รู้ไหมเคยมีกฎห้ามลวนลามลูกน้อง? มูลนิธิผู้หญิงจี้ไล่ออก ผอ.หื่นล้วงอก (คลิป)

15 ส.ค. 60
จากกรณีที่มีการแฉคลิปข้าราชการบีบหน้าอกลูกจ้างสาวในที่ทำงาน พร้อมกับขู่ว่าถ้าขัดขืนจะไม่ต่อสัญญาจ้าง โดยกระทำเช่นนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 ต่อมาทาง นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยว่าเหตุการณ์นี้เป็นการร้องทุกข์กับข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุข เบื้องต้นได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบราชการ และได้ย้ายหัวหน้างานที่อยู่ในคลิปไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองนนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2560 แล้วนั้น ล่าสุด วันนี้ (14 ส.ค. 60) พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคดี หลังได้ออกหมายเรียกหัวหน้างาน ผู้ก่อเหตุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมทำหนังสือเพื่อแจ้งไปยังต้นสังกัด ของหัวหน้างาน ผู้กระทำอนาจารลูกน้องสาวแล้ว ให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อทำการสอบปากคำและทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากวันนี้ยังคงติดวันหยุดราชการ ซึ่งจะส่งได้ในวันพรุ่งนี้ 15 ส.ค.60
นอกจากนี้ทีมข่าวได้ติดต่อไปยัง นางเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางฝ่ายชาย คู่กรณี ยังไม่ได้มีการติดต่อมายังตน ส่วนเรื่องคดีความนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการให้สามีตน เข้าไปให้ข้อมูล พร้อมด้วยพยานแวดล้อม ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่ได้ติดต่อใครเพื่อให้เข้าไปเป็นพยาน เพราะเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนผู้หญิงที่เคยถูกกระทำเช่นดียวกันกับตน ซึ่งอาจจะไม่สะดวกที่จะเปิดเผยข้อมูล และบางคนนั้นก็ได้เข้าไปเป็นพยานในการสอบข้อเท็จจริง เฉพาะภายในหน่วยงานให้กับตนแล้ว
ขณะที่ นางสาวอุษา เลิศศรีสันทัด ผู้อำนวยการมูลนิธิผู้หญิง ให้ความคิดเห็นถึงกรณีนี้ว่า นับว่าเป็นเรื่องที่ผู้ถูกกระทำออกมาเรียกร้องสิทธิให้ตัวเอง ทางผู้บังคับบัญชาสูงสุดในหน่วยงานดังกล่าวก็ไม่ได้เพิกเฉย มีการลงโทษตามระเบียบ โดยตลอดเวลาของการทำงานที่ผ่านมา ได้มีข้อเสนอให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ห้ามไม่ให้บังคับบัญชา "ลวนลามทางเพศกับผู้ใต้บังคับบัญชา" อย่างเด็ดขาด
นางสาวอุษา เลิศศรีสันทัด ผู้อำนวยการมูลนิธิผู้หญิง
ประกอบกับมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมา ที่ระบุว่า "ต้องขจัดเรื่องของการลวนลามทางเพศในหน่วยงานภาครัฐให้หมดไป" เนื่องจากนับว่าเป็นความรุนแรงอีกอย่างหนึ่ง แต่สิ่งที่พบ คือ หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ไม่รู้เรื่องมติดังกล่าว สำหรับที่ผ่านมาได้รับแจ้งว่ามีเหตุการณ์ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นผู้หญิง ถูกผู้บังคับบัญชาลวนลามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น ทั้งเทศบาลและอำเภอ ส่วนใหญ่จะไม่กล้าออกมาร้องเรียน เนื่องจากถูกข่มขู่ในเรื่องของหน้าที่การงาน , ลดตำแหน่ง ซึ่งถือว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าว ทางราชการถือว่ามีความผิด
  โดย นางสาวอุษา กล่าวอีกว่า หัวหน้าองค์กรต่างๆ ในประเทศ ควรจะประกาศ ห้ามไม่ให้มีการล่วงละเมิดในที่ทำงานอย่างชัดเจน หากลูกจ้างผู้หญิงที่ถูกกระทำในลักษณะดังกล่าว ควรจะเก็บข้อมูลหลักฐาน หรือ พยานบุคคล เข้ามาร้องเรียนมาที่หน่วยงานระดับประเทศ เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน โดยผู้บังคับบัญชาต้องกำหนดมาตรการดำเนินการสอบสวนและลงโทษผู้กระทำการในลักษณะดังกล่าว โดยต้องไม่เลือกปฏิบัติ ขณะเดียวกัน ต้องมีมาตรการหรือกลไกที่ช่วยดูแลผู้เสียหายด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รายงานให้ที่ประชุมสหประชาชาติถึงอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ซึ่งจะเป็นการสร้างหลักประกันว่า "การล่วงละเมิดทางเพศเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในทางกฎหมาย และยิ่งกว่านั้นต้องกำหนดให้มีมาตรการ เพื่อป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศในสถานที่ทำงาน รวมทั้งพัฒนาระบบการรับเรื่องร้องเรียนที่ปกปิดเป็นความลับและประกันว่าผู้เสียหายสามารถเข้าถึงการเยียวยาที่มีประสิทธิภาพ"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ