ประวัติ จักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกรัฐบาลยุคทักษิณ เปิดสาเหตุที่ต้อง ลี้ภัย ไปต่างประเทศ นานถึง 15 ปี ก่อนประกาศกลับเมืองไทย 28 มี.ค.67
จุดเริ่มต้น เส้นทางการเมือง จักรภพ เพ็ญแข
ดร.จักรภพ เพ็ญแข ชื่อเล่น เอก เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2510 ศึกษาชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้น เข้าศึกษาต่อที่คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อจบปริญญาตรีแล้ว จึงเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ที่วิทยาลัยระหว่างประเทศศึกษาชั้นสูงพอล เอช. นิทซ์ (SAIS) มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกา
จักรภพ เพ็ญแข เป็นที่รู้จักจากการเปนผู้ประกาศข่าว ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ต่อมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนาม "พรรคไทยรักไทย"
ซึ่งการลงสมัครใน 2 ครั้งแรกตัวเขาไม่ได้รับการเลือกตั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2548 และครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2549 อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา นายจักรภพได้รับการแต่งตั้งเป็น "รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี" ในรัฐบาลทักษิณ 2
หลังจากเกิดคดียุบพรรคการเมืองในปี พ.ศ. 2549 และเกิดรัฐประหารในปีเดียวกันนั้น นายจักรภพ พร้อมด้วยกลุ่มองค์กรต่อต้านเผด็จการ รวมตัวกันเป็นแกนนำจัดเวทีปราศรัยต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ โดยขึ้นปราศรัยที่ท้องสนามหลวงซึ่งใช้ชื่อว่า “แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ” (นปก.)
ในปี พ.ศ.2550 พรรคพลังประชาชน ชนะการเลือกตั้ง โดยมี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.พ.2551 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ นายจักรภพ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีหน้าที่กำกับดูแลสื่อมวลชนภาครัฐ
และในวันที่ 1 เม.ย. ปีเดียวกันนั้น นายจักรภพ เป็นประธานในการเปลี่ยนแปลงสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)
จักรภพ เพ็ญแข สาเหตุ ลี้ภัย
ต่อมา ในปี พ.ศ. 2557 ประเทศไทยเกิด รัฐประหาร ขึ้นอีกครั้ง โดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งเรียกให้ นายจักรภพ เพ็ญแข ไปรายงานตัว แต่ นายจักรภพ เพ็ญแข ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง
ศาลทหารจึงออกหมายจับ ข้อหาฝ่าฝืนการไปรายงานตัว ในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558 1 หมายจับ และวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558 1 หมายจับ ข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง และข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง
และในวันที่ 7 ธ.ค.2560 ศาลอาญาได้ออกหมายจับ เลขที่ 2692/60 ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายและเป็นอั้งยี่
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ นายจักรภพ เพ็ญแข ต้องลี้ภัยทางการเมืองไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ เป็นเวลานานถึง 15 ปี โดยอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา และล่าสุดได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 28 มี.ค. 2567 นี้
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนขึ้นเครื่องกลับประเทศไทย นายจักรภพ ได้โพสต์คลิปถึงเหตุผลการตัดสินใจกลับไทย โดยระบุว่า
"ตนเพิ่งนึกได้ว่าหายหน้าไปนานเหลือเกินจนหลายคนถามหา เหตุการณ์ตอนนั้นมีความขัดแย้งเรื่องการเมือง ตนอยู่ข้างหนึ่ง พี่น้องประชาชนอีกหลายคนอยู่อีกข้างหนึ่ง ทำให้มีความเป็นห่วงเรื่องอันตราย สวัสดิภาพส่วนตัว ตนติดตามบ้านเมืองมาโดยตลอดแต่ก็ยังกลับไม่ได้เพราะเหตุการณ์ยังไม่เอื้ออำนวย
ตนมาอยู่ต่างประเทศได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกเรื่อง ตนก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่รู้สึกห่วงใยประเทศชาติ เราแสดงความรักประเทศในรูปแบบที่ต่างกัน และตนคิดว่าสามารถเอาความรู้ความสามารถตรงนี้กลับไปช่วยประเทศไทยในช่วงที่โลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง สิบกว่าปีที่ผ่านมาทำให้ตนคิดได้ว่า เราคนไทยจะมาขัดแย้งกันทำไมในช่วงที่โลกกำลังเกิดการผันผวน ประเทศไทยควรรวมกันเป็นหนึ่งเดียว การหลากหลายทางความคิดเป็นเรื่องดี ไม่น่าจะเป็นเหตุให้ต้องทะเลาะกัน จึงเอาตัวเองเป็นตัวเริ่มต้น ในเมื่อเราคิดก็ต้องทำเองก่อน
จึงเดินทางกลับไทยเพื่อกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มีคดีเกิดขึ้นหลายคดีต้องกลับไปมอบตัว และหวังว่าจะสู้คดีและอธิบายได้ เมื่อได้อิสรภาพก็จะสามารถรับใช้บ้านเมืองได้ตามใจปรารถนา ตนขออนุญาตกลับบ้าน ตนอยู่ข้างนอกพอแล้วครับ อยากกลับบ้าน"
