ไขปริศนา เสี่ยต้น ถูกวางยาในแก้วเหล้า สอบเครียด น้อง-หลาน-ลูกสาวเจ๊มด 6 ชม.

8 มิ.ย. 67

 

ไขปริศนา เสี่ยต้น ถูกวางยาในแก้วเหล้า สอบปากคำ น้อง-หลาน-ลูกสาวคนโตเจ๊มด เครียดนาน 6 ชั่วโมง เผยคำให้การส่วนใหญ่ตอบว่า “ไม่รู้ ไม่เห็น” 

ความคืบหน้า คดีการเสียชีวิตปริศนาของนาย พิชิต กลีบจินดา หรือ เสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจสอนสปา และนวดแผนไทย ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 67 ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.ส้ม น้องสาวของ น.ส.วรรณิภา หะมาลา หรือ เจ๊มด อายุ 37 ปี ภรรยาเสี่ยต้น พร้อมลูกสาววัย 10 ขวบ และหลานสาววัย 16 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของเจ๊มด เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และทีมสหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดมหาสารคาม 

โดยทั้งหมดได้เข้าให้ปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนที่จะเดินทางกลับ ระหว่างที่ น.ส.ส้ม น้องสาวเจ๊มด เดินมาขึ้นรถที่หน้าสำนักงานอัยการจังหวัดมหาสารคาม สังเกตได้ว่า มีสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งเครียดมาก ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามในหลายประเด็น ทั้งเรื่องของการสอบปากคำวันนี้ , เรื่องที่ตำรวจมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการตายของเสี่ยต้นว่าอาจจะถูกวางยา , และเรื่องว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพี่เขยหรือไม่ แต่ น.ส.ส้ม ไม่ตอบคำถามใดๆ บอกเพียงว่า “ยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล “ แล้วก็รีบพาเด็กๆ ขึ้นรถกลับบ้านทันที 

ด้าน พ.ต.อ.วัชรินทร์ สัตยาคุณ ผกก.สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจได้ประสานให้ น.ส.ส้ม น้องสาวเจ๊มด เข้ามาสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดมหาสารคาม โดยให้พาลูกสาววัย 10 ขวบ เข้าสอบปากคำกับทีมสหวิชาชีพด้วย เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ทั้งก่อนเเละหลังจากที่เสี่ยต้น เสียชีวิต 

นอกจากนี้ตำรวจยังได้ให้ น.ส.ส้ม พาหลานสาวคนโตวัย 16 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของเจ๊มด เข้าให้การกับทีมสหวิชาชีพ เพื่อนำไปประกอบในสำนวนการสอบสวน ส่วนประเด็นการสอบปากคำ เป็นรายเอียดเหตุการณ์ช่วงคืนวันที่ 15 เม.ย.ต่อเนื่องวันที่ 16 เม.ย. ว่า มีใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไรบ้าง แต่เบื้องต้นจากการสอบปากคำ น.ส.ส้ม ลูกสาว และหลานสาวที่เป็นลูกคนโตของเจ๊มด ยังถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเท่าที่ควร เพราะส่วนใหญ่ก็จะตอบว่าไม่รู้และไม่เห็น ซึ่งก็เข้าใจว่าอาจเป็นการเลี่ยงตอบคำถามเพื่อปกป้องเจ๊มด และคนในครอบครัว 

หลังจากสอบปากคำพยานทั้ง 3 คนเสร็จสิ้นในวันนี้ ตำรวจสภ.ยางสีสุราช ก็จะมีการรวบรวมส่งให้คณะพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธร 4 เพื่อพิจารณาดำเนินการขั้นต่อไป ส่วนเรื่องการออกหมายจับนั้น ทางคณะพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จะเป็นผู้พิจารณา แล้วจะแจ้งให้ สภ.ยางสีสุราช ไปดำเนินการออกหมายจับ โดยคดีนี้ตำรวจมีการเรียกสอบปากคำพยานแวดล้อมไปกว่า 30 ปาก ซึ่งเกือบจะครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว 

ด้านนายสมโภช ฤทธิธรรม ทนายความส่วนตัวของเจ๊มด กล่าววา เมื่อวานนี้ตนเพิ่งเดินทางเข้าเยี่ยมเจ๊มด ในทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งเจ๊มด ยังอยู่ในแดนแรกรับก็สังเกตได้ว่า เจ้าตัวผ่อนคลายมากขึ้น ไม่ได้เครียดเหมือนวันแรกที่ถูกส่งมาคุมขัง ขณะที่ก็เริ่มปรับตัวใช้ชีวิตในเรือนจำได้เหมือนผู้ต้องขังคนอื่นๆ แต่ก็ได้มีการร้องขอสิ่งของจำเป็น เช่น เเว่นสายตา และของใช้ส่วนตัว 

ทนายสมโภช ยืนยันว่า ตนยังเป็นทนายความผู้รับผิดชอบคดีของเจ๊มด ทั้งที่กรุงเทพฯและที่ จ.มหาสารคาม โดยเจ๊มด ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนทนายความตามที่มีข่าวลือ ขณะที่เจ๊มด ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเองว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่าสามีด้วย 

ในการทำหน้าที่ทนายความ ตัวเองไม่ได้หนักใจในแนวทางการต่อสู้คดี แม้จะเป็นคดีที่มีอันตราโทษสูง เพราะส่วนตัวก็เคยรับทำคดีฆ่าคนตายมาก่อน ซึ่งคดีของเจ๊มดไม่ใช่คดีแรก  แต่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า หากตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากระทำผิดจริง ต่อให้ทนายเทวดาก็ช่วยไม่ได้ 

ส่วนเรื่องการยื่นประกันตัวเจ๊มด ตอนนี้ยังติดขัดในเรื่องหลักทรัพย์ประกันตัว ที่ทางครอบครัวของเจ๊มด ยังหามาได้ไม่ครบ ซึ่งหากมีความพร้อมในเรื่องของหลักทรัพย์ ก็จะยื่นคำร้องขอประกันตัว ก่อนจะหารือถึงแนวทางการต่อสู้คดีต่อไป เนื่องจากว่าการเข้าเยี่ยมเจ๊มดเมื่อวานนี้มีเวลาไม่มากนัก จึงยังไม่ได้คุยในรายละเอียดแนวทางการต่อสู้คดี

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส