จากกรณีชาวบ้าน ม.2 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบศพสาวทอมหายออกจากบ้านไป 3 วัน ปกติบ่อน้ำแห่งนี้ก็จะมีชาวบ้านใช้เป็นประจำทุกวัน นำน้ำในบ่อไปใช้น้ำอุปโภคและบริโภค ใช้น้ำดื่มกิน อาบน้ำ ล้างถ้วยล้างจาน หุงข้าว จนกระทั่งชาวบ้านสงสัยว่าทำไมน้ำจึงมีกลิ่นเหม็น คิดว่าน่าจะเป็นหนูหรือแมวตกลงไปตาย จึงเดินไปดู แต่มองไม่เห็น เนื่องจากก้นบ่อมืด
จนกระทั่งวันที่ 25 มี.ค. 63 เวลาประมาณ 20.00 น. ปั๊มน้ำเอาไปใช้อีก ได้กลิ่นเหม็น ชาวบ้านใช้ไฟฉายส่องลงไปก้นบ่อ พบศพลอยอึดมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
ล่าสุด ชาวบ้านแจ้งว่าพบศพสาวทอมตกลงไปเสียชีวิต สอบถามญาติของผู้เสียชีวิต ทราบว่าชื่อน.ส.วิกานดา อายุ 25 ปี
นางบุญปลอด อายุ 61 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าว่า ลูกสาวเป็นทอม เรียนหนังสือเก่ง นิสัยค่อนข้างจะดื้อ เมื่อก่อนเคยติดยาเสพติด และตนพาไปรักษาตัวจนอาการดีขึ้น จึงได้นำกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน บางครั้งลูกสาวมักจะบ่นกับตนและญาติเสมอว่า "เบื่อ อยากตาย" ตนจึงได้ปรึกษาญาติ เพื่อจะนำตัวไปรักษาอีกครั้ง แต่ก็ไม่นึกว่าลูกสาวจะมากลายเป็นศพตายอยู่ก้นบ่อข้างบ้านตัวเอง
นางทิพย์ นิราวงศ์ อายุ 56 ปี เจ้าของบ่อน้ำ เปิดใจว่า ตนใช้น้ำในบ่อมา 30 ปี ต่อท่อเข้ามาใช้ในบ้าน จนกระทั่งเมื่อวานนี้ น้ำในบ่อมีกลิ่นเหม็นเน่า นึกว่าหนูตาย โดยน้ำเริ่มขุ่น เป็นฟองสีขาว ยอมรับว่าใช้น้ำหุงข้าว และเอาไปอาบน้ำด้วย
ตนเองและเครือญาติ ใช้น้ำในบ่อ 3 ครอบครัว ขณะเดียวกันได้เลิกใช้น้ำบ่อนี้ทันที และคงจะต้องปิดบ่อและกลบฝัง
น.ส.แนน ลูกสาวเจ้าของบ่อน้ำ อายุ 19 ปี เปิดเผยว่า ตนใช้น้ำในบ่ออาบน้ำ แปรงฟัน ซักผ้า ตลอด 3 วันที่ผ่านมา เมื่อวานก็ยังใช้สระผมอยู่ แต่น้ำเริ่มมีกลิ่นเหม็น มีฟอง เริ่มมีสีขุ่นเหลืองตอนที่ตนเองอาบน้ำและรู้สึกคัน กำลังจะไปบอกแม่ แต่ก็มารู้ว่ามีศพคนตายในบ่อ ก็รู้สึกตกใจมาก อยากอ้วก ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง และไม่รู้ว่าหลังจากนี้ตนจะป่วยเป็นอะไรหรือไม่
นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม เปิดเผยว่า น้ำในบ่อที่มีศพ จะมีเชื้อโรคที่อยู่ในศพ เช่น เชื้ออีโคไล เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง อยู่ในทางเดินอาหารส่วนลำไส้ใหญ่ ปะปนกับอุจจาระ เชื้อบิด เชื้อไทฟอยด์ ที่เกิดจากการหมักหมมจนเน่าของศพ
เมื่อนำไปใช้ดื่มกิน หากร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดีก็จะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหากร่างกายอ่อนแอ มีภูมิต้านทานต่ำ ก็จะมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีไข้ จากการดื่มน้ำที่ไม่สะอาด ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานหรือโรคมะเร็ง อาจติดเชื้อเข้ากระแสเลือด ทำไห้เสียชีวิตได้
ส่วนคนที่นำน้ำไปอาบ มีความรุนแรงน้อย เพราะมีผิวหนังต้านทานอยู่ อาจจะมีอาการระคายตัว ผดผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ ขณะเดียวกันเมื่อน้ำไปใช้ล้างจาน ซักผ้า จะไม่เป็นอันตราย เมื่อน้ำผสมกับผงซักฟอกและน้ำยาล้างจาน มีฤทธิ์ทำให้น้ำเป็นด่าง น้ำก็จะมีด่างอ่อน ๆ
สำหรับคนที่นำน้ำไปหุงข้าว เมื่อน้ำเดือด ความร้อนก็จะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แบคทีเรียก็จะตาย เมื่อเรากินเข้าไป ก็จะไม่เป็นอันตราย
