที่ จ.สมุทรสาคร ล่าสุดได้รับแจ้งจากกระทรวงสาธารณสุขอำเภอทับสะแก พบว่ามีเชื้อไวรัสโควิด-19

781179

โดยระหว่างทางผู้เสียชีวิต มีอาการไอ อาเจียน เมื่อถึงช่วงสถานีหัวหิน เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟได้ประสานเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมาตรวจสอบ พบว่ามีอาการไอ และอาเจียนลดลง และตรวจวัดอุณหภูมิได้ที่ 36 องศาเซลเซียส จึงแนะนำให้ผู้เสียชีวิตลงพักรักษาตัวที่หัวหิน

3

แต่ผู้เสียชีวิตต้องการเดินทาง เมื่อถึงบริเวณสถานีทับสะแก 00.30 พบว่าผู้โดยสารล้มลงและเสียชีวิตหน้าห้องน้ำ จึงให้ขบวนรถหยุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาตรวจสอบ โดยมีผู้ร่วมตู้รถไฟ 20 คน และเมื่อตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิต เดินทางมาจากปากีสถานและมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศปากีสถาน

617302

ล่าสุดวันที่ 2 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปยังสถานีรถไฟบางซื่อ โดยจะมีจุดคัดกรองก่อนเข้าซื้อตั๋วโดยสาร ซึ่งผู้โดยสารจะต้องถูกตรวจวัดอุณหภูมิ และกรองประวัติสถานที่ที่จะไป และตั๋วที่ใช่เดินทาง 

สำหรับผู้ที่สัมผัสชายคนดังกล่าวทราบว่า ในวันที่ 30 มี.ค.63 คุณลุงได้ถือตั๋วที่ลูกสาวซื้อให้เข้ามาที่สถานีรถไฟบางซื่อ เพื่อขึ้นรถไฟสาย 37 บางซื่อ – สุไหงโกลก โดยนั่งแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาจอดหน้าทางเข้าสถานี 

จากนั้นวินจักรยานยนต์ ที่อยู่หน้าทางเข้าได้ไปช่วยคุณลุงถือของลงมาจากรถแท็กซี่ จากนั้นพาเข้าไปเข้าห้องน้ำของสถานี เนื่องจากคุณลุงเดินไม่ไหว หลังออกจากห้องน้ำคุณลุงก็นั่งวินจักรยายนต์คันดังกล่าวมาที่หน้าทางเข้าสถานี และมานั่งที่ม้านั่งฝั่งตรงข้ามที่ขายตั๋วรถไฟ

917610

เมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่งคุณลุงเดินข้ามรางรถไฟชานชลาที่ 1 และผ่านเส้นกันสีขาว-แดงไปยังจุดจำหน่ายตั๋ว โดยไม่ผ่านจุดคัดกรอง เพื่อถามเวลารถออก ลุงเดินเข้าไปที่ช่องจำหน่ายตั๋วหมายเลข 3 แต่พบว่าชายหนุ่มคนหนึ่ง คุณลุงไอใส่ชายหนุ่มหนึ่งครั้ง เมื่อพบว่าช่องดังกล่าวไม่ว่าง ก็เดินออกไปเข้าช่องจำหน่ายตั๋วหมายเลข 1 เพื่อถามเวลา หลังจากนั้นเดินออกมากพบกับหญิงเสื้อเหลือง ไอใส่หญิงเสื้อเหลือง 1 ครั้ง และกลับมานั่งที่เดิม

จากนั้นเวลา 15.07 น. รถไฟสาย 31 กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ มาถึง คุณลุงได้ถือสัมภาระไปขึ้นรถไฟสายดังกล่าวเนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขบวนที่ตนเองต้องขึ้น โดยคุณลุงเดินผ่านจุคัดกรอง แต่ไม่ได้ตรวจวัดอุณหภูมิ เมื่อขึ้นรถไฟไปแล้วรู้ว่าขึ้นผิดขบวน จึงได้ขนสัมภาระเดินลงมา หลังจากนั้นไปยืนรอรถไฟขบวน 37 ที่หลังห้องประชาสัมพันธ์ของสถานี จนกระทั่งเวลา 15.32 น. รถไฟสาย 37 มาถึงคุณลุงจึงถือสัมภาระขึ้นขบวนไป

อย่างไรก็ตามนอกจากชายหนุ่ม และหญิงสาวเสื้อเหลืองที่ถูกคุณลุงไอใส่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามไล่กล้องวงจรปิดเพื่อตามหาแท็กซี่ที่มาส่งคุณลุงด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีความใกล้ชิด และอยู่ในสถานที่ปิด จึงเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อโควิด-19 

525501

นายอภิชาติ พรมคำ นายสถานีรถไฟสถานีบางซื่อ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่การรถไฟ ได้ตรวจสอบพบว่าชายหนุ่มที่ถูกคุณลุงไอใส่นั้น ได้นำตั๋วรถไฟมาคืนแทนญาติที่ซื้อไป ทางการรถไฟจึงติดต่อไปตามที่อยู่ที่ลงไว้ในตั๋ว เพื่อให้ญาติติดต่อชายดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ชายหนุ่มได้ติดต่อว่าจะเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ เพื่อขอตรวจดูกล้องวงจรปิดว่าชายที่ปรากฎในคลิปใช่ตนเองหรือไม่ ส่วนผู้หญิงเสื้อเหลืองตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่ทราบว่า เป็นผู้โดยสารมาเปลี่ยนตั๋ว หรือเดินทางกับรถไฟในวันนั้น

448862

970643

ทั้งนี้ภายหลังจากเกิดเหตุ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่จำหน่ายตั๋วในวันนั้น และเจ้าหน้าที่ช่วยขนของขึ้นรถไฟ และวินจักรยานยนต์ กักตัวเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งถ้าถามว่าเจ้าหน้าที่กลัวหรือไม่ ตอบได้เลยว่าทุกคนกลัว แต่ต้องบริการประชาชนจึงต้องใช่วิธีดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ใส่หน้ากากอนามัย พ่นยาฆ่าเชื้อในสถานีทุก ๆ 2 ชม. พร้อมประชาสัมพันธ์ผู้โดยสารให้สวมใส่หน้ากากและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่จุดตรวจทุกครั้ง

223165

ทีมข่าวลงพื้นที่ได้พูดคุยกับ นายวุฒิชัย หอมชะเอม อายุ 25 ปี พนักงานการเดินรถที่มาประจำห้องจำหน่ายตั๋วในห้องจำหน่ายตั๋วหมายเลข 3 แทนคนเดิมที่ขณะนี้ถูกกักตัว 14 วัน โดยนายวุฒิชัย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายอนันต์ ทำให้พนักงานในห้องจำหน่ายตั๋วทั้ง 2 คน ที่ประจำอยู่ในห้องจำหน่ายตั๋วหมายเลข 1 และ 3 ต้องเข้ารับการกักตัว 14 วัน และตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยหลังจากที่ทางสถานีทราบเรื่อง ทางสถานีรถไฟบางซื่อได้ให้พนักงานมาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั้งสถานี รวมถึงภายในห้องจำหน่ายตั๋วนี้แล้ว

นายวุฒิชัย เผยอีกว่า คงไม่มีใครคาดคิดว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จะแพร่มาถึงสถานีบางซื่อ ตนรู้สึกกลัวเหมือนกันที่ต้องมาทำหน้าที่แทน แต่นี่คือหน้าที่ทุกคนใส่สถานีรวมถึงประชาชนคงต้องช่วยกันดูแลตัวเอง หมั่นล้างมือและใส่หน้ากากอนามัย

358706

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวิทยา (นามสมมติ) อายุ 35 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้างที่ขี่ไปส่งนายอนันต์ และเป็นคนช่วยถือกระเป๋าไปส่งถึงที่นั่งบนรถไฟขบวน 37 เปิดเผยว่า ก่อนที่นายอนันต์จะขึ้นรถไฟขบวนที่ 37 ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งนายอนันต์ที่ห้องน้ำ และพานายอนันต์ย้อนกลับมาส่งที่สถานี โดยเมื่อรถไฟใกล้จะมาถึงชานชาลาในเวลา 15.10 น. นายอนันต์ก็ได้เรียกให้ตนไปช่วยยกกระเป๋าประมาณ 4 ใบ ขึ้นไปส่งบนรถไฟ ซึ่งตนก็ได้ส่งนายอนันต์ถึงที่นั่ง จากนั้นตนก็ได้กลับออกมาล้างมือและฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อ

นายวิทยา เผยอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ตนอยู่กับนายอนันต์ นายอนันต์ไม่มีอาการไอหรือมีไข้แม้แต่น้อย โดยตั้งแต่ที่ตนได้ทราบข่าวว่านายอนันต์เสียชีวิตด้วยเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนรู้สึกตกใจมาก ขณะนี้ตนจึงกักตัวอยู่ภายในห้องพักแยกเตียงนอนกับภรรยา ไม่ออกไปไหน รอดูอาการ 14 วัน หากมีอาการไข้หรือรู้สึกว่าร่างกายมีความผิดปกติ ตนจะรีบเรียกรถพยาบาลมารับ ยอมรับว่าเครียดมาก เนื่องจาก 14 วันจากนี้ ตนจะขาดรายได้ ไม่มีเงินผ่อนงวดรถจักรยานยนต์

ทั้งนี้ตนอยากจะไปตรวจโรคให้รู้ในทันที แต่ขณะนี้ตนไม่มีอาการใด ๆ หากไปตรวจ ตนจะออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง และไปตรวจจะเจอเชื้อที่กำลังฝักตัวหรือไม่ ตนก็ตอบไม่ได้

649322

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายสำเริง ชาวสามนาค อายุ 51 ปี วินจักยานยนต์รับจ้างเดียวกับนายวิทยา บริเวณหน้าชานชาลาที่ 1 สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ กล่าวว่า หลังจากที่นายวิทยา ได้พานายอนันต์ ไปห้องน้ำกลับมาแล้ว ตลอดระยะเวลาที่นายอนันต์ รอรถไฟขบวนรถด่วนที่ 37 บางซื่อ-สุไหงโกลก ไม่ได้แสดงอาการไอหรือพูดคุยสุงสิงกับใคร เพียงแต่นั่งนิ่ง ๆ เท่านั้น จนเมื่อรถไฟมา นายอนันต์จึงได้เรียกให้นายวิทยา ช่วยยกสัมภาระ 4 ใบใหญ่

นายสำเริง บอกว่า ขณะนี้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บริเวณรอบสถานีรถไฟบางซื่อ กลัวโรคโควิด-19 กันหมด แต่ก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ตนได้มีโอกาสโทรศัพท์พูดคุยและให้กำลังใจกับนายวิทยาแล้ว ซึ่งตนมีความเห็นใจเป็นอย่างมาก เพราะนายวิทยา มีภาระค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเช่าห้อง ค่างวดรถจักรยานยนต์ และต้องส่งเสียเลี้ยงดูลูกที่อาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัดอีก 3-4 คน

นายสำเริง ยังบอกอีกว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไว้โควิด-19 ทางซุ้มวินก็ได้ยกเลิกการใช้กระติกน้ำร่วมกัน และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกคน ต้องใส่หน้ากากอนามัย โดยหลังเกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายอนันต์ ทางผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในซุ้มนี้ก็ต้องระวังตัวกันมากขึ้น พกเจลล้างมือ ใส่หน้ากาก และนั่งห่าง ๆ กัน

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส