"ทนายอนันต์ชัย" ลุยจัดการลัทธิเชื่อมจิต ลั่น เดี๋ยวจัดให้ อยู่ดีๆไม่ว่าดี อยากมีเรื่อง

24 เม.ย. 67

"ทนายอนันต์ชัย" ลุยจัดการลัทธิเชื่อมจิต ลั่น เดี๋ยวจัดให้ อยู่ดีๆไม่ว่าดี อยากมีเรื่อง คอยติดตามชม วันศุกร์ที่ 26 เม.ย. 67

จากกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ลัทธิเชื่อมจิตสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำอะไรอยู่ ? ให้เวลา 3 วันที่ถามเพราะหากไม่ใช่หน้าที่มูลนิธิทนายกองทัพธรรมจะได้จัดการเอง!

ทำให้นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนา ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโดยด่วนแล้วว่าการกระทำของเด็กอายุ 8 ขวบ เป็นอย่างไรและมีความเหมาะสมหรือไม่

ล่าสุดเพจ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช โพสต์ข้อความเพิ่มเติมถึงประเด็นนี้ว่า การอ้างว่า #เชื่อมจิต มีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก เรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ ! #หากไม่จริง แล้วยังนำเรื่องไม่จริงออกเผยแพร่สู่สาธารณะ ผมจะจัดให้เข็ด ทั้งผู้นำเข้าข้อมูล และแอดมินผู้เผยแพร่ด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิด ความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

(3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้

(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (5)

ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทําต่อประชาชนแต่เป็นการกระทําต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้กระทํา ผู้เผยแพร่ หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความได้

อยู่ดีๆ ไม่ว่าดี อยากมีเรื่อง เดี๋ยวจัดให้ คอยติดตามชม วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 !

5_23

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม