จากกกรณี ครอบครัวของนางมะลิวัลย์ อายุ 39 ปี วอนหน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือ หลังจากที่หลานชายวัย 1 ขวบ 3 เดือนเข้าไปเล่นกับสามีของหญิงวัย 24 ปี ซึ่งป่วยโควิด-19 รายแรกใน จ.ตรัง ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่สั่งกักตัวรวม 9 คน โดยนางมะลิวัลย์ อยู่คนละครอบครัว และคนละตำบลซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่หลังกักตัวทำให้ขาดอาหารและน้ำ หนำซ้ำเพื่อนบ้านยังรังเกียจ
วันที่ 25 มี.ค.63 ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านเช่าของนางมะลิวัลย์ อายุ 39 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับครอบครัวลูกและหลานรวม 6 คน กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก หลังถูกเจ้าหน้าที่สั่งกักตัวเป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงและเพื่อนบ้านไม่มาเยี่ยมมาหา อีกทั้งครอบครัวก็ไม่สามารถออกไปข้างนอกเพื่อซื้อหาอาหารและน้ำมารับประทาน
และเป็นห่วงหลานชายวัย 1ขวบ และเด็กอายุ 3-5 ขวบ รวม 4 คน ที่เริ่มอึดอัดและงอแงหลังถูกกักตัวมาเป็นวันที่ 4 ซึ่งก่อนกักตัวมีเพียงนายจ้างที่ให้เบิกเงินเดือนล่วงหน้ามา 2,500 บาท และไม่มีหน้ากากอนามัยเพียงพอสำหรับ 6 ชีวิตในบ้าน จึงไม่ได้มีการสวมใส่แต่อย่างใด
นางมะลิวัลย์ เล่าว่า เหตุเกิดหลังจากที่หลานชายวัย 1 ขวบ 3 เดือน ได้ไปเล่นกับสามีของหญิงวัย 24 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกใน จ.ตรัง เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวถูกกักตัวทันที 14 วัน ส่งผลให้ความเป็นอยู่ยากลำบากมาก โดยเฉพาะครอบครัวของลูกสาวที่ไปสัมผัสกับสามีผู้ป่วย ซึ่งก็ไม่สามารถออกมาหาซื้ออาหารร้านค้าแถวบ้านได้ เพราะไม่มีใครขายให้และพากันรังเกียจ
ทำให้ตัดสินใจโพสต์ลงในโลกโซเชียลเพื่อขออาหาร นม น้ำและผ้าอ้อมสำหรับเด็กให้กับครอบครัวของลูกสาว ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีอาการใด ๆ แต่เป็นหนทางเดียวสำหรับคนหาเช้ากินค่ำที่กำลังจะอดตายกันทั้งสองครอบครัว รวม 9 ชีวิต
ด้าน นางปรีดา อายุ 49 ปี ป้าของสาวที่ป่วยโควิด-19 รายแรกของ จ.ตรัง เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ของอำเภอได้เข้ามาฉีดยาฆ่าเชื้อในหมู่บ้านแล้ว ส่วนหน่วยงานรัฐเอาน้ำดื่มมาแจก ครอบครัวละ 7 แพ็ค และข้าวสารจำหนึ่ง วันแรกที่รู้ข่าวหมอจากสาธารณสุข ได้เดินทางมาที่บ้าน พร้อมนำหน้ากากอนามัย และปรอทวัดไข้ 2 อันมาให้ ยอมรับว่ากลัวตายจึงวัดไข้ทุกวันแต่คนในครอบครัวไม่มีใครเป็นไข้
ส่วนกรณีเรื่องเงินนั้นยอมรับว่ามีไม่มาก ตอนนี้ลำบากมาก เพราะครอบครัวยากจน รับจ้างแค่กรีดยางและเก็บผักบุ้งขาย ทั้งครอบครัวเหลือเงินแค่ 300 บาท ยอมรับไม่มีใครอยากเป็นและไม่รู้ว่าหลานสาวติดมาทางไหน ก่อนหน้านี้ไปซื้อของตามร้านค้า ก็โดนรังเกียจถูกไล่ก็มี ทำให้ตอนนี้ไม่มีใครต้อนรับ แต่ยังดีที่มีผู้ใหญ่บ้าน ม.8 คอยช่วยเหลือ
