"จั๊กกะบุ๋ม" เผชิญหน้า "แม่ปูนา" ลั่นไม่ต้องยกหนี้ให้ ยืนยันจะทำมาหากินเอาเงินมาใช้หนี้คืน

2 เม.ย. 67

จั๊กกะบุ๋ม เผชิญหน้า แม่ปูนา ขึ้นป้ายทวงหนี้เกือบ 3 แสน ร่ำไห้กราบต้องขายบ้าน ตลกดังลั่นต้องจ่ายหนี้รายวัน วันละ 4 หมื่น โลโก้ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย!

 

กรณี “แม่ปูนา” เจ้าหนี้ ขึ้นป้ายทวงหนี้ตลกชื่อดัง จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม กลางห้างดัง ขอให้เมตตาคืนเงิน 284,400 บาท เพราะเป็นเงินที่ต่อลมหายใจอีก 4 ชีวิต จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ขณะที่จั๊กกะบุ๋ม ได้เดินทางไปสน.เพื่อลงบันทึกประจำวัน ยืนยันไม่หนี แต่ไม่รู้ยอดหนี้จำนวนเท่านี้จริงหรือไม่

ล่าสุดในรายการโหนกระแส จั๊กกะบุ๋ม : ย้อนกลับไปประมาณปลายธ.ค. ทีเริ่มเอาของคุณแม่มาขาย มียอดนิดหน่อย เพราะเพิ่งเริ่มต้น ผมมีการสื่อสารกับแม่โดยตลอดเวลาว่าผมมีหนี้สินอะไรบ้างต้องชำระ สุดท้ายที่แม่ส่งของให้ผม เป็นไทม์ไลน์ช่วงปีใหม่ 31 ธ.ค. - 1 ม.ค. ผมทำงานจังหวัดนึง แล้วแวะเอาของจากแม่ เพื่อเดินทางไปอีกจังหวัดนึง เขาก็อัปเดตกับผมตลอดว่าขายดีมั้ย ผมขายที่หัวหิน ถนนคนเดิน ตลาดโต้รุ่ง ผมก็แจ้งว่าขายไม่ได้เลย ฝรั่งเยอะ ปรากฏว่าของขายไม่ได้ ของเหลือ แล้ว 3 ม.ค. ผมโดนอายัดบัญชี

จั๊กกะบุ๋ม

ทำไมไม่บริหารจัดการเงิน เขาโอนของไปให้เราหมื่นนึง เราขายได้หมื่นแปด เราเก็บไว้แปดพัน เอาไปใช้หนี้ทำอะไรก็ได้ อีกหมื่นนึงคืนเขาไป ทำไมไม่บริหารแบบนี้?

จั๊กกะบุ๋ม : อันนี้หลังแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่คุยกับแม่ ผมบอกแม่แล้วว่าผมมีหนี้สินอยู่ ถ้าแม่จะช่วยผม ผมขออนุญาตเอาเงินขายของจ่ายหนี้ที่ผมมีอยู่หน่อยได้มั้ย

เขาพูดมั้ย?
ปูนา : ไม่ค่ะ

เขาบอกว่าให้เอาหนึ่งหมื่นมาย้อนเป็นทุนเพื่อให้นำไปทำกำไรต่อในวันถัดไป แต่ทำแบบนี้ดึงจมไปเรื่อยๆ แล้วจะไปต่อได้อย่างไร ที่ผ่านมาแม่พยายามช่วยเต็มที่แล้ว แม่เข้าใจว่าถ้าปิดหนี้ยอดรายวันแล้วทุกอย่างจะคล่องขึ้น แม่ไปสืบมารายวันเขาตัดแค่ 24 วัน แต่ของพี่เรื้อรังมา 24 วันแล้ว?
ปูนา : ถูกค่ะ

จั๊กกะบุ๋ม : ก็อย่างที่บอก ก่อนหน้านี้ อันนั้นมันม.ค.

พอเรื่องเกิด เริ่มทวงเงิน ทำไมไม่เอายอดถัดไปคืนเขา?
จั๊กกะบุ๋ม : ยอดเดือนธ.ค. มันยอดเล็กน้อย เป็นยอดที่ผมบอกแม่ว่าผมขออนุญาตก่อนนะ ผมทำงานมาได้เงินจากการเอาของของแม่มา ผมให้แน่นอน ไม่เคยคิดจะเบี้ยวแม่ หรือไม่ให้เงินแม่เลยแม้แต่บาทเดียว เพราะแม่มีพระคุณกับผม นั่นคือเดือนธ.ค. ขอแล้ว เขาบอกมีหนี้เท่าไหร่เอาไปส่งรายวัน เขาเข้าใจผมแล้วว่าส่งรายวัน มัน 24 วันไม่ใช่เหรอ วันที่ 3 ม.ค. ผมถูกอายัดบัญชี ผมก็บอกแม่

เขาบอกมั้ย?
ปูนา : แล้วทำไงต่อ

จั๊กกะบุ๋ม : ผมก็บอกว่าผมไม่มีเงินเลย ขอเงินติดชีวิตหน่อยได้มั้ย ขอยืมแม่ 1 หมื่นบาท

ปูนา : แล้วให้มั้ย

จั๊กกะบุ๋ม : ให้

ปูนา : ไม่เคยออกข่าวที่ไหนนะ เพราะไว้หน้าเขา

จั๊กกะบุ๋ม : ผมยินดีที่จะพูด ตลอดระยะเวลาที่พูดคุย มันเป็นการช่วยเหลือผมมาตลอด ซึ่งผมก็รู้สึกดีที่มีคนช่วยผม แล้วเวลาผมเกิดปัญหา ผมก็ยินดีเล่าให้เขาฟังว่าเกิดจากอะไร

จั๊กกะบุ๋ม

แต่ตอนนี้เขาเดือดร้อนไง?

จั๊กกะบุ๋ม : วันที่ 3 ม.ค. ผมโดนอายัดบัญชี เหลือติดตัวไม่กี่ร้อย ขอยืมแม่ เขาก็โอนมาช่วยผม โห แม่ดีกับเราจังเลย แต่ระหว่างทาง กว่าจะถึง 28 ม.ค. ผมไม่มีเงินเลย ผมขายของที่วัดแค่เสาร์อาทิตย์ จันทร์-พฤหัส ปรึกษาแม่ ว่ามีที่ไหนให้ผมได้มีโอกาสไปลงตามตลาดนัดบ้างมั้ย จะได้หาเงินมาคืนแม่ ระหว่างนี้ก็ช่วยกันหาตลาด พี่บุ๋มลองติดต่อที่นี่สิ ผมยังมาขายข้างๆ ตลาดช่อง 3 อยู่เลย ระหว่างทางไปเสาร์อาทิตย์ ผมไม่มีรายได้เพราะวันจันทร์-ศุกร์ผมต้องส่งรายวัน ผมต้องหาเงินส่งรายวัน

ตอนนี้บุ๋มจะเอื้อแต่รายวัน แต่เจ้าหนี้ที่เขาไม่รู้เรื่องอะไร ก็ไม่เป็นธรรมกับเขา?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมเข้าใจพี่หนุ่ม ที่ผมจะอธิบายคือถ้าเรื่องนี้ผมไม่ได้บอกแม่ เอาเงินขายของไปใช้โดยพลการ ผมผิด ผมยอมรับ

จะบอกว่าแม่รู้อยู่แล้วว่าใช้หนี้รายวันอยู่ บัญชีโดนอายัด แล้วทำไมวันนี้แม่ไปยื่นป้ายแบบนั้น ทำให้เสียหาย แต่แม่บอกว่าเข้าใจว่าติดหนี้รายวัน แต่ของที่ให้ไป ขายได้กำไรเอาไป แต่ทุนต้องโอนกลับมาหาเขา แต่คุณเอาทุนเขาไปด้วย?

จั๊กกะบุ๋ม : นั่นคือสิ่งที่แม่มอง

ปูนา : ไม่ใช่มองค่ะ พยายามให้พี่เรียงลำดับความสำคัญ พี่ไม่ให้ความสำคัญอะไรเลย

จั๊กกะบุ๋ม : แต่สิ่งที่ผมได้ยินจากแม่เวลาคุยโทรศัพท์ ไม่งั้นผมจะกล้าเอาเงินที่ขายของ ที่เป็นทุนของแม่ กำไรของผม ในการบริหารจัดการที่บอกว่าให้เรียงลำดับ ถ้าไม่ได้ยินจากแม่ ผมจะกล้าเอาไปใช้ได้ไง ผมขออนุญาตให้แม่ช่วยผมหน่อยนะช่วงนี้

กรณีเขาตามไปถึงร้าน ขอเงิน 3 พันบาท ทำไมไม่ให้เขา ทั้งที่ขายได้เป็นหมื่น?
จั๊กกะบุ๋ม : ระหว่างทางมีการพูดคุยกันตลอด มีการเล่าปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมไม่ได้ขายของที่นี่แล้วนะ ต้องย้ายที่ใหม่ ผมต้องหาเงินไปเรื่อยๆ ผมทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้ทำงานเพื่อซื้อความสุขสบายให้ตัวเอง ผมทำงานใช้หนี้ของตัวเอง แบะปัญหาที่ผมก่อขึ้นมา ผมทำงานที่ได้เงินมาทุกบาททุกสตางค์ ต้องการนำมาคืนแม่และใช้หนี้ แต่ในแต่ละงานที่ผมคาดหวัง อย่างที่ส่งให้แม่ดู จะมีงานนี้งานใหญ่ จะมีโอกาสช่องทางหาเงินคืนแม่แล้วนะ ผมมีงานนี้จะมีเงินให้แม่แล้ว ผมได้ที่ขายของใหม่แล้ว จะมีเงินให้แม่แล้ว แต่ระหว่างที่บอกแม่ เป็นวันที่ผมไม่มีเงินเหลือเลยสักบาทเดียว

จั๊กกะบุ๋ม

แล้วที่คุณขอเลขบัญชีแม่ล่ะ?
จั๊กกะบุ๋ม : อันนั้นมี.ค. ตั้งแต่ปลายก.พ ผมแทบไม่ได้รับของแม่มาขาย ผมขายแต่ปลาร้าทอด ผมรู้ว่าผมไม่มีเงินให้แม่ ผมก็ไม่ได้เอาของแม่มาขาย ก็ขายปลาร้าประทังชีวิต ส่งรายวันของผมไป คิดว่าเดี๋ยวมีงานใหญ่ คืองานพ่อใหญ่หม่ำ ปลายมี.ค.ถึง 2 เม.ย. ที่เวสเกต ก่อนถึงงานพี่หม่ำ ผมก็บอกแม่ช่วยส่งของให้ผมหน่อยได้มั้ย ผมจะเอาไปขายที่ที่ขายอยู่ปัจจุบัน เอามาทำทุน ตอนนี้ยอดพี่บุ๋มเป็นแสนแล้ว พี่บุ๋มรู้มั้ย ผมก็บอกว่าผมรู้ครับ รู้ว่ายอดเยอะมากแล้ว งั้นโฮลยอดเป็นแสนไว้ก่อนนะ เดี๋ยวจะส่งล็อตใหม่ แล้วเริ่มเอายอดใหม่ที่แม่ส่ง เอามาให้แม่ แล้วยอดเก่าค่อยทยอยให้กัน พี่บุ๋มไปขายก็เอามาให้แม่

เคยพูดมั้ย?
ปูนา : หึ ไม่เคยค่ะ

แชตอันนี้บอกว่าผมจะทยอยหาเงินให้นะแม่ 28 ม.ค. แสดงว่าคุณต้องรู้อยู่แล้วว่าเป็นหนี้?
จั๊กกะบุ๋ม : ผมรู้มาตลอดว่าผมเป็นหนี้เขา เขาถามผมมาตลอด

เขามีหลักฐานว่าทวง ถ้าตามหลักมีการทวงหนี้มาก่อนแล้ว บุ๋มถึงบอกว่าจะทยอยคืนให้ พอบุ๋มบอกว่าแม่รู้อยู่แล้ว แม่รับทราบทุกอย่าง แม่ให้ผมเอง มันเลยไปหักล้างตรงนี้?

จั๊กกะบุ๋ม : ระหว่างต้นม.ค. หลังผมบอกแม่ว่าผมโดนอายัดบัญชีแล้ว ผมไม่มีเงินแล้ว แม่ก็ถามว่าจะไปต่อยังไงกันดี ผมก็บอกว่าต้องช่วยกันนะ เอางี้ แม่มีลูกค้าอยู่เจ้านึงแม่เก็บเงินเขาไม่ได้ ให้แม่เอาปืนเขาไปขาย พี่บุ๋มไปขายปืนให้แม่หน่อย เราจะได้เอาเงินมาทำทุนกัน ดอกที่หนึ่งให้ผมขายปืนให้ ปืนลูกหนี้ของแม่ ที่แม่อ้างว่าเก็บเงินลูกหนี้คนนี้ไม่ได้ ตั้งแต่ม.ค. ก่อนถึง 28 ม.ค. ผมก็ไม่มีเงินแม่ก็ไม่ได้เงินจากผม แต่ผมพูดคุยกับแม่เสมอ แม่ให้ผมเอาปืนไปขาย ผมโพสต์ขายในเฟซบุ๊กจนผมโดนปิดกั้น ดอกที่หนึ่ง ดอกที่สองให้ผมขายบ้าน เขาบอกว่าเป็นบ้านเพื่อนแม่

ณ วันนี้ทางนี้เขาไปขึ้นป้ายทวงเงินแล้ว จะคืนเงินเขาเมื่อไหร่?

จั๊กกะบุ๋ม : วันที่เขาไปที่บูท 28 มีการคุยกับแม่อยู่ ลูกค้าตามของออนไลน์ พูดคุยกันดิบดี พรุ่งนี้พี่บุ๋มไปขายของมั้ย วันที่ 29 แม่จะไป ก็บอกว่าแม่มาได้เลย วันที่ 29 แม่มาจริงๆ แม่หิ้วปูนาไป 3 กระปุก กระปุกใหญ่ 1 กระปุก กระปุกเล็ก 1 กระปุก อ่องมันปู 1 กระปุก ก็ถามว่าเอามาทำไม ก็บอกว่าเอามาให้พ่อหม่ำ เดี๋ยวจะให้พ่อหม่ำช่วย ผมก็บอกว่าจะให้พ่อหม่ำจะคุยลักษณะไหน จะมาคุยอะไร ก็บอกว่าจะมาคุยเรื่องยอด ผมก็เก็ตแล้ว แสดงว่าแม่จะมาทวงถามเงินจากผมใช่มั้ย แม่ไปคุยกับพ่อหม่ำ แล้วพ่อหม่ำจะช่วยอะไรแม่ ผมเป็นหนี้แม่ ก็คุยกันสองคนสิ แม่ต้องบอกผมสิ แล้วผมบอกแม่ไปแล้วว่าจบงานพ่อหม่ำจะทยอยให้ ไม่ได้หมายความว่าจะทยอยให้แค่ 8,600 ที่แม่เขาคิดยอดมานะ ผมรู้อยู่แล้วว่าเงินผมจะโฟลว์แล้ว เริ่มจะดีขึ้น ผมบอกแม่ตลอดเวลาว่าผมเริ่มหายใจได้คล่องขึ้นแล้วนะครับ ผมเริ่มมีเงินทยอยให้แม่แล้วนะครับ หลังจบงานพ่อหม่ำ ผมคืนแม่แน่นอน

จั๊กกะบุ๋ม

พูดมั้ย?
ปูนา : ใช้คำประมาณนี้ แต่เปลี่ยนชื่อบุคคลเฉยๆ ตั้งแต่ม.ค. พยายามใช้คำประดิดประดอย เราก็ดีใจที่เขาจะจ่าย จะมีมาเรื่อยๆ บอกทุกครั้ง

จั๊กกะบุ๋ม : แม่พยายามสื่อสารว่าผมขายของดี วันที่แม่ไปยืนดูขายได้เป็นหมื่น ทำไมแม่ไม่ไปยืนดูวันที่ผมขายของไม่ได้ ไม่ดีบ้างล่ะครับ

จั๊กกะบุ๋ม : เขามาที่บูธก็บอกให้คุยกับผม จะไปหาพ่อหม่ำเพื่ออะไร เขาบอกว่าไม่รู้แหละ จะคุยกับพ่อหม่ำให้รู้เรื่องผม จนพ่อหม่ำมาแล้วตำส้มตำ ตำเสร็จพ่อหม่ำก็กลับ เขาก็วี้ดกับผมเลย ทำไมไม่ได้คุยกับเขา แจ้งผู้จัดการไปแล้ว เอาเบอร์เขามาเลย จะไปหาเขาให้ได้เลยตอนนี้ มายืนโวยวายอยู่ข้างหลัง ก็บอกให้ใจเย็นๆ แม่จะไปหาพ่อหม่ำที่ไหน แม่บอกบ้านอยู่ตรงไหน บอกมาเลย ผมก็บอกว่าผมบอกละเอียดไม่ได้ แม่ไปไม่ถูกหรอก มันหลง ผมก็โทรถามผู้จัดการพ่อหม่ำ บอกว่าเขาจะเข้าไปหา ผมก็โทรให้เขาได้ยินด้วยนะ แม่ยืนอยู่ข้างๆ เขาจะไปหาพ่อหม่ำเดี๋ยวนี้ ถ้าพี่บุ๋มไม่ให้แม่ไปหาพ่อหม่ำ ให้เอาเงินมา 2 พันบาท ผมก็เลยบอกว่าแม่กลับไปก่อนเดี๋ยวผมโอนให้นะ แม่ไม่กลับ ครั้งที่หนึ่ง พี่บุ๋มพูดอะไรก็พูดมา แม่อัดเสียงอยู่ แม่ครับกลับไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเหลือเงินจากที่ผมส่งรายวันเสร็จแล้วผมจะโอนให้แม่นะครับ แม่ไม่กลับ หรือพี่บุ๋มจะให้แม่ยืนเก็บเงินกับลูกค้าหน้าร้านตอนนี้เลย คนที่อยู่ข้างๆ บูธผมและลูกค้าผมเริ่มได้ยินเสียงแม่ที่กำลังขึ้น และเริ่มโวยวาย ผมยืนฮึบอยู่ เพราะเห็นว่าเริ่มไม่ชอบมาพากลแล้ว เริ่มโวยวาย ผมก็ตัดใจยกโทรศัพท์ขึ้นมา ในบัญชีมีเงิน 5 พันบาท กดโอนให้แม่ 2 พันบาท ผมไม่รู้แม่เห็นหรือเปล่าว่าผมโอนหรือไม่โอน

ปูนา : ด้วยความเราขายของออนไลน์ เราจะไม่รู้ยอด ถ้าไม่ส่งสลิปมา คุณส่งให้เรามั้ย

จั๊กกะบุ๋ม : ผมมีสลิปครับ ผมโอนให้เขา 2 พันเสร็จเขาก็เดินไปเลย ผมก็คิดว่าเขาเห็นแล้วและกลับไป คิดว่าเขาคงเชื่อใจเราแล้ว คงไม่มีเหตุการณ์อะไรแล้ว เขามายืนต้องเอาเงินยอดนี้ให้ได้ ผมก็ฮึบโอนไปให้ 2 พันบาท ทั้งที่อธิบายว่าผมมีรายวันที่ต้องส่งอยู่นะ ผมส่งรายวัน วันละ 10 กว่าคน ทุกวัน คนจะได้หายและคลายสงสัยสักทีว่าเงินมันหายไปไหน ผมบอกเรื่องนี้กับแม่ตลอด วันสุดท้ายที่แม่มา วันที่ 29 ผมก็บอกว่าเอางี้แล้วกันถ้าแม่อยากได้ เดี๋ยวขอส่งรายวัน เงินเหลือจากการส่งรายวัน ผมจะโอนให้แม่ แม่ไม่เชื่อ ผมรู้อยู่แล้วว่าผมติดหนี้อะไรใครบ้าง ผมส่งไปบอกพวกรายวันว่าผมส่งไม่ไหวแล้วนะ ผมขอเหลือแค่วันเท่านี้ๆ พอมั้ย ผมทำได้เท่าที่ผมทำได้

เป็นสิบรายเลยนะคุณไปติดหนี้ทำไมเยอะแยะ?

จั๊กกะบุ๋ม : ผมบอกแม่แล้ว แม่รับรู้นะไม่ใช่ไม่รับรู้

จั๊กกะบุ๋ม

ตอนนี้บุ๋มมองมุมบุ๋มเอง?

จั๊กกะบุ๋ม : ปัจจุบันผมส่งรายวันโดยไม่มีปัญหาอะไร พอมางานพ่อหม่ำ เงินผมเริ่มโฟลว์แล้ว ก็มีคำพูดออกมาว่ารอจบงานพ่อหม่ำก่อน เดี๋ยวจะทยอยส่งให้แม่ได้แล้วนะครับ เงินแม่ขอหลังงานพ่อหม่ำนะครับ ระหว่างทางแม่บอกว่าผมพูดมาตลอดว่าคาดหวังจากงานนี้ แต่งานที่ผมมีความคาดหวัง ผมผิดหวังทุกงานพี่

วันนี้บุ๋มกำลังจะบอกว่าภาระของบุ๋มมีเยอะ แต่ทางนี้มองว่าสิ่งที่บุ๋มกำลังพูด ข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน เขาส่งให้บุ๋ม 100 กระปุกคือ 1 หมื่น บุ๋มขายได้ 1.8 หมื่น แต่บุ๋มเอาหมื่นนึงของเขาไปด้วย แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนผลิตของให้บุ๋มอีก เรื่องเลยเป็นประเด็นขึ้นมา ภาระของบุ๋มตอนนี้กลายเป็นภาระของเขาด้วย ถ้าเป็นพี่ อยู่ดีๆ บุ๋มไม่คืนพี่เลย พี่ต้องมารับภาระจ่ายของพี่เอง พี่ก็ไม่ไหว?

จั๊กกะบุ๋ม : แต่ผมขออนุญาตว่าเงินขายได้ช่วงแรก ขออนุญาตเอาเงินนี้และได้รับอนุญาตแล้ว ไม่งั้นผมจะกล้าได้ไง ผมถึงบอกว่าผมดีใจจังเลย ที่แม่มาช่วยผม

เป็นอย่างนั้นมั้ย?

ปูนา : (ร้องไห้) ไม่ได้เป็นอย่างนั้น

จั๊กกะบุ๋ม : ถ้าเป็นพี่หนุ่มจะยังทำของให้ผมอีกเหรอ ถ้าผมไม่มีจ่ายเงินพี่หนุ่ม

ตอบได้เลย เหมือนลักษณะคอลเซ็นเตอร์ เราหลวมตัวเอาเงินใส่บัญชีนี้แล้วนะ พอเราจะขอเงินคืน คอลเซ็นเตอร์บอกว่าเอาเงินคืนได้นะ แต่ต้องเอาเงินใส่บัญชีนี้ก่อนนะ เดี๋ยวค่อยถอนออกมา มันไม่ต่างกันเลย เป็นพี่ก็ต้องใส่ เพราะต้องการเงินพี่กลับคืนมา ไม่ต่างจากเขา เขาทำส่งเพื่อหวังเงินกลับคืน ต้องเข้าใจมุมนี้ด้วยนะ?

จั๊กกะบุ๋ม : ผมเข้าใจทุกเรื่องเกี่ยวกับปัญหา สิ่งที่ผมกำลังจะบอกทุกคน ถ้าผมไม่มีการพูดคุย ผมพยายามจะสื่อสารว่า ผมมีการพูดคุย และบอกทุกอย่างเกี่ยวกับปัญหาให้ได้รับทราบ มุมผมผมคิดว่าแม่เขาเข้ามาช่วยเหลือซัปพอร์ตผม

ถ้าแม่รับทราบ เขาจะทยอยทวงหนี้ทำไมตั้งแต่เดือนม.ค. มันก็ยืนยันว่าไม่ได้ตกลงกับบุ๋มแบบนั้นนะ?

ปูนา : (ร้องไห้) ใช่ค่ะ

จั๊กกะบุ๋ม : อันนั้นเป็นลายลักษณ์อักษร แต่คุยโทรศัพท์เป็นอีกเรื่องนึง ผมคิดว่าเขาเป็นแม่ผม ช่วยลูก ผมดีใจที่เขาช่วยลงทุนให้ผม เพื่อให้ผมไปชำระหนี้ให้ก่อน ไม่งั้นจะมีได้ไงว่าแม่ไปเช็กมาแล้ว แสดงว่าผมบอกเขาแล้วไงว่าผมต้องชำระหนี้

จั๊กกะบุ๋ม

ตอนนี้จะจ่ายหนี้เขายังไง เขาต้องการเงินคืน?

จั๊กกะบุ๋ม : ถ้าวันนี้ไม่เกิดเรื่อง ไม่เกิดการเอาป้ายไปแขวน ผมลูกผู้ชายพอ ตามนี้เลยครับ หลังงานพ่อหม่ำ

ปูนา : พี่รู้มั้ย 25 มี.ค. หาขายบ้าน ไม่มีอะไรแล้ว เงินอยู่ที่พี่เกือบจะ 3 แสน เราไม่มีอะไรแล้ว สุดท้ายเราขายบ้าน (ร้องไห้) มีคนรับซื้อแล้ว ยอมขายราคาถูกกว่าราคาประเมินเพื่อมาเป็นทุน ให้ทุกคนได้กิน (ร้องไห้) ให้ทุกคนได้ใช้ พี่รู้มั้ยเราต้องขายบ้าน พี่อ่านออกมั้ยคะ (ร้องไห้) เราเดือดร้อนขนาดนี้ เราช่วยเหลือคนอื่นจนเราเดือดร้อนขนาดนี้

พี่ว่าสิ่งที่บุ๋มพูดออกมา มันฟังไม่ขึ้นเลย การที่ออกมาบอกว่าฝั่งนี้ยอมรับเอง แต่มียืนยันเป็นหลักฐาน เป็นการพิมพ์คุยกันว่าต้องทยอยจ่ายเขา ตรงนี้มันมัดตัวอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ยินยอมให้ติดหนี้เขา?

จั๊กกะบุ๋ม : ผมไม่คิดว่าจะแจ้งความอยู่แล้ว แต่คิดว่าระหว่างทาง ผมคุยกับแม่เขาทุกวัน ผมแสดงความบริสุทธิ์ใจตลอด 3 เดือนกว่าๆ คือการพูดคุย ส่งอะไรมาทุกวัน

มีคนติดต่อเข้ามาเยอะมาก รู้จักหมูหยองมั้ย?

จั๊กกะบุ๋ม : รู้จัก เป็นน้องที่ไปเล่นดนตรี ผมประสบปัญหาด้านการเงิน ได้เงินมาก็เอาไปปิดหนี้ ผมก็คาดหวังว่าขายของมีรายได้จะคืนทุกคน ผมขอยืนยันตรงนี้ก่อนเงินที่ผมคั่งค้างทุกคน ยินดีชำระทุกบาททุกสตางค์

แต่ตอนนี้เข้าข่ายไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย?

จั๊กกะบุ๋ม : ก็มันเป็นแบรนด์โลโก้ผมไปแล้ว ผมไม่มีจริงๆ

จั๊กกะบุ๋ม : วันนั้นน่าจะเป็นจังหวะที่ผมกดโอนเงิน ที่แม่ไปขอเงินผม ผมกดโอนเงินโดยมีความรู้สึกว่าผมโอนเงินไปแล้ว แม่ถึงเดินกลับไป แต่แม่บอกว่าแม่ไม่เห็น

วันนี้คุณเองไปเอาของเขามา แล้วไม่จ่ายเงินเขา?

จั๊กกะบุ๋ม : หลังจากผมใช้หนี้รายวันแล้ว ผมใช้หนี้แต่ละคนแล้ว ก็ถึงคิวของแม่แล้ว รองานพ่อหม่ำเสร็จก็จะทยอยคืนแม่แล้วนะครับ

ปูนา : (ร้องไห้โฮ) กราบขอร้อง ให้เขาหยุดพูดเถอะ (ร้องไห้)

 แม่ปูนา

ทำยังไงถึงจะหาเงินมาคืนเขา หนี้รายวันต้องปล่อยไปก่อน?

จั๊กกะบุ๋ม : ก็ที่ผมดิ้นรนขายของทุกวันนี้ไงครับ

บุ๋มขายของไป แล้วเอาเงินจ่ายหนี้รายวันให้ป้าเขาก่อนได้มั้ย?

จั๊กกะบุ๋ม : ผมขายของพร้อมมีเงินส่งรายวัน และมีเงินพร้อมให้แม่แล้ว ผมถึงรับปากแม่ว่าให้รอจบงานพ่อหม่ำก่อน ผมเพิ่งมีเงินก้อนที่ผมเพิ่งเห็น

จั๊กกะบุ๋ม : ผมรู้ว่าผมต้องจ่ายเขา และไม่ใช่ผมไม่จ่ายเขา ผ่านมา 3 เดือน ผมเริ่มหายใจหายคอคล่องขึ้นแล้ว ผมมีความตั้งใจแล้วที่จะคืนเงินแม่แล้ว หลังงานพ่อหม่ำผมมีงานต่อ ขายที่เดิมถึงวันที่ 8 และหลังวันที่ 8 ก็มีงานต่อ แต่หลังจากเกิดเรื่อง ก่อนเกิดเรื่องผมไม่ได้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ก่อนมาถึงเดือนมี.ค. ผมไม่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ หรือมีเม็ดเงินเข้ามาเป็นก้อนเลยแม้แต่บาทเดียว ผมเลยมีการผัดผ่อนแม่ ผมผิดหวังมาสองสามงานแล้ว ขอขยับไปหน่อย ผมคาดหวังงานนี้ ผมขายของได้ ผมทยอยให้แม่แน่นอน ไม่มีเจตนาแม้แต่นิดเดียวในหัวใจที่จะไม่คืนเงินแม่ ไม่เคยพูดแม้แต่คำเดียวว่าจะไม่คืนแม่

สิ่งที่เกิดขึ้น ในวงการนี้จบเลยนะ?
จั๊กกะบุ๋ม : ตลอดระยะเวลา ผมมีโลโก้ตลกตกอับ ตลกเบี้ยวหนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่คืนมาหลายปีมากแล้ว วันนี้ทำไมพฤติการณ์ผมถึงถูกมองว่าเป็นคนไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เพราะข่าวเดิมๆ ที่ผมไม่สามารถอธิบายได้ วันนี้ทำไมคนสองสามแสนคนถึงรุมด่าผม เพราะผมไม่มีโอกาสได้พูดเลย แต่โลโก้ผมอยู่ในสื่อโซเชียลมีเดียทุกสื่อ ผมไม่มีโอกาสได้แก้ตัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมไม่เคยคิดจะได้มานั่งคุยในรายการโหนกระแสเลย เพราะตั้งแต่ไม่มีเงิน ผมก็เก็บเนื้อเก็บตัว ทำมาหากิน ค้าขาย ผมรู้อยู่แล้ว ผมเจียมตัวอยู่แล้ว ผมไม่มีเงินของผมอยู่แล้ว ผมรู้อยู่แล้วว่ามีหนี้เท่าไหร่ ผมเจียมตัวตลอด ไม่เคยกินหรู อยู่สบาย รู้อยู่แล้วต้องเอาเงินให้ใคร ทำงานให้ใคร ผมทำงานตั้งแต่หกโมงเช้าถึงตีสองตีสาม ได้เงิน 700-800 ก็ค่อยๆทยอยๆ ผมเรียงลำดับความสำคัญ ทำไมผมถึงจ่ายแม่ช้า เพราะผมเบาใจ ผมได้คุยกับแม่แล้ว

จั๊กกะบุ๋ม

วันนี้เขาเดือดร้อนมาก จะทำวิธีไหนที่คิดว่าจะบริหารเงินบุ๋มคืนเขาได้?

จั๊กกะบุ๋ม : ตั้งแต่เกิดเหตุมา เป็นเหตุที่ผมไม่ได้คาดหวัง จากที่ผมเคยขายของได้

คุณจะบอกว่าจากที่คุณขายของได้ ทำให้คุณขายของไม่ได้ จะเอาเงินที่ไหนมาใช้?
จั๊กกะบุ๋ม : ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว มีปัญหาผมไม่ได้กลัวหรอก ผมไม่ได้ถูกยอมรับในวงการมานานแล้ว ผมมีข่าวในวงการเสียหายมาเยอะมากแล้ว ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แต่ผลกระทบหลังจากนี้ ผมไปขายของ ความน่าเชื่อถือของผม การถูกให้โอกาสจากคนในสังคม ผมจะไปต่อยังไง ผมถามแค่นี้ ผมไม่ได้โทษใครเลยนะ เพราะความผิดมันเกิดจากตัวผม แต่ผมถามว่าหลังเกิดเหตุการณ์นี้ ผมยอมให้เงินแม่นะ ยอมออกไปค้าขายเพื่อหาเงินใช้หนี้แม่ แต่วันนี้ถ้าผมออกไปขายของ แล้วใครจะซื้อผม  

จั๊กกะบุ๋ม : งานที่ผมจะทำต่อที่เดิม วันนี้ถูกยกเลิกแล้ว งานที่ผมจะทำหลังจากนี้ วันที่ 3-8 ถูกยกเลิกแล้ว จากวันที่ 3-8 ผมไม่มีรายได้แล้ว ผมเพิ่งมีรายได้วันที่ 27-28-29-30-31 มี.ค. เมื่อวานวันที่ 1 ร้านผมขายได้ 15 กล่อง ก็ไม่ซีเรียส เพราะเข้าใจว่าเป็นผลกระทบจากข่าวของผม วันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ต่อไปหลังจากนี้ สังคมให้คำตอบผมแล้ว

ปูนา : พี่หยุดพูด 2.8 แสนแม่ยกให้ พี่หยุดพูดแค่นั้นพอ ยิ่งพูดพี่ยิ่งแย่ แม่ยกหนี้ให้หมดเลยถ้าหยุด

จั๊กกะบุ๋ม : ไม่ครับ ผมอยากให้แม่ได้หนี้คืนเหมือนเดิม ผมไม่อยากให้แม่มายกหนี้ให้ผม ผมไม่ใช่มีเจตนาจะไม่ให้เงินแม่ ผมมีเจตนาตั้งแต่แรก แต่ผมเดินผิดพลาด เดินก้าวผิดพลาด ผมโทษตัวเองตลอด ผมวางแผนผิดพลาดเองหมด

ปูนา : (ร้องไห้เอามือปิดหู)

จั๊กกะบุ๋ม : แม่ไม่ต้องมายกหนี้ให้ผมครับ ผมจะทำมาหากินไปเรื่อยๆ ผมขยับขยายได้ผมจะติดต่อแม่ไปเหมือนเดิม แต่หลังจากนี้ขอกลับไปวางแผนตัวเองก่อนจะใช้ชีวิตยังไง

จั๊กกะบุ๋ม : ผมขอบคุณแม่ที่ยื่นมือมาช่วยผมในวันที่ผมแย่ วันที่ผมตกอับ วันที่ผมไม่มีเงินใช้ ไม่มีแม้เงินประทังชีวิตตัวเอง ผมขอบคุณด้วยหัวใจ ผมคิดว่าแม่คือแม่ผมจริงๆ ด้วยซ้ำไป ถึงแม้เป็นระยะเวลาสั้นๆ 3 เดือน ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ ผมคิดว่ามันเป็นการช่วยเหลือผม วันนี้แม่เก็บตังค์จากผมไม่ได้เป็นจำนวนเงินเกือบ 3 แสน ขอถามนิดนึง แม่เก็บจากเจ้าอื่นไม่ได้ด้วยใช่มั้ยครับ แม่ไม่ได้ทำส่งผมคนเดียวนะครับแม่ อยากรู้จริงๆ ที่แม่มาปรึกษาผม มาถามผม ให้ผมทำโน่นนี่ให้ เพราะแม่เก็บจากเจ้าอื่นไม่ได้ รวมถึงเจ้าอื่นด้วยมั้ย

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส