นายจ้างยิงสวนลูกน้องพม่ากร่างจอบไล่ฟัน อ้างป้องกันตัว อีกฝ่ายโต้ถูกด่าชักปืนขู่ (คลิป)

21 มี.ค. 63

จากกรณี ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบริเวณอาคารกำลังก่อสร้างใหม่ หมู่ที่ 4 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อนายเมียว มิน นาย อายุ 23 ปี เป็นคนงานก่อสร้างชาวเมียนมา อาการเบื้องต้นถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าบริเวณสะโพกซ้าย จำนวน 2 นัด หลังจากเกิดเหตุนายพิศิษฐ แสนนาม อายุ 48 ปี ผู้ก่อเหตุและเป็นนายจ้างของผู้บาดเจ็บ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน

208117

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายัง สภ. เมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งช่วงบ่ายของวันนี้พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายพิศิษฐ แสนนาม ผู้ต้องหา มาสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดี

492741

นายพิศิษฐ์ เปิดเผยภายหลังว่า ขณะเกิดเหตุเวลา 08.30 น.ตนได้สั่งให้นายเมียว เก็บกวาดเศษปูนจากการก่อสร้าง ซึ่งยังหลงเหลืออยู่ตามพื้นอยู่จำนวนมาก แต่นายเมียวไม่พอใจ และตอบกลับมาว่า "ไม่ทำ" พอตนสั่งนายเมียวอีกครั้งว่า “ต้องทำ” จึงทำให้นายเมียวไม่พอใจ และถือจอบเข้ามาจะทำร้ายตนเอง

cg1_2

ด้วยความตกใจจึงวิ่งหนีไปยังชั้น 2 ของหอพักที่กำลังก่อสร้าง ขณะที่นายเมียวจะเอาจอบมาแทงอีกครั้ง จึงได้หยิบปืนที่พกติดเอว ขนาด 9 มม.ขึ้นมายิงใส่นายเมียว 2 นัด โดยกระสุนเข้าที่สะโพกซ้าย1 นัด และสะโพกขวาอีก 1 นัด

cg_7

หลังจากนั้นนายเมียวได้วิ่งหนีลงไปที่ชั้น 1 และมีเพื่อนคนงานของนายเมียว 2 คน พาตัวนายเมียวขึ้นรถมอเตอไซต์พ่วงข้าง แล้วขับออกไปจากหอพักที่เกิดเหตุอย่างไรก็ตาม ตนและนายเมียวไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการป้องกันตัวเท่านั้น

520788

ด้าน นายตั้ม (นามสมมติ) พี่ชายผู้บาดเจ็บ บอกว่า จากการที่ได้สอบถามน้องชาย ทราบว่าตอนเกิดเหตุ นายพิศิษฐ นายจ้าง ได้สั่งให้น้องชายเก็บเศษปูนที่ตกอยู่อยู่ในพื้น แต่น้องชายตอบไปว่าเก็บกวาดเศษปูนไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่นายพิศิษฐ ไม่พอใจและก็ด่าน้องชายด้วยคำหยาบ พร้อมกับขึ้นเสียง และขวักอาวุธปืนออกมาขู่ ทำท่าจะยิงน้องชาย

480857

ทำให้น้องชายไปหยิบจอบที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาป้องกันตัว ยืนยันว่าน้องชายไม่ได้เอาจอบไปไล่ทำร้ายร่างกายนายพิศิษฐ ส่วนน้องชายเพิ่งมาทำงานกับนายพิศิษฐ ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน และนายพิศิษฐ ก็เป็นคนใจดี แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส