คุมจำหน่าย "หน้ากากอนามัย" ซื้อสูงสุด 10 ชิ้นต่อคนต่อครั้ง จำกัดส่งออก ตปท. 500 ชิ้น

กระทรวงสาธารณสุข หารือกระทรวงพาณิชย์ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาขาดแคลน กักตุนหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หลังความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น ทำให้สินค้าขาดตลาดและปรับขึ้นราคา โดยผู้ผลิตและผู้จำหน่าย ยืนยันสินค้าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็ว ๆ นี้ พร้อมคุมจำหน่ายหน้ากากอนามัย 10ชิ้นต่อครั้งต่อคน นพ.สมสุข กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมประชุมหารือกับ องค์การเภสัชกรรม องค์การสุรา กรมสรรพสามิตร และผู้ผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศไทย 8 บริษัท หารือถึงแนวทางแก้ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย นพ.สมสุข ได้หารือกับบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัย ขอให้ผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนและทางการแพทย์ ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตแจ้ง ว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้ามีไม่พอ ต้องหาวัตถุดิบทดแทนมาใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย และยืนยันการผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อส่งให้กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งจัดจำหน่ายให้กับประชาชน จะเป็นไปตามปกติเร็ว ๆ นี้ ช่วงที่หน้ากากอนามัย มีไม่พอต่อความต้องการของผู้บริโภค กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงพาณิชย์ ได้ขอความร่วมมือไปยังร้านขายยารวมทั้งร้านค้าต่างๆ จำกัดปริมาณการขายให้กับประชาชน โดยกำหนดขายปลีกหน้ากากอนามัย คนละ 10 ชิ้น และจำกัดการส่งออกนอกประเทศไม่เกิน 500 ชิ้น รวมทั้งมีนโยบายให้ ใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าเพิ่มขึ้น ส่วนที่ผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามาว่า หน้ากากอนามัยปรับขึ้นราคา บางร้านมีราคาแพงถึงเท่าตัว และกักตุนสินค้านั้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้า ที่ทำการกักตุนหน้ากากอนามัย หากพบว่ามีร้านค้าใดกักตุนสินค้า จะถูกดำเนินคดีมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ