ชุดพยัคฆ์ไพร ยึดรีสอร์ตรุกพื้นที่ป่า เขาค้อ เจออดีตนายทหารเป็นเจ้าของ

30 มี.ค. 67

ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ตรวจยึดรีสอร์ต รุกพื้นที่ป่าทางขึ้น เขาค้อ เพชรบูรณ์ ผิด พ.ร.บ.ป่าไม้พ.ศ.2484 อึ้ง!เจออดีตนายทหารแสดงตัวเป็นเจ้าของ

วันที่ 29 มี.ค. 67 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.ร่วมกับ ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำโดย นายสมชาย ฉิมแย้ม สายตรวจปราบปรามสบอ.11 พิษณุโลก นำโดยนายพจน์ ชินอัญชนะ ผอ.สอป.สบอ.11พิษณุโลก, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2 (เขาค้อ) และเทศบาลตำบลแคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างรีสอร์ตและร้านกาแฟ ในพื้นที่ป่า ริมทางหลวงหมายเลข12 

ซึ่งด้านหลังรีสอร์ต มีพื้นที่ติดกับบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำชุนใหญ่ ท้องที่หมู่ 7 บ.ทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงพบว่า บริเวณทางโค้งริมถนนหมายเลข 12 กม. มีการเปิดเหล็กกั้นริมถนนเป็นช่องทางให้รถเข้าไปในลานจอดรถริมถนน มีอาคารร้านค้าทำด้วยไม้หลังคามุงกระเบื้อง 1 หลัง ด้านหน้าติดป้ายชื่อร้าน และมีอาคารคอนกรีตชั้นเดียว หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีฟ้า กำลังก่อสร้างเทพื้นคอนกรีต 1 หลัง 

พบอดีตนายทหาร อายุ 65 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดิน เจ้าหน้าที่จึงให้นำชี้ขอบเขตที่ดินจับค่าพิกัด และสอบปากคำ จากการตรวจสอบพบว่า จุดที่กำลังก่อสร้างเป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เป็นพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 2 อยู่ในโครงการฟื้นฟู และพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 46 เพื่อป้องกันและบรรเทาความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 44 จำนวนเนื้อที่ 132,626 ไร่ และบริเวณที่กำลังก่อสร้างไม่มีการสำรวจการถือครองตามมติ ครม. วันที่ 30 มิ.ย.41 แต่มีการสำรวจข้อมูลการถือครองที่ดินเมื่อปี 59 ระบุชื่อผู้ครอบครองคือ อดีตนายทหาร เนื้อที่ 4 ไร่ ตรวจสอบพื้นที่ติดกับร้านค้า ยังพบตึก 2 คูหา 3 ชั้น มีห้องพักรวม 6 ห้อง ด้านหลังทำเป็นระเบียงชมวิวอ่างเก็บน้ำพื้นที่ด้านหลังอาคารร้านค้า และตึกเป็นหน้าผามีความลาดชันมาก มีการก่อสร้างอาคารถาวรเสาเหล็กพื้นแผ่นคอนกรีต 3 ระดับ ทำเป็นฐานสร้างห้องพักเป็นโดมขนาดใหญ่ จำนวน 12 หลัง และฐานกางเต็นท์อีก 7 ห้อง 

และจากการนำชี้ขอบเขตที่ดินที่ครอบครองของอดีตนายทหาร และจับค่าพิกัดมาคำนวณพื้นที่ได้เนื้อที่ 5-3-24 ไร่ ซึ่งเป็นการขยายพื้นที่ทำกินเดิม เมื่อตรวจสอบภาพถ่ายปี 45 และปี 63 พบว่าบริเวณจุดตรวจสอบมีการทำประโยชน์มาก่อนแต่เริ่มปรากฏร่องรอยการปรับพื้นที่สร้างรีสอร์ตเมื่อปี 63 ซึ่งเป็นการบุกรุกป่าใหม่หลังปี 57 จึงไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น และไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามตามมติ ครม. วันที่ 26 พ.ย. 61จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมด พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย 

จากการตรวจสอบกับเทศบาลตำบลแคมป์สน ทำให้ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างแต่อย่างใด จึงมอบให้เทศบาลตำบลแคมป์สนดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2522

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส